“รู้ไหมว่าวันนี้ผมถูกตั้งข้อหาคดีฆาตกรรมด้วยล่ะ”
คำพูดของประธานาธิบดีบราซิล ฌาอีร์ โบลโซนารู (Jair Bolsonaro) ที่กล่าวต่อผู้สนับสนุนเขา เมื่อถูกคณะกรรมการรัฐสภาบราซิลร่างรายงานการสอบสวนราว 1,200 หน้า โดยเสนอให้เขา รวมถึงบุคคลอีก 69 คน เช่น บุตรชายทั้งสามคนของเขา และเจ้าหน้าที่รัฐทั้งในอดีตและปัจจุบัน ให้ถูกดำเนินคดีทางอาญาข้อหา ‘อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ’ และอีก 8 ข้อหาเพิ่มเติมเรื่องการปลอมแปลงเอกสารและการยุยงให้ก่ออาชญากรรม สืบเนื่องจากการบริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลว ส่งผลให้คณะกรรมการรัฐสภาบราซิลตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าวแก่เขา
ปัจจุบันประเทศบราซิลพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สูงถึง 21 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 6 แสนราย จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นอันดับ 3 ของโลก
วันที่ 19 ตุลาคม 2021 สำนักข่าว The New York Times รายงานเหตุผลของคณะกรรมการรัฐสภาว่า นายโบลโซนารูจงใจปล่อยให้เกิดการระบาดของโควิด-19 ไปทั่วประเทศ จนประชาชนเสียชีวิตถึงหลักแสน ในร่างรายงานการสอบสวนยังระบุว่า นายโบลโซนารูทำการสังหารหมู่และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมืองในแอมะซอน โดยปล่อยให้ไวรัสแพร่ระบาดเป็นเวลาหลายเดือน จนคร่าชีวิตประชาชนไปเป็นจำนวนมาก แต่สมาชิกวุฒิสภาหลายคนเห็นว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวร้ายแรงเกินกว่าเหตุ จนภายหลังได้มีการยกเลิกข้อความบางส่วนออกไป
นอกจากนี้ ร่างรายงานการสอบสวนยังได้กล่าวโทษถึงนโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาลนายโบลโซนารูอีกด้วยว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาด ขณะที่ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกมีการล็อคดาวน์ และโรงพยาบาลในบราซิลเริ่มไม่สามารถรองรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ ประธานาธิบดีผู้นี้กลับมองข้ามภัยคุกคามของไวรัส และละเมิดคำแนะนำด้านสาธารณสุขอีกด้วย
กล่าวคือ เขาไม่มีการออกมาตรการจำกัดจำนวนคน โดยอนุญาตให้ประชาชนสามารถรวมตัวกันได้ ไม่มีมาตรการให้สวมหน้ากากอนามัย อีกทั้งยังสนับสนุนให้มีการรักษาโควิด-19 ด้วยยาที่ไม่ผ่านการพิสูจน์ เช่น ไฮดรอกซีคลอโรควิน (hydroxychloroquine) ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยโพสต์วิดีโอของตัวเองกลืนยาดังกล่าวที่เขาคิดว่าสามารถรักษาโคโรนาไวรัสได้ หลังจากที่เขาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อในปีที่แล้ว แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะเตือนไม่ให้ใช้ยาดังกล่าวแล้วก็ตาม
และในเดือนมกราคม รัฐบาลบราซิลได้แนะนำให้ใช้ยาที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ เช่น ไฮดรอกซีคลอโรควิน และไอเวอร์เมคติน (ivermectin) ซึ่งเป็นยาต้านปรสิตสำหรับสัตว์ โดยคณะกรรมการวุฒิสภาพบว่า รัฐบาลกลางได้ใช้เงินหลายล้านดอลลาร์ไปกับยาเหล่านี้ และยังบังคับให้กองกำลังติดอาวุธของบราซิลผลิตยาชนิดนี้จำนวนมาก
รายงานยังระบุอีกว่า การบริหารของรัฐบาลในการจัดหาวัคซีนยังมีความล่าช้า เป็นเพราะนายโบลโซนารูไม่สนใจอีเมลมากกว่า 100 ฉบับจากไฟเซอร์ และเลือกที่จะจ่ายเงินจำนวนมากไปกับวัคซีนจากประเทศอินเดียที่ยังไม่ได้รับการรับรอง แต่ก็ถูกยกเลิกไปเมื่อถูกสงสัยว่ามีการรับสินบน และเขายังเล่นงานผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาไร้ความรับผิดชอบอีกด้วย โดยนายโบลโซนารูยังมองว่า รายงานการสอบสวนเป็นเพียงเรื่องตลกที่มีแรงจูงใจทางการเมืองเท่านั้น และอ้างว่าการรายงานจำนวนผู้เสียชีวิตในบราซิลนั้นสูงเกินจริง
อย่างไรก็ตาม ไวรัสโคโรนาดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเล็กสำหรับเขา จากการที่เรียกไวรัสนี้ว่า ‘ไข้หวัดน้อย’ และยังพูดติดตลกอีกว่า วัคซีนจะทำให้คนกลายเป็นจระเข้ จนเมื่อเขาเข้าร่วมการประชุมขององค์การสหประชาชาติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เขาและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของบราซิลต้องไปนั่งกินพิซซ่าบนทางเท้าข้างถนน เพราะร้านอาหารในนิวยอร์คอนุญาตเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วเท่านั้นที่สามารถเข้าร้านได้ แต่โบลโซนารูยังไม่ได้รับวัคซีน และ รมว.สาธารณสุข ก็ถูกตรวจพบเชื้อโควิด-19 ในอีกไม่กี่วันต่อมา
ทั้งนี้ คณะกรรมการรัฐสภาบราซิลมีกำหนดจะเปิดเผยรายงานในวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่น) และลงมติในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งหากรายงานดังกล่าวได้รับการอนุมัติ อัยการสูงสุดของบราซิลจะมีเวลา 30 วัน ในการตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีอาญาต่อนายโบลโซนารู และผู้ที่มีรายชื่ออยู่ในรายงานหรือไม่ รวมถึงสภาผู้แทนราษฎรของบราซิลจะต้องอนุมัติข้อกล่าวหาของนายโบลโซนารูด้วย
เครโอมาร์ เด โซซา (Creomar De Souza) นักวิเคราะห์การเมืองอิสระมองว่า นายโบลโซนารูไม่น่าถูกดำเนินคดีอาญาได้ เพราะเขาเป็นผู้แต่งตั้งอัยการสูงสุดเอง และหากอัยการสูงสุดไม่ดำเนินคดีต่อประธานาธิบดี คณะกรรมการวุฒิสภาก็จะหาช่องทางทางกฎหมายอื่นๆ เพื่อเอาผิดต่อไป
นายโบลโซนารูเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2019 แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา ทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังได้รับความนิยมน้อยลงเรื่อยๆ ขณะที่การเลือกตั้งในปีหน้ากำลังใกล้เข้ามา และแม้จะมีเสียงคัดค้านกว่าครึ่งต่อการทำงานในฐานะประธานาธิบดีของเขา แต่นายโบลโซนารูก็ยังคงควบคุมสภาล่างของรัฐสภา และยังได้รับการสนับสนุนจากวุฒิสภามากพอที่จะไม่รับฟังเสียงข้างมากของฝ่ายค้าน
อ้างอิง
- Brazil’s Bolsonaro ‘should be charged with crimes against humanity’
- Brazilian Leader Accused of Crimes Against Humanity in Pandemic Response
- Brazilian Senate committee to accuse Bolsonaro of crimes against humanity for covid negligence