ในดินแดนทุนนิยมเสรีอย่างสหรัฐ อนุญาตให้บรรษัทส่งผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้ามาได้ โดยไม่จำกัดคุณสมบัติ หรือตรวจสอบความปลอดภัยก่อนวางตลาด เพราะเชื่อมั่นในกลไกตลาดว่าจะสามารถควบคุมและกำกับดูแลกันเองได้
แม้จะให้สิทธิ์เต็มที่แก่ผู้บริโภคในการหาความรู้และตัดสินใจเลือกได้เอง ถ้าผู้บริโภครู้ว่าผลิตภัณฑ์ใดมีอันตราย หรือเกิดข้อกังขาเรื่องความปลอดภัย พวกเขาก็มีสิทธิ์จะหยุดซื้อสินค้านั้นและที่สุดแล้วกลไก ‘ตลาดเสรี’ จะสามารถจัดการตัวเองได้
อุปกรณ์และเครื่องมือในการปฏิบัติงานบางอย่างตั้งแต่ยุค 1970 มีแร่ใยหิน (Asbestos) เป็นส่วนประกอบ ตั้งแต่ถุงมือกันไฟ ชุดทนไฟ ฝ้าเพดาน หรือใกล้ตัวอีกนิดอย่างกระเบื้องมุงหลังคา เมื่อผ่านการใช้งานในหลัก 10 ปีขึ้นไป แร่ใยหินจะเริ่มเสื่อมสภาพ จนเกิดการฟุ้งกระจายของเส้นใยในพื้นที่ทำงาน ซึ่งทวีความน่ากลัวยิ่งขึ้น เพราะเราอาจสูดหายใจเอาเส้นใยดังกล่าวเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เพราะลักษณะของเส้นใยที่ดูเหมือนปุยสำลีหรือฝ้าย
สิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐ ทางเทคนิคดูเหมือนผู้ป่วยจะเสียชีวิตด้วยแร่ใยหิน แต่แท้จริงสิ่งที่ฆ่าพวกเขาคือกลไกทุนนิยมเสรีที่เชื่อมั่นในกลไกตลาดจนขาดการกำกับและการจัดการที่ดี
ข้ามมาดูการกำกับดูแลของสหภาพยุโรปหรือญี่ปุ่น จะกำหนดให้ผู้ผลิตต้องรับรองความปลอดภัยของสินค้าใหม่ก่อนวางจำหน่าย หรือที่เรียกว่า หลักการป้องกันไว้ก่อน (precautionary principle)
จากสถิติและข้อมูลทางสาธารณสุข นักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสามารถสืบย้อนหลังไปได้นับร้อยปีและยืนยันว่า แร่ใยหินเป็นสาเหตุของมะเร็งเยื่อหุ้มปอด หรือเมโซเธลิโอมา (mesothelioma) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาการป่วยที่เกิดจากการทำงานเกี่ยวข้องกับแร่ใยหินโดยตรงแต่ขาดการป้องกันที่ได้มาตรฐาน
ทุกปี สำนักสุขภาพและความปลอดภัยแห่งอังกฤษ (Health and Safety Executive: HSE) ในเมืองลิเวอร์พูล รายงานสถิติผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยอาการป่วยว่ามีส่วนเกี่ยวเนื่องกับเมโซเธลิโอมา โดยปี 2012 จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคนี่อยู่ที่ 2,300 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 1968 ที่พบผู้ป่วย 153 ราย และสถิติผู้ป่วยด้วยเมโซเธลิโอมา มากกว่าร้อยละ 80 ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย และมีประวัติเกี่ยวข้องกับงานที่มีแร่ใยหินเป็นส่วนประกอบ
สหภาพยุโรปต้องการประกาศแบนแร่ใยหิน 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2028 ทั้งนี้สถิติในยุโรป ตั้งแต่ปี 1997-2007 พบผู้ป่วยด้วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดเสียชีวิตแล้วกว่า 35,000 คน
ที่มา: alternet.org /
independent.co.uk
Author
