‘พี่หมอเอ้’ ไขเรื่องลับๆ เวชศาสตร์ทางเพศ คืนความสุขด้วย sextoy

“ถึงเวลาแล้วที่ sextoy ควรถูกกฎหมาย เพราะอุปกรณ์หลายชิ้นควรนำมาเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ หมอจำเป็นต้องใช้ในงานเพศบำบัด เพื่อรักษาปัญหาทางเพศ แพทยสภามีแพทย์สาขาเวชศาสตร์ทางเพศแล้ว แต่หมอยังไม่สามารถนำอุปกรณ์เหล่านี้มาใช้บำบัดรักษาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย” 

ข้อความจากเพจ ‘เรื่องเล่าพี่หมอเอ้’ สร้างความสนใจแก่ผู้ที่ติดตามการผลักดันการแก้ปัญหาทางเพศในมิติต่างๆ อยู่ไม่น้อย และเป็นประเด็นที่สังคมกำลังค่อยๆ สั่งสมความรู้เพื่อเปิดมุมมองใหม่

WAY เดินทางไปพูดคุยกับ รองศาสตราจารย์ ดร.นพ.อติวุทธ กมุทมาศ แพทย์เวชศาสตร์ทางเพศ อาจารย์ประจำหน่วยเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ทางเพศ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และแพทย์ประจำคลินิกสุขภาพเพศ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เจ้าของเพจ ‘เรื่องเล่าพี่หมอเอ้’ เพื่อทำความเข้าใจและสอดส่องมุมมองของแพทย์ที่คลุกคลีอยู่กับการบำบัดรักษาทางเพศว่ามีทัศนะต่อประเด็นเรื่อง sextoy อย่างไร และอะไรบ้างที่สังคมควรรับรู้ร่วมกัน

เวชศาสตร์ทางเพศคืออะไร และสำคัญอย่างไรต่อสังคมไทย

เวชศาสตร์ทางเพศคือเรื่องทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศทุกรูปแบบ เช่น เพศสัมพันธ์ เพศสภาพ เพศวิถี และเพศรส ซึ่งก็หมายถึงรสนิยมทางเพศ แปลว่าเราไม่ได้ดูแลเรื่องของเพศสัมพันธ์อย่างเดียว แต่เราดูแลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศโดยใช้ศาสตร์ทางการแพทย์เข้ามาดูแลรักษา

ถ้าเพศสัมพันธ์มีปัญหา เช่น ฝ่ายชายมีการแข็งตัวที่ไม่ดี มีปัญหาหลั่งเร็ว หลั่งช้า ฝ่ายหญิงมีปัญหาขาดอารมณ์ทางเพศ ขาดการตอบสนองการกระตุ้น หรือปัญหาจากการสอดใส่ ก็สามารถพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาได้

ส่วนเรื่องเพศสภาพ ยกตัวอย่างเช่น ทรานส์เจนเดอร์ (transgender) อาจมีเพศสภาพไม่ตรงกับเพศกำเนิด แพทย์เวชศาสตร์ทางเพศก็จะช่วยดูแลเพื่อยืนยันเพศสภาพของเขา เช่น การให้ฮอร์โมนข้ามเพศ ผ่าตัดยืนยันเพศสภาพ ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของงานด้านเวชศาสตร์ทางเพศเหมือนกัน

นอกจากนั้นก็มีเรื่องเพศวิถีที่หลากหลาย เช่น เกย์ (gay), เลสเบี้ยน (lesbian), ไบเซ็กชวล (bisexaul) ซึ่งแพทย์ก็จะดูว่ามีความเสี่ยงอะไรที่สามารถเกิดขึ้นได้บ้าง เช่น การมีเพศสัมพันธ์กันในลักษณะต่างๆ ที่อาจเกิดความเสี่ยง แพทย์เวชศาสตร์ทางเพศก็จะเข้าไปดูแลรักษาให้เขามีความปลอดภัย

