เวียดนามสร่างเมา เบียร์สดริมทางสร่างซา

เวียดนามมีชื่อเสียงมายาวนานในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวา ภูมิทัศน์ที่สวยงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารและเครื่องดื่มคือ วัฒนธรรมอีกด้านหนึ่งที่มีรสชาติเฉพาะตัวเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะขอลิ้มชิมรสจากร้านอาหารริมทาง 

ไม่เพียงแค่นี้ เครื่องดื่มทางวัฒนธรรม เป็นซิกเนเจอร์ของเมืองคือ ‘เบียร์สด’ หมักในท้องถิ่น เต็มไปด้วยเสน่ห์และความพิเศษ ที่เชิญชวนทั้งคนเวียดนามท้องถิ่น และเป็นไฮไลต์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด  

การดื่มเพื่อสังคมกลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตชาวเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฮานอยที่มีร้าน เบียร์เฮย (Bia Hoi) หรือ ‘เบียร์สด’ ที่มาพร้อมกับแกล้มราคาถูก ร้านเบียร์เฮยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางทางสังคม เป็นที่สังสรรค์และผ่อนคลายของชนชั้นกลาง-ชนชั้นรากหญ้าในเวียดนาม

กิตติศัพท์เรื่องเล่าดังกล่าว เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาผู้เขียนได้เดินทางไปฮานอยด้วยความคาดหวังที่จะได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมการดื่มอันเป็นเอกลักษณ์นี้ของเวียดนาม

แต่ประสบการณ์ที่ได้ประสบพบเจอแตกต่างจากความคาดหวังไว้อย่างมาก 

ในคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ร้านเบียร์สดในใจกลางเมืองเปิดเพียงไม่กี่ร้าน โต๊ะริมทางถูกพับ ลุงเจ้าของร้านนั่งที่นั่งตบแมลงวันรอลูกค้าก็รีบกุลีกุจอจัดแจงโต๊ะเมื่อได้เห็นผู้เขียนย่างกรายเข้าไปในร้าน หลังจากได้ดื่มและลิ้มลองกับแกล้มเลิศรสสมคำร่ำลือได้ซักระยะผู้เขียนก็สังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง ถนนที่เงียบเหงากว่าตอนกลางวันอย่างเห็นได้ชัดส่งผู้คนเข้ามายังร้านเพียงครั้งละคนสองคน คนในท้องที่ผู้เวียนเข้ามาในค่ำคืนนั้นต่างมีชุดพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกันคือ นั่งกินเบียร์เพียงแก้วหนึ่งต่อด้วยกับแกล้มหนึ่งจาน นั่งรอเวลา และขี่รถมอเตอร์ไซค์จากไป นี่แตกต่างกับวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาอย่างที่ผู้เขียนเคยได้ศึกษามา นำไปสู่คำถามว่า อะไรที่ทำให้วัฒนธรรมการดื่มที่เป็นเอกลักษณ์นี้เปลี่ยนไป 

ความสัมพันธ์ของเวียดนามกับแอลกอฮอล์มีการพัฒนาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในอดีตการบริโภคแอลกอฮอล์เป็นส่วนสําคัญของการมีปฎิสัมพันธ์ต่อสังคมและวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น ร้านเบียร์เฮยกลายเป็นสัญลักษณ์ของความแน่นแฟ้นและการผ่อนคลายของชุมชน ในฐานะตัวเลือกที่ราคาถูกที่สุดสําหรับการสังสรรค์ในสังคมเวียดนาม 

รัฐเวชกรรมนำแอลกอฮอล์ = สิ่งต้องห้ามในสังคม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามได้ใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อจัดการกับผลกระทบด้านลบของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาสิ่งเหล่านี้คือ การควบคุมภายใต้นโยบายแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ขณะขับขี่ ตามที่ร่างกฎหมายบัญญัตินโยบายนี้ห้ามผู้ขับขี่มีแอลกอฮอล์ในเลือดแม้แต่ 1 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ โดยมีโทษปรับถึง 8 ล้านด่ง ยึดใบขับขี่ 10-24 เดือน  

ความผิดนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากดื่มแอลกอฮอล์เพียงครึ่งแก้ว เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและการเสียชีวิตอันเป็นผลมากจากการเมาแล้วขับ

ในระหว่างการเยือนฮานอยครั้งล่าสุด ร้านเบียร์สดในท้องถิ่นเงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งนี้แตกต่างอย่างมากกับความคาดหวังที่จะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมเบียร์เฮยที่เคยเจริญรุ่งเรือง ถนนในฮานอยซึ่งครั้งหนึ่งเคยคึกคักไปด้วยร้านเบียร์สดริมทาง ปัจจุบันดูเงียบสงบมากขึ้น 

นโยบายส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อพฤติกรรมการดื่มปัจจุบันคนเวียดนามส่วนใหญ่ระมัดระวังมากขึ้นในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่สาธารณะ เนื่องจากมีบทลงโทษอันเข้มงวดสำหรับการเมาแล้วขับ การเปลี่ยนแปลงนี้เห็นได้ชัดเจนจากความซบเซาของร้านเบียเฮย ซึ่งแต่เดิมต้องอาศัยฐานลูกค้าที่เป็นชนชั้นกลาง-รากหญ้าผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มายังร้านเพื่อดื่ม 

