เมื่อทั้งเป๊ปซี่และโค้กไม่ต้องการติดฉลากเตือนว่าสินค้าตนเอง ‘มีสารที่อาจก่อมะเร็ง’ ตามกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทั้ง 2 บริษัทที่ครองตลาดน้ำอัดลมร้อยละ 90 จึงต้องขยับตัวและปรับส่วนผสม ที่มี 4-methylimidazole หรือ 4-MeI เฉพาะในสหรัฐ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สาร 4-MeI ถือเป็นส่วนประกอบของสี CaraMeI ในเป๊ปซี่ ซึ่งทางเป๊ปซี่ออกมายืนยันว่าทางบริษัทยกเลิกการใช้สารนี้ไปแล้ว แต่ผลการศึกษาโดยศูนย์คุณภาพสิ่งแวดล้อม (Center for Environmental Health: CEH) สุ่มทดสอบโค้กและเป๊ปซี่เฉพาะในแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนพฤษภาคม และเก็บตัวอย่างน้ำดำทั้งสองทั่วสหรัฐเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา ยังรายงานว่าพบสารดังกล่าวในผลิตภัณฑ์เป๊ปซี่นอกแคลิฟอร์เนีย
PepsiCo Inc. ออกมาให้เหตุผลเรื่องนี้ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านสายพานการผลิตเพื่อยกเลิกสาร 4-MeI ซึ่งจะครอบคลุมทั่วสหรัฐภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 ขณะที่มีแผนจะเลิกใช้สารนี้ทั่วโลกแล้ว แต่ยังไม่กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจน
แม้คณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (Food and Drug Administration: FDA) จะให้ข้อมูลว่า ผู้บริโภคต้องดื่มน้ำอัดลมเหล่านี้มากกว่า 1,000 กระป๋องต่อวันจึงจะมีปริมาณสาร 4-MeI ในร่างกายที่เสี่ยงต่อมะเร็ง แต่หลังจากผลการทดลองกับหนูที่เปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์ USA Today บ่งชี้ว่าสารเคมีในสี CaraMeI นั้นสามารถก่อมะเร็งได้ รัฐแคลิฟอร์เนียก็เติมชื่อ 4-MeI ลงในรายชื่อสารก่อมะเร็งที่บังคับให้ผู้ประกอบการติดฉลากเตือนผู้บริโภคทันที
ที่มา: alternet.org