สุดท้ายอย่างที่เกริ่นเอาไว้คือเรื่องเพศรส หรือรสนิยมทางเพศที่มีความหลากหลาย เช่น บางคนชอบให้สัมผัสในรูปแบบต่างๆ เราก็จะให้คำปรึกษาเพื่อให้เขามีความสุขและปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์จากรสนิยมทางเพศ

เวชศาสตร์ทางเพศมีความสำคัญกับสังคมเป็นอย่างมาก เริ่มต้นจากตัวบุคคลที่ต้องดูแลสุขภาพเพศของตัวเอง ซึ่งก็จะส่งผลถึงคู่ครองเราด้วย ไม่ว่าจะคู่ครองเพศไหนก็มีผลทั้งนั้น เมื่อระดับบุคคลมีสุขภาพเพศที่ดี เขาก็จะสอนลูกหลานในเรื่องเพศศึกษาได้อย่างถูกต้องปลอดภัย และจะส่งผลดีต่อสังคมในภาพรวมมากขึ้น

ปัจจุบันสถานการณ์ผู้ป่วยที่จำเป็นต้องเข้ารับการบำบัดรักษาเป็นอย่างไร

ถ้าถามถึงเรื่องจำนวนมันมีเยอะอยู่แล้วและมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น ผู้หญิงจะมีผู้ที่มีปัญหาทางเพศและเข้ามารักษาประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ผู้ชายจะมีประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ และเพศหลากหลายอีกประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร แสดงว่าจำนวนของผู้ที่มาเข้ารับบริการบำบัดรักษามีเยอะมากๆ เพียงแต่จากสายตาคนภายนอกอาจเห็นว่ามันมีน้อยหรือไม่มีเลย เพราะคนไม่ค่อยรู้จักแพทย์สาขาเวชศาสตร์ทางเพศมากนัก และยังมีความคิดว่าเรื่องทางเพศไม่ใช่เรื่องสำคัญ ทั้งที่จริงแล้วมันสามารถส่งผลไปจนถึงปัญหาครอบครัวได้เลย

ปัจจุบันประชากรไทยเริ่มมีความตระหนักมากขึ้นว่า เรื่องเพศเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สำคัญ ไม่ใช่แค่สุขภาพกายหรือสุขภาพจิต แต่คนเริ่มมองเห็นแล้วว่ามันมีสุขภาพเพศอยู่ด้วย จึงมีแนวโน้มของการเข้ามาปรึกษาหรือบำบัดรักษามากขึ้นเรื่อยๆ

ปัญหาลักษณะใดบ้างที่ควรเข้ารับการปรึกษาหรือบำบัดรักษาตามแนวทางเวชศาสตร์ทางเพศ

ขอยกตัวอย่างเรื่องท็อปฮิตที่พบเจอบ่อยๆ เช่น ปัญหาการแข็งตัว ปัญหาการหลั่งเร็ว หรือสำหรับผู้หญิงก็จะมีปัญหาเรื่องการสอดใส่ เช่น สอดใส่ยาก สอดใส่ไม่เข้า สอดใส่แล้วเจ็บ ปัญหาขาดอารมณ์ทางเพศ ขาดน้ำหล่อลื่น หรือการไม่ orgasm เหล่านี้อาจมีส่วนทำให้มีปัญหาในความสัมพันธ์ นี่ก็เป็นตัวอย่างของเพศหญิงและชายที่เข้ามาพบแพทย์

อีกส่วนที่สำคัญมากๆ ที่ต้องพูดถึงคือ เรื่องทรานส์เจนเดอร์ ทั้งกรณีชายเป็นหญิง และหญิงเป็นชาย ซึ่งแพทย์จะช่วยยืนยันเพศสภาพด้วยการใช้ฮอร์โมนและการผ่าตัดต่างๆ 

