บันทึกไว้อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์การต่อสู้ทางการเมือง วันที่ 16 สิงหาคม 2563 เวลาย่ำค่ำ ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มผู้ชุมนุมในนาม ‘ประชาชนปลดแอก’ ประกอบด้วย นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยตั้งแต่ช่วงบ่ายของวัน เพื่อประกาศเจตนารมณ์ ดังนี้
3 ข้อเรียกร้อง
หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยุบสภา
2 จุดยืน
ไม่เอารัฐประหาร ไม่เอารัฐบาลแห่งชาติ
1 ความฝัน
ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า กลุ่มศูนย์กลางประสานงาน นักศึกษา อาชีวะ ประชาชน ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ (ศอปส.) ได้จัดชุมนุมคู่ขนานที่บริเวณด้านข้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อจับตาคณะประชาชนปลดแอก หากมีการก้าวล่วงสถาบันกษัตริย์จะเก็บหลักฐานภาพและเสียงให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมของทั้งสองกลุ่มไม่เกิดเหตุปะทะแต่อย่างใด โดย ศอปส. ได้ยุติการชุมนุมไปก่อน
การก่อรูปของขบวนการนักศึกษาและประชาชนที่ปรากฏในวันนี้ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ก่อนจะแผ่ขยายไปถึงกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมหลากหลายสถาบัน นับเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารของ คสช. เมื่อปี 2557
ข้อสังเกตจากการชุมนุม ได้แก่ ช่วงวัยที่ลดลงของคนเข้าร่วมชุมนุม พวกเขามีอายุระหว่าง 18-24 ขณะเดียวกันก็มีคนวัยอื่นร่วมชุมนุมด้วย นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม LGBTQ+ กลุ่มนักเรียนมัธยมศึกษา กลุ่มผู้ผลิตเบียร์คราฟท์รายย่อย เครือข่ายแรงงาน และเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นต้น
ฟอร์ด-ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการคณะประชาชนปลดแอก ย้ำว่า นี่ไม่ใช่การล้มล้างสถาบันฯ แต่เป็นข้อเสนอด้วยความเคารพ เพื่อให้สถาบันฯ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยต่อไป
ไฮไลท์ ประกอบด้วย iLaw ขึ้นเวทีปราศรัยถึงข