เรื่อง: พชร์ โพธิ์พุ่ม
การเริ่มต้นมื้อเช้าด้วยช็อกโกแลต ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำตาล ไม่น่าจะใช่เรื่องดีสำหรับเด็กๆ
หากย้อนไปตอนประถม การได้กินแซนด์วิชช็อกโกแลตในตอนเช้าคงเป็นเรื่องน่าอิจฉามากๆ ในกลุ่มเพื่อน เพราะเด็กส่วนใหญ่จะต้องก้มหน้าก้มตากินมื้อเช้าสุขภาพอันอุดมไปด้วย ผัก นม ไข่ และอาหารที่ไม่น่าสนใจแต่แม่จัดให้เพราะสารครบอาหาร 5 หมู่
แต่ที่เนเธอร์แลนด์ เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ จะกินช็อกโกแลตเป็นอาหารเช้า เรากำลังพูดถึง ‘ฮาเกิลสลัก’ (Hagelslag)’ หรือขนมปังโรยด้วยเกล็ดช็อกโกแลตเต็มแผ่น หรืออาหารเช้าง่ายๆ ตำรับชาวดัตช์
มาถึงบรรทัดนี้ หลายคนอาจเถียงว่า การกินช็อกโกแลตอาจจะไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของเด็ก…แต่ไม่ใช่กับเด็กเนเธอร์แลนด์
ปี 2014 องค์การอ็อกแฟม (Oxfam) จัดให้เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศอันดับ 1 ที่เด็กมีสุขภาพดี และได้รับสารอาหารครบถ้วน จากทั้งหมด 125 ประเทศ (ฝรั่งเศส และ สวิตเซอร์แลนด์อยู่ในอันดับที่ 2 ในขณะที่อเมริกาอยู่ในอันดับที่ 21 ) ทั้งยังเป็นประเทศที่เด็กมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินน้อยที่สุด คิดเป็นเพียง 8.36 เปอร์เซ็นต์ (ในกลุ่มเด็กอายุ 11,13 และ 15 ปี) จากประเทศอุตสาหกรรม 29 ประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยทางเรื่องช็อกโกแล็ตจากสถาบันต่างๆ มาช่วยยืนยันให้เรื่องนี้มีน้ำหนักด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้น โดยมีเครื่องหมายดอกจันกำกับด้วยว่าถ้ากินในปริมาณที่เหมาะสม
งานวิจัยรสช็อกโกแลต
งานวิจัยโดยทุนของ Syracuse University ชื่อว่า ‘Chocolate intake is associated with better cognitive function: The Maine-Syracuse Longitudinal Study’ แสดงให้เห็นว่าการบริโภคช็อกโกแลตส่งผลดีต่อการทดสอบหลายรูปแบบ เช่น ความจำ การลำดับข้อมูล การจับคู่ภาพ และผลทดสอบจากกลุ่มทดลองที่บริโภคช็อกโกแลตภายในหนึ่งสัปดาห์ จะได้ผลคะแนนสูงกว่า กลุ่มที่ไม่บริโภคช็อกโกแลต หรือ บริโภคน้อย
งานวิจัยจากมหาลัย Tel Aviv ที่เผยว่าการบริโภคช็อกโกแลต ร่วมกับ โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรตในมื้อเช้า ส่งผลให้ร่างกายจะไม่ต้องการน้ำตาลไปตลอดทั้งวัน แปลว่าความอยากกินของหวานของเราในตอนบ่ายจะลดลง ซึ่งเป็นผลจากการศึกษาผู้ป่วยโรคอ้วนที่ไม่ได้มีโรคเบาหวานแทรกซ้อนจำนวน 193 คน เป็นเวลา 32 สัปดาห์ โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะได้รับอาหารเช้า 300 แคลอรี และ กลุ่มสองจะได้รับอาหารเช้า 600 แคลอรี ซึ่งมีช็อกโกแลตพุดดิ้งรวมอยู่ด้วย ผลการศึกษาพบว่าในกลุ่มที่สองผู้ป่วยโรคอ้วนสามารถลดน้ำหนักได้มากกว่าปกติถึง 37 ปอนด์ (ประมาณ 16.782 กิโลกรัม)
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจาก โรงเรียนแพทย์ Harvard และ Brigham ร่วมกับ Women’s Hospital ซึ่งพบว่าในกลุ่มผู้สูงอายุ 67-77 ปี การดื่มโกโก้ร้อนวันละ 2 แก้วเป็นเวลา 1 เดือนจะช่วยเพิ่มความสามารถในการจำและคิดได้ 30 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการเพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือดที่สมอง 8.3 เปอร์เซ็นต์
ช็อกโกแลต มีคุณสมบัติในการกระตุ้นให้สมองทำงานได้ดีขึ้น หากรับประทานในเวลาที่เหมาะสมยังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก และยังเป็นของโปรดปรานของเด็กๆ ทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ตำรับอาหารเช้าของคุณหนูชาวดัตช์ไม่ได้มีแต่ขนมปังโรยเกล็ดช็อกโกแลตหรือ ‘ฮาเกิลสลัก’ เพียงอย่างเดียว แต่พ่อแม่จะเสริมอาหารมีประโยชน์อื่นๆ ควบคู่และสลับไปด้วย โดย ฮาเกิลสลัก อาจทำหน้าที่เป็น ‘สวนสนุก’ บนโต๊ะอาหารที่คอยดึงดูดให้เด็กก้าวเข้ามานั่งแต่โดยดีและมีสมาธิกับมื้อเช้าอย่างเต็มที่
การมีสมาธิในแบบนี้ คือ การกินอย่างไม่รีบเร่ง ค่อยๆ ดูว่าสิ่งที่กินเข้าไปมีอะไรบ้าง ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจพื้นฐานให้แก่เด็กๆ ที่สำคัญที่สุดคือ การได้ใช้เวลาคุณภาพบนโต๊ะอาหารกับพ่อแม่และสมาชิกคนอื่นๆ ในบ้าน
การได้ใช้เวลาช่วงเช้าด้วยกันนี่เอง ทำให้เด็กๆ เริ่มต้นวันด้วยสุขภาพใจที่ดี ซึ่งสำคัญพอๆ กับคุณค่าทางอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพกายให้แข็งแรง