ปัญหาทางเพศแบบใดที่ต้องใช้ sextoy ช่วยในการบำบัด

ปัญหาทางเพศที่ต้องใช้ sextoy ในการบำบัดจะมีหลายประเภท เช่น ปัญหาการแข็งตัวขององคชาต ต้องใช้กระบอกสูญญากาศในการกระตุ้น ปัญหาการไม่ถึงจุดสุดยอด หรือภาวะการโต้กระตุ้นทางเพศ (Female Sexual Interest/Arousal disorder: FSIAD) ก็ต้องมีการใช้เครื่องดูดคริตอริส (clitoris vacuum) หรือใช้ sextoy ในกลุ่ม vibrator ต่างๆ ในการกระตุ้นจุดตอบสนองทางเพศของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกิดการ orgasm ซึ่งในกรณีที่เราวินิจฉัยว่า Female Orgasmic Disorder แปลว่ามีปัญหาจากการไม่ถึงจุดสุดยอด ถือเป็นภาวะหนึ่งในทางการแพทย์

ในแง่การปฏิบัติรักษาภาวะการไม่ถึงจุดสุดยอด แพทย์จะให้ไปฝึกการช่วยตัวเองอย่างถูกต้อง แพทย์จะสอนให้รู้จักจุดต่างๆ สอนการตอบสนองต่างๆ และกลับไปฝึกเองที่บ้านสัปดาห์ละครั้ง โดยการฝึกอาจจะใช้นิ้วและใช้ sextoy ในกลุ่มไวเบรเตอร์ (vibrator) ซึ่งมีหลายอย่างให้เลือก เพื่อช่วยกระตุ้นคลิตอริสร่วมกับการใช้สื่อช่วย แต่ทั้ง sextoy และสื่อประเภทนี้ก็ถูกมองว่าผิดกฎหมายอีก

การใช้ sextoy เพื่อเสริมสร้างความสุขทางเพศหรือแก้ปัญหาความสัมพันธ์ แพทย์จะใช้วิธีการพูดคุยเชิงลึกและดูเป็นรายกรณีไป ว่าเคสนี้เหมาะกับการบำบัดรูปแบบใด บางกรณีเหมาะกับการไปเจอสิ่งแปลกใหม่ บางกรณีเหมาะกับการฝึกจินตนาการ และบางกรณีเหมาะกับการใช้ sextoy ก็จะมีคำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจงว่า คุณควรจะใช้ sextoy นะ และคุณควรจะใช้ตัวไหน

ส่วนในกลุ่ม LGBTQIA+ ที่พบบ่อยคือ เรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็จะดูแลรักษาหรือป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน รับประทานยา ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของสมรรถภาพทางเพศและเรื่องปัญหาทางความสัมพันธ์ เวลาที่หมอดูแลเรื่องปัญหาความสัมพันธ์หรือการทำคู่บำบัดก็ไม่ได้มีแค่คู่ชายหญิง คู่ LGBTQIA+ เองก็มีเยอะ หรือเกินคู่ก็มี เพราะบางคนคบกันแบบกลุ่ม หรือที่เราเรียกว่า ความสัมพันธ์แบบหลายรัก (polyamorous relationship)

ในขณะที่ sextoy ยังผิดกฎหมายอยู่ แพทย์ต้องใช้อะไรทดแทนในการบำบัดรักษาให้กับผู้มีปัญหาทางเพศ

ถ้ามีอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันก็ใช้ แต่หลายปัญหาจำเป็นต้องใช้ sextoy เช่น ผู้หญิงที่มีปัญหาเรื่องการโต้กระตุ้นทางเพศ ก็ต้องใช้ตัว clitoris vacuum หรือ vacuum therapy device อื่นๆ มาเป็นตัวกระตุ้นบริเวณคลิตอริสเพื่อให้เลือดสูบฉีดให้มีการแข็งตัวเกิดขึ้นและโต้กระตุ้นได้ เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการรักษาภาวะการไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นทางเพศ

