เวเนซูเอลากำลังพิจารณาการแบนโฆษณานมผงและขวดนมเด็กทุกรูปแบบ โดยเน้นไปที่สุขภาพของทารกอายุไม่เกิน 6 เดือน
ก่อนจะวางแผนพึ่งพานมผงหลากสูตรหรืออาหารเสริมในช่วง 1 เดือนแรกของทารก ทางการเวเนซูเอลาสนับสนุนให้แม่ทุกคนมีโอกาสได้ให้นมลูกด้วยตัวเอง
ขณะนี้รัฐบาลเวเนซูเอลาอยู่ในระหว่างปรับปรุงร่างกฎหมายส่งเสริมและปกป้องการให้นมแม่ เพื่อสนับสนุนให้แม่เลือกให้นมลูกด้วยตนเอง โดยแบนการโฆษณาและกิจกรรมส่งเสริมการขายในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการให้นมทารก อาทิ นมผง ขวดนม และจุกนม สำหรับบริษัทที่ฝ่าฝืน อาจต้องเสียค่าปรับตั้งแต่ 670 เหรียญสหรัฐจนถึง 51,000 เหรียญสหรัฐ
โอดาลิส มอนซอน รองประธานคณะกรรมการครอบครัว ผู้นำการปฏิรูปกฎหมายในครั้งนี้ กล่าวถึงสาเหตุที่โฆษณานมผงและขวดนมสำหรับเด็กสมควรถูกแบน เพราะเป็นการทำลายสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และเด็กในระยะที่ทารกสมควรได้รับมากที่สุด
โครงการสนับสนุนการให้นมแม่แก่ทารกแรกเกิดถึง 6 เดือนนี้ จะยกเว้นเฉพาะแม่ที่ประสบปัญหาเรื่องน้ำนม ซึ่งจะได้รับคำแนะนำเรื่องนมผงและอาหารเสริมจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ
ส่วนขวดนมเด็กยังสามารถวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตได้เช่นเดิม แต่มอนซอนรับรองว่าจะมีการกำกับดูแลไม่ให้มีโฆษณาเพิ่มเติม
ขณะที่กลางเดือนมิถุนายน ประเทศแถบสแกนดิเนเวียอย่างเดนมาร์ก กลับมีการนัดประท้วงของแม่ลูกอ่อนหลายร้อยคน และพวกเธอพร้อมใจกันให้นมลูกที่หน้าศาลาว่าการกรุงโคเปนเฮเกนเสียเลย
ผู้นำการประท้วงครั้งนี้คือ ไทรน์ มาเรีย ลาร์เซน เหตุเกิดระหว่างเธอกำลังนั่งให้นมลูกในร้านกาแฟ จู่ๆ ลูกค้าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาเตือนว่า การให้นมลูกที่นี่ เป็นกิจกรรมที่ไม่สุภาพ และบอกว่าสิ่งที่เธอทำไม่ต่างจากการเข้าห้องน้ำทั้งที่ปากยังเคี้ยวข้าวอยู่
ทั้งที่กระทรวงสาธารณสุขเดนมาร์กสนับสนุนให้เลี้ยงทารกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน และการให้นมบุตรในที่สาธารณะสำหรับเดนมาร์กเป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อลาร์เซนเขียนประสบการณ์ตรงที่เธอเจอมาในบล็อกส่วนตัว กลุ่มแม่ลูกอ่อนและผู้ติดตามจึงเริ่มรวมตัวกันบนโลกออนไลน์ ก่อนจะนัดประท้วงนมแม่พร้อมกันที่หน้าศาลาว่าการเพื่อยืนยันอีกครั้งว่า การให้นมของพวกเธอเป็นเรื่องธรรมชาติ
ที่มา: kwtx.com / worldcrunch.com