25 ข่าวที่ไม่เป็นข่าวแห่งปี 2013 (4)

Palestinian woman 1

แปลและเรียบเรียง : ณัฐกานต์ อมาตยกุล

 

Project Censored – โครงการวิจัยทางด้านสื่อมวลชนของมหาวิทยาลัยโซโนมาสเตท สหรัฐอเมริกา มีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้แก่นักศึกษาและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับบทบาทของสื่อมวลชนอิสระในสังคมประชาธิปไตย รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การปิดกั้นข่าวและเซ็นเซอร์ตัวเองของสื่อมวลชนกระแสหลักของสหรัฐ โครงการนี้คอยติดตามข่าวที่ตีพิมพ์หรือเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ทั้งกระแสหลักและอิสระ จากนั้นจะคัดข่าวจำนวน 25 ข่าวประจำปี ที่โครงการเห็นว่ามีความสำคัญ แต่กลับถูกสื่อกระแสหลักมองข้าม

กระบวนการคัดสรรข่าวเริ่มจากเปิดให้นักหนังสือพิมพ์ นักวิชาการ บรรณารักษ์และประชาชนทั่วโลก เสนอข่าวที่คิดว่ามีความสำคัญเข้ามา ซึ่งมีประมาณ 700-1,000 ข่าวต่อปี จากนั้น คณาจารย์ นักศึกษาและสมาชิกในชุมชนมหาวิทยาลัยกว่า 200 คน จะร่วมมือกันทำวิจัยทั้งหัวข้อข่าว เนื้อหา ความน่าเชื่อถือของข้อมูลและความสำคัญของข่าวนั้นๆ จนคัดกรองเหลือ 25 ข่าวที่เห็นว่าสำคัญที่สุด ส่งต่อไปให้คณะผู้ตัดสินของโครงการลงคะแนนจัดอันดับ

และข่าวอันดับ 16-20 มีดังนี้

 

ลาวีนา จอห์นสัน
ลาวีนา จอห์นสัน

 

16.  กลาโหมปิดข่าวสถิติทหารหญิงโดนคุกคามทางเพศเพิ่มขึ้น

การเสียชีวิตของพลทหารหญิง ลาวีนา จอห์นสัน ในปี 2005 ถูกระบุจากทางกระทรวงกลาโหมว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เธอเป็นหนึ่งในเหยื่อของการใช้ความรุนแรงทางเพศซึ่งนายทหารหญิงหลายคนต้องเผชิญในระหว่างการทำงานรับใช้ชาติ จากการชันสูตรศพของจอห์นสันพบว่ามีบาดแผลในจุดต่างๆ ที่ไม่สอดคล้องกับการฆ่าตัวตาย เช่น บาดแผลไหม้จากสารเคมี ซึ่งหลายคนเชื่อว่าเป็นผลจากการทำลายหลักฐานทางพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ที่อาจตกค้างจากการข่มขืน

ทางกระทรวงกลาโหมพยายามข่มขู่ผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่ขุดคุ้ยเรื่องของจอห์นสันขึ้นมา นอกจากคดีของจอห์นสัน ยังมีกรณีลักษณะเดียวกันนี้ที่นายทหารหญิงเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำอย่างน้อยอีก 20 ราย  การตายแบบลึกลับดังกล่าวมีขึ้นพร้อมๆ กับสถิติการใช้ความรุนแรงทางเพศที่สูงขึ้นในกองทัพ ข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมแสดงให้เห็นว่าในปี 2010 มีรายงานการคุกคามทางเพศรวม 3,158 ครั้ง และก็คาดว่าจำนวนดังกล่าวเป็นเพียงร้อยละ 13.5 ของจำนวนครั้งที่เกิดขึ้นจริงทั้งหมด ซึ่งนั่นหมายความว่าจำนวนรวมของเหตุข่มขืนและคุกคามทางเพศในกองทัพอาจพุ่งทะลุ 19,000 ครั้งต่อปี

 

student and debt

 

17. นักศึกษาแบกหนี้กองทุนกู้ยืม 1 ล้านล้านดอลลาร์

ในเดือนเมษายนปี 2012 หนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคั่งค้างจนแตะระดับหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่าหนี้บัตรเครดิตเสียอีก แต่ขณะที่สื่อกระแสหลักพากันนำเสนอเรื่องนี้ พวกเขากลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าวอย่างจริงจังนัก และไม่ได้เสนอแนะทางออกใดๆ