หรือบางคนที่มีปัญหาการไม่ถึงจุดสุดยอดก็อาจต้องใช้ sextoy อย่างกลุ่มไวเบรเตอร์มาใช้กระตุ้น หรืออาจใช้นิ้วช่วยกระตุ้นโดยฝึกการช่วยตัวเองของฝ่ายหญิงเพื่อให้ถึงจุดสุดยอด ซึ่งตรงนี้เองต้องใช้ sextoy นอกจากนี้ยังมีเรื่องการทำคู่บำบัดที่ต้องมีการใช้ sextoy เพื่อแก้ปัญหาชีวิตคู่ 

การที่ sextoy ยังผิดกฎหมายอยู่มันเป็นเพราะการตีความ เพราะเมืองไทยตีความว่า sextoy เป็นสิ่งลามกอนาจาร จึงผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287 แต่ถ้าเรามี sextoy ไว้ในครอบครองสักอันหนึ่ง ไม่ได้จำหน่ายจ่ายแจกก็ไม่ถือว่าเป็นความผิด แต่ในความเป็นจริงมันหาซื้อยากเพราะในเมืองไทยมันยังผิดกฎหมาย

หากจำเป็นต้องใช้ sextoy ในการบำบัดรักษา แพทย์สามารถเซ็นอนุญาตสั่งซื้อให้กับผู้ต้องการการบำบัดได้ไหม

ปัจจุบันแพทย์เองก็ไม่สามารถซื้อได้ เพราะจะถือว่าเป็นการจำหน่าย ก็จะกลายเป็นความผิดอีก แพทย์ทำได้เพียงแนะนำว่าหากมีปัญหาทางเพศแบบนี้ต้องใช้ sextoy แบบใด เขาอาจจะต้องหาซื้อเอง อาจซื้อจากต่างประเทศ หิ้วเข้ามา หรือสั่งทางออนไลน์ ปัญหาคือถ้าศุลกากรเห็นแล้วประเมินว่านี่คือ sextoy แม้ว่าจะเป็นการสั่งซื้อเพื่อใช้ในทางการแพทย์ เช่น Clitoral Therapy Device หรือตัวกระตุ้นคลิตอริส เขาอาจจะกักสินค้าไว้เพราะมันเป็นสิ่งลามกอนาจาร หลายครั้งจึงต้องมีการเขียนใบรับรองแพทย์เพื่อรับรองว่าชิ้นนี้สั่งนำเข้าเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และให้ผู้รับบริการไปยื่นที่ศุลกากร

เครื่องดูดคลิตอริส (Clitoral Therapy Device) | photo: เพจเรื่องเล่าพี่หมอเอ้

Sextoy มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้างต่อสุขภาวะทางเพศ

ถ้าเลือก sextoy ที่ดี มีคุณภาพ และปลอดภัย ก็จะมีข้อดีต่อสุขภาพเพศเยอะมาก ไม่ใช่เฉพาะการรักษาเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มพูนความสุขทางเพศได้ด้วย เพราะเรามีสิทธิที่จะใช้เพิ่มพูนความสุขให้ตัวเราเองอยู่แล้ว จริงๆ เราไม่จำเป็นต้องมีปัญหาทางเพศอะไรเลยก็ได้ แค่เราต้องการใช้เพื่อความสุขใจ รู้สึกเป็นความตื่นเต้น เร้าใจ แปลกใหม่ หรือเป็นการเพิ่ม ‘ความสุขเสียว’ ให้กับตัวเองมากขึ้น

เพราะฉะนั้นเมืองนอกเขาจึงไม่ได้ตีความว่า sextoy เป็นสิ่งลามกอนาจาร และไม่จำเป็นต้องตีความว่าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้วย แต่ตีความว่าเป็นสิ่งซึ่งทำให้มีความสุขทางเพศ แล้วทุกคนมีสิทธิที่จะมีความสุขทางเพศ เพราะทุกคนมีสิทธิในเนื้อตัวร่างกายของตัวเอง มันจึงถูกกฎหมาย เหตุผลคือตรงนี้ ถ้าเมืองไทยตีความอย่างนี้ได้ก็จะมีประโยชน์แน่นอน เพียงแต่ว่าขอให้องค์กรรัฐเข้ามาควบคุมให้ถูกต้องจะได้มีสินค้าที่มีคุณภาพและเสียภาษีอย่างถูกต้องด้วย

ส่วนข้อเสียคือ หากบังเอิญใช้ sextoy ที่ขาดคุณภาพก็จะเป็นพิษต่อร่างกายได้ อีกประการหนึ่งคือใช้งานไม่ถูกต้อง ใช้ผิดรูปแบบ ก็อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น sextoy หลุดเข้าไปในร่างกาย หรือบาดเจ็บจากการใช้ ดังนั้นหาก sextoy ถูกฎหมายก็จะสามารถควบคุมคุณภาพและบอกวิธีใช้ที่ถูกต้องและปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ได้อย่างทั่วถึง

อย่างที่หมอเจอบ่อยๆ จะเป็นกรณีที่ sextoy หลุดเข้าไปในช่องทวารหนัก ต้องมีการคีบออก หรือปัญหาการใช้ sextoy อย่างไม่ถูกสุขอนามัย จริงๆ แล้วถ้าใช้แค่ส่วนตัว เราสามารถทำความสะอาดได้โดยล้างน้ำสบู่และเช็ดให้แห้งก็พอ และต้องคอยดูแลไม่ให้เกิดความอับชื้น แต่บางคนใช้ sextoy ร่วมกัน แชร์ sextoy กับพาร์ตเนอร์และคนอื่นๆ ซึ่งในเวลานั้นคงไม่ได้ล้างก่อนอยู่แล้วเพราะใช้ต่อเนื่องกัน หากเป็น sextoy กลุ่มแท่ง หมอก็จะแนะนำให้สวมถุงยางอนามัยก่อน เมื่อมีการใช้ร่วมกันก็ให้เปลี่ยนถุงยาง เพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อ

ปัจจุบันวงการแพทย์ในประเทศต่างๆ มีนวัตกรรมทางเพศอะไรบ้าง และมีทิศทางการพัฒนาอย่างไร

เรื่อง sextoy เนี่ยเยอะมากจนเราแทบจะตามเทคโนโลยีไม่ทันเลย มีไอเทมต่างๆ เยอะมาก แบ่งกลุ่มเยอะมาก แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องตามให้ทันทั้งหมด แค่เลือกสิ่งที่เราถูกใจก็พอ

อย่างอุปกรณ์ชะลอหลั่ง อุปกรณ์ช่วยให้แข็งตัว เขาก็พัฒนามาเรื่อยๆ เพราะเขามองว่าเรื่องสุขภาพเพศเป็นส่วนหนึ่งของสุขภาพร่างกายที่ต้องใส่ใจดูแล เขามีงาน expo ที่แต่ละบริษัทจะแข่งกันผลิต sextoy โดยสอดแทรกนวัตกรรมต่างๆ แล้วเอามาขายในงาน ที่สำคัญคือเขามีงานวิจัยรองรับ จึงทำให้การผลิต sextoy ถูกพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ 

การที่ sextoy ผิดกฎหมาย ทำให้สังคมไทยสูญเสียอะไรไปบ้าง

เราสูญเสียโอกาสในการรักษาผู้มีปัญหาทางเพศหลายๆ คนที่จำเป็นต้องใช้ sextoy เพราะเราไม่สามารถจัดซื้อได้ หรือบางทีถ้าซื้อเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ก็จะง่ายขึ้น แต่เกือบทุกที่มันทำไม่ได้ ทำให้สูญเสียโอกาสทางการรักษาไป 

