จากการที่ สส. จํานวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจํานวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเข้าชื่อร้องต่อประธานสภาฯ ขอให้ส่งคําร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสมาชิกภาพของ สส. 41 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จํานวน 41 คน เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ซึ่งเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของผู้ถูกร้องทั้ง 41 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 44 (3)
26 มิถุนายน ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษารับพิจารณาคุณสมบัติของ สส. 32 คน แต่ยังไม่มีคำสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ขณะที่ สส. อีก 9 คนไม่อยู่ในข่ายพิจารณาต่อ โดย สส. 9 คนได้แก่
- นายศาสตรา ศรีปาน / พรรคพลังประชารัฐ
- นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์ / พรรคพลังประชารัฐ
- นางสาวภริม พูลเจริญ / พรรคพลังประชารัฐ
- นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ / พรรคพลังประชารัฐ
- นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ / พรรคพลังประชารัฐ
- นายจักรพันธ์ พรนิมิต / พรรคพลังประชารัฐ
- นายกรณ์ จาติกวณิช / พรรคประชาธิปัตย์
- นายประมวล พงศ์ถาวราเดช / พรรคประชาธิปัตย์
- นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ / พรรคประชาธิปัตย์
สําหรับคําขอให้ สส. อีก 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น รัฐธรรมนูญ มาตรา 42 วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่าจะต้อง ‘ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง’ แต่ในคดีนี้ผู้ร้องไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีจึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ซึ่งศาลจะต้องดําเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้ยุติต่อไป
ขณะที่ในกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นั้น กกต. ในฐานะผู้ร้อง ยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของนายธนาธรสิ้นสุดลง ได้ผ่านการสอบสวนของ กกต. ซึ่งมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงมาก่อนยื่นคําร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่านายธนาธรมีกรณีตามที่ถูกร้อง ศาลรัฐธรรมนูญจึงได้มีคําสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคําวินิจฉัย