นักท่องเที่ยวที่มายลเสน่ห์แห่งเวนิสช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาคงไม่ได้เตรียมตัวและเตรียมใจว่าจะต้องมาเล่นน้ำ(ท่วม)กลางเมือง เพราะเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน น้ำทะเลได้พุ่งสูงขึ้นจนเข้าท่วมเมือง ปริมาณน้ำที่วัดได้สูงกว่า 149 เซนติเมตร เหนือระดับทะเลเอเดรียติก ยิ่งไปกว่านั้น มวลน้ำดังกล่าวยังมาพร้อมสภาพอากาศเลวร้ายทั่วอิตาลีในช่วงสุดสัปดาห์ ก่อให้เกิดน้ำท่วมเมืองโบราณหลายแห่งร่วมทั้งวิเซนซาและแคว้นทัสกานีด้วย
น้ำท่วมเวนิสหนนี้ ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดอันดับที่6 นับตั้งแต่ปี 1872 และเลวร้ายที่สุดในรอบ 22 ปี กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของเมืองจมอยู่ใต้บาดาล ขณะที่บางจุดท่วมสูงเสียจนทำให้สะพานไม้สำหรับแต่ละบ้านเดินถึงกันลอยหายไปเลยทีเดียว
ปริมาณน้ำท่วมสูงที่สุดของเวนิสเกิดขึ้นเมื่อปี 1966 ระดับน้ำ ณ ตอนนั้นวัดได้สูงกว่า 194 เซนติเมตร ถือเป็นสัญญาณเตือนให้ผู้อยู่อาศัยแถบนั้นทิ้งถิ่นฐานย้ายไปแสวงโชคบนแผ่นดินใหญ่แทน
น้ำท่วมครั้งล่าสุดนี้ ชาวเวนิสจำนวนมากโจมตีผ่านศูนย์พยากรณ์อากาศประจำเมืองผ่านเฟซบุคว่าคาดการณ์ผิดๆ ถูกๆ จากเดิมที่พยากรณ์ว่าในวันอาทิตย์น้ำจะขึ้นสูงเพียง 120 เซนติเมตร
อเลสซานโดร มาจจอนี (Alessandro Maggioni) ที่ปรึกษางานสาธารณะของเมือง กล่าวปกป้องศูนย์พยากรณ์อากาศเวนิส และอธิบายว่า การที่น้ำท่วมสูงนี้ “เป็นเรื่องผิดปกติและอยู่เหนือการคาดการณ์” ขณะที่โครงการสร้างกำแพงกั้นน้ำของเมืองเวนิซยังอยู่ในระหว่างก่อสร้าง ตามแผนจะเสร็จราวปี 2015
ที่มา : guardian.co.uk