อีกอย่างคือเราสูญเสียโอกาสในการเรียนการสอน เพราะเราสามารถใช้ sextoy มาเป็นสื่อการสอนได้ เช่น การสอนเด็กใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งบางครั้งบางทีต้องเอากล้วยมาสอน ซึ่งมันทำให้เด็กเข้าใจได้ไม่เต็มที่ ถ้าเด็กได้ลองสวมใส่สิ่งที่คล้ายของจริง เด็กจะเข้าใจมากขึ้น ทำให้เขาคุ้นเคยและมองว่ามันเป็นสิ่งธรรมดามากขึ้น เรียกได้ว่าเราสูญเสียความเป็นธรรมดาไปด้วย เพราะเพศศึกษามันต้องสอนอย่างเปิดเผย ให้เด็กเขารู้สึกว่านี่มันเป็นเรื่องธรรมดาไง อวัยวะเพศเราเมื่อโตขึ้น เมื่อแข็งตัวก็เป็นแบบนี้แหละ มันเห็นภาพกว่าการสอนด้วยกล้วย เด็กก็จะรู้สึกปกติธรรมดาและเข้าใจมันได้ง่ายกว่า

ปัจจุบันมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เป็นโมเดลอวัยวะเพศ แต่เชื่อไหมว่ามันราคาแพงมหาศาล เพราะมันเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ และในความเป็นจริงมันก็ไม่ได้ practical ขนาดนั้น

การที่เราสูญเสียโอกาสในการสอนให้เด็กรู้จักกับอะไรแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้การปลูกฝังความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องทางเพศผ่านเพศศึกษาเป็นไปได้ยากขึ้น เพราะเรื่องเพศต้องสร้างความเข้าใจตั้งแต่เด็ก และต้องสร้างความเข้าใจอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ซึ่งจะส่งผลถึงการขาดความภาคภูมิใจทางเพศของตัวเอง ไปจนกระทั่งการปกป้องตัวเองในสังคม ฉะนั้นถ้า sextoy ถูกกฎหมายหมอคิดว่ามันจะส่งผลทางสังคมให้ดีขึ้นมากด้วยซ้ำ

อะไรคืออุปสรรคสำคัญต่อการปลดล็อก sextoy ในสังคมไทย

หลักๆ หมอคิดว่าเป็นเรื่อง mindset หรือกรอบความคิดของบุคคลที่ยังไม่ค่อยเข้าใจ แล้วก็ยังตีความอยู่ว่า sextoy คือสิ่งลามกอนาจาร พอตีความแบบนี้มันก็ผิดกฎหมายไปเลยทันที แต่ถ้าเราตีความว่ามันคือสิ่งที่ช่วยให้มีความสุขทางเพศ ช่วยในการรักษา หรือช่วยในการเรียนการสอนได้ เรื่องก็จบ 

แต่อำนาจในการตีความมันไปอยู่ในมือของคนที่มีบทบาทในการควบคุมกฎหมาย มันเลยยังเป็นอุปสรรค ทั้งที่นักเคลื่อนไหวหลายกลุ่มหลายคนก็พยายามมากแล้วในการผลักดันให้ sextoy ถูกกฎหมาย แต่ก็ถูกทำให้ล้มหายไปด้วยเหตุผลต่างๆ รวมไปถึงการตีความของผู้มีอำนาจด้วย

แล้วที่สำคัญที่ต้องแยกจากกันให้ได้คือเรื่องของศีลธรรม การพูดเรื่องเพศหรือเรื่อง sextoy มันควรจะแยกออกจากเรื่องศีลธรรม มันไม่เกี่ยวกัน เอาง่ายๆ ทุกคนก็มีเพศสัมพันธ์ ถ้ามองว่ามีเพศสัมพันธ์แล้วมันผิดศีลธรรม ถ้างั้นการที่ทุกคนในประเทศไทยมีเพศสัมพันธ์กันเรื่อยๆ ทุกวัน ก็กลายเป็นว่าผิดศีลธรรมกันหมดสิครับ เพราะฉะนั้นก็แยกประเด็นไปเลยว่าศีลธรรมคืออะไร อย่าเอาเรื่องนี้มาขมวดเป็นปมเดียวกันทั้งที่มันไม่ใช่เรื่องเดียวกันเลย