หนี้นักศึกษาเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของหนี้ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอมาตั้งแต่ปี 2008 ภัยคุกคามจากการผิดนัดชำระหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนี้ซึ่งต้องอัดเงินภาษีเข้าไปช่วยพยุงเอาไว้ ถือเป็นความเสี่ยงต่อระบบที่ร้ายแรงเทียบได้กับการล้มของบรรดาธนาคารพาณิชย์ที่ฉุดเศรษฐกิจสหรัฐให้ล้มระเนระนาดฉับพลันในปี 2008  ธนาคารกลางสหรัฐควรจะมีมาตรการเยียวยาเงินกู้ก้อนนี้ เพื่อลดหนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไป และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว

 

palestinian women2

 

18. นักโทษหญิงปาเลสไตน์ถูกล่ามขณะคลอดบุตร

เหล่านักโทษหญิงชาวปาเลสไตน์ในเรือนจำของอิสราเอลถูกปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม พวกเธอไม่ได้รับการรักษาพยาบาล และไม่ได้รับความช่วยเหลือด้านกฎหมาย อีกทั้งต้องอยู่ในห้องขังที่มีสภาพสกปรก ทางด้านคณะกรรมการกำจัดการเลือกปฏิบัติต่อเพศหญิงแห่งสหประชาชาติ (CEDAW) ได้ให้ความเห็นว่าการกระทำรุนแรงต่อนักโทษหญิงและสภาพความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ที่พวกเธอต้องเผชิญ จำเป็นต้องได้รับการนำเสนอในแง่มุมทางด้านเพศสภาพ

 

NYPD

 

19. ตำรวจนิวยอร์กยัดยาผู้บริสุทธิ์เพื่อทำยอดให้ถึงโควตา

มีรายงานมากมายเกี่ยวกับกรณีที่ตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) กระทำการผิดกฎหมายเสียเองทั้งๆ ที่มีหน้าที่รักษากฎหมาย ในเดือนตุลาคม ปี 2011 อดีตเจ้าหน้าที่สืบสวนยาเสพติดให้การว่าเขามักเห็นเพื่อนตำรวจด้วยกันยัดเยียดข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์เพื่อจะได้มียอดการจับคุมถึงโควตาที่กำหนดไว้

โครงการ ‘ขัดขวางและค้นตัว’ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันอยู่นั้น ได้ใช้งบประมาณ 75 ล้านดอลลลาร์เพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยที่มีกัญชาจำนวนเล็กน้อยไว้ในครอบครอง การจับกุมแต่ละครั้งมีมูลค่าประมาณ 1,000-2,000 ดอลลาร์ แต่ในขณะที่สื่อมวลชนมักให้ความสนใจกรณีที่ตำรวจจะใช้วิธีการจับกุมที่ละเมิดหลักกฎหมายและใช้อำนาจในทางที่ผิดต่อผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสงบ แต่กับกรณีเช่นนี้ที่ตำรวจใช้อำนาจอย่างอยุติธรรมและโหดร้ายต่อคนผิวดำ ยังคงไม่ได้รับการนำเสนอต่อสาธารณะ

 

US prison

 

20. ลดทอนคุณภาพระบบการศึกษาของรัฐเพื่อหนุนอุตสาหกรรมเรือนจำ

การรื้อโครงสร้างลำดับความสำคัญในระบบการศึกษาถือเป็นการตอกย้ำและสร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่คงทนถาวรให้คนชนชั้นล่างจำต้องเผชิญต่อไป จากเดิมที่พวกเขาเองก็ตกอยู่ในฐานะผู้ถูกป้ายสีเป็นอาชญากร และคนผิวดำผู้ยากไร้อยู่แล้ว ปัจจุบัน โรงเรียนต่างๆ ที่มีบริษัทเอกชนอยู่เบื้องหลังและเรือนจำของเอกชนเดินหน้าสู่ความรุ่งโรจน์ สอดรับการการปิดตัวลงของโรงเรียนรัฐบาลหลายแห่งทั่วประเทศมากเป็นประวัติการณ์

(ติดตามข่าวลำดับ 21-15 ได้ในตอนต่อไป)

**********************************

(ที่มา : projectcensored.org)

Author

ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ
หญิงแกร่งที่ทำงานทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านให้กับ WAY ถ้าเป็นนักฟุตบอลนี่คือผู้เล่นผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ในสายงานข่าว ทั้งคลุกคลี สัมภาษณ์ บันเทิง ไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้การเป็นคุณแม่ซึ่งมีลูกสาวย่างเข้าวัยรุ่นยังช่วยส่งเสริมให้สามารถปั่นงานด้านเด็กและเยาวชนอย่างเชี่ยวชาญ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า