ผลเชิงบวกจากการบังคับใช้กฎหมายนี้ ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจรที่เกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้รับเสียงสนับสนุนจำนวนมากในสภาแห่งชาติอย่างเข้มแข็ง

ในขณะเดียวกัน มีเสียงบางส่วนที่พยายามชี้ให้เห็นถึงปัญหาของกฎหมายฉบับนี้ ฝั่ม วัน ฮว่า (Phạm Văn Hòa) ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จากจังหวัดด่งท้าป (Đồng Tháp) ชี้ว่า ส่วนใหญ่แรงงานในชนบทที่มีเพียงรถมอเตอร์เป็นตัวเลือกเดียวในการเดินทางไปสังสรรค์ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมให้คนกลุ่มนี้ปราศจากแอลกอฮอล์ 100% และการมีแอลกอฮอล์ในร่างกายจำนวนน้อยนิดจากเบียร์เพียง 1 กระป๋อง ก็ไม่ส่งผลอะไรกับประสิทธิภาพในการขับขี่ แต่ในขณะเดียวกัน หากคนกลุ่มนี้ไปดื่มสังสรรค์กันอย่างหนักหน่วงและตื่นไปทำงานตอนเช้าด้วยรถมอเตอร์ไซค์ เขายังคงมีสิทธิ์ถูกปรับ กฎหมายฉบับนี้จึงไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่งสำหรับเขา 

อย่างไรก็ดี ความเห็นส่วนใหญ่ในสภาแห่งชาติยังคงเห็นชอบให้กฎหมายดังกล่าวและผ่านการลงมติไปด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 388 จาก 450 เสียง

นโยบายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลต่อความปลอดภัยสาธารณะและแนวทางเชิงรุกในการลดการเสียชีวิตบนท้องถนน จากที่เคยถูกปรามาสมาอย่างยาวนานว่าไม่คิดจริงจังกับการแก้ปัญหาสังคมอันเกิดจากเครื่องดื่มมึนเมา

บรรยากาศในปี 2013 | photo: Prashant Ram

เวียดนามจะสร่างเมา เบียร์สดริมทางจะสร่างซ่า

กฎระเบียบนี้ยังนำไปสู่การลดปริมาณการดื่มของคนในเวียดนาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจในท้องถิ่นที่ต้องพึ่งพาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านอาหาร บาร์ และร้านเบียร์เฮยมีลูกค้าลดลง ซึ่งปัจจุบันต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะละเมิดกฎหมายเมาแล้วขับ ด้วยเหตุนี้ สถานประกอบการเหล่านี้จึงเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยต้องดิ้นรนเพื่อรักษากิจการไว้ท่ามกลางฐานลูกค้าที่ลดลง

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะเพิ่มภาษีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จาก 65% เป็น 100% ภายในปี 2030 มาตรการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการดื่มหนัก โดยรัฐบาลพยายามทําให้แอลกอฮอล์มีราคาแพงและเข้าถึงได้น้อยลง รัฐบาลเชื่อว่านโยบายการคลังดังกล่าวจะมีส่วนสําคัญในการลดอันตรายที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ 

แต่การคาดการณ์ว่าภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะสูงขึ้นส่งผลให้เจ้าของธุรกิจบางรายต้องพิจารณาการลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกครั้ง ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้มีกำไรน้อยลงในการดำเนินธุรกิจเหล่านี้ ส่งผลให้เบียร์ท้องถิ่นอาจลดกำลังการผลิตลง ราคาสูงขึ้น และอาจล้มหายตายจากไปจากท้องถนนของเวียดนาม 

แนวโน้มข้างต้นนำไปสู่การถอนทุนหรือการหาแหล่งผลิตใหม่ของทุนจากต่างชาติ เห็นได้จากการที่ผู้บริโภคเบียร์ลดลงตลาดเบียร์หดตัวอย่างไม่เคยเกิดขึ้น บริษัทใหญ่จากฮอลแลนด์พิจารณาปิดโรงงานกว่า 6 แห่งชั่วคราวเพื่อปรับตัวกับนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่มีแนวโน้มจำกัดการบริโภคแอลกอฮอล์มากขึ้น 

กฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวียดนาม รวมถึงนโยบายแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ขณะขับขี่และการเพิ่มภาษีที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลในการควบคุมปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์ แม้ว่ามาตรการเหล่านี้จะประสบความสําเร็จในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดื่มและปรับปรุงความปลอดภัยสาธารณะ แต่ก็นํามาซึ่งความท้าทายและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งในแง่เศรษฐกิจและวัฒนธรรมดั่งเดิมของชาติ 

ในอนาคตหากผลตีกลับของนโยบายเหล่านี้หนักหนากว่าที่รัฐคาดการณ์ไว้ อาจมีการทบทวนนโยบายแอลกอฮอล์อย่างองค์รวมใหม่เพื่อหาสมดุลระหว่าง สุขภาพ เศรษฐกิจ และเสรีภาพของคนในชาติ

อ้างอิง
สนับสนุนโดย

Author

ไตรรัตน์ พุทธรักษา
ซ้ายตกขอบไร้สังกัด ผู้เป็นมิตรกับแมวจรทั่วโลก เสพติดอาหารเลิศรส ดนตรี ภาพยนตร์ และ ศิลปะ ฝันอยากเปลี่ยนโลกก่อนที่จะโดนโลกเปลี่ยน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า