ที่เราพูดเรื่องเพศแบบเปิดเผยอย่างที่เราพูดกันอยู่ตอนนี้ มันก็ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่กับบางคนเขามองว่ามันดูผิดศีลธรรม ดูหมกมุ่น ดูไม่ดี ทำไมเราไม่พูดคุยกันให้เหมือนกับเรื่องการกิน การนอน เราอยากกินอาหารให้อร่อย เราอยากเติมรสเผ็ด หรือรสชาติอื่นๆ มันก็เหมือนการพูดเรื่องเพศรสที่แต่ละคนมีความชอบแตกต่างกันไป หลักการเดียวกันคือให้มองว่ามันคือเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนต้องมี ต้องทำ เรื่องมันก็จะจบครับ เรื่องของการมีเพศสัมพันธ์มันคือเรื่องเบสิกอยู่ในเลเวลเดียวกับการกินเลย

การปลดล็อก sextoy ถูกพูดถึงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ก็เงียบหายไป ทำอย่างไรให้เรื่องนี้เป็นวาระสำคัญ และถูกผลักดันผ่านกลไกสภาอย่างจริงจัง

คงต้องเริ่มต้นกันใหม่ หรืออะไรที่ผลักดันอยู่แล้วก็ช่วยกันส่งเสียงมากขึ้น รวบรวมในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายๆ องค์กร สถาบันการศึกษา ไปจนถึงหน่วยงานต่างๆ ที่มีแรงมากพอในการผลักดัน รัฐบาลถึงจะฟัง เรื่องถึงจะผ่านกลไกสภาได้

อยากให้ช่วยอธิบายว่า การเข้าถึงความสุขทางเพศอย่างปลอดภัย เป็นสิทธิของประชาชนอย่างไร

มันคือสิทธิขั้นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ เป็นสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย การใช้อะไรกับร่างกายตัวเองเพื่อให้ตัวเราเองมีความสุขทางเพศ มันก็คือสิทธิ

คนที่เขารู้สึกค้านอยู่ในใจ เขาก็จะพยายามหาเรื่องค้าน เช่น เหตุผลที่ถูกยกมาบ่อยๆ ว่า sextoy ช่วยลดอาชญากรรมทางเพศในสังคมได้จริงไหม แล้วมัวไปนั่งหาข้อมูลอยู่ สุดท้ายก็หาไม่ได้สักที เพราะแม้กระทั่งประเทศที่เขามี sextoy ถูกกฎหมาย เขาก็ไม่ได้มีการทำวิจัยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ฉะนั้นเราต้องแยกประเด็นให้ชัดตั้งแต่แรกเลยว่า เรื่องอาชญากรรมก็คืออาชญากรรม เรื่อง sextoy ก็คือ sextoy นอกจากจะไม่ต้องมีวิจัยยืนยันแล้ว มันก็ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกันด้วย เพราะอาชญากรรมมันเกิดจากสาเหตุอื่นได้อีกมากมาย

Author

ศศิพร คุ้มเมือง
วัยรุ่นกระดูกกร๊อบแกร๊บ ชอบเขียน ชอบอ่าน ชอบกินหมูกระทะ

Photographer

นฤภรกมล แมงกะพรุน
คุยกับหมารู้เรื่องกว่าคุยกับปลา มีเพื่อนเป็นหมาทั่วจังหวัดเชียงใหม่ หลงใหลในเรื่องนามธรรม แต่บ้าคลั่งการซื้อโคมไฟมือสอง โดยปกติทำงานวิชวล แต่ก็แอบๆ อยากเขียนด้วยบ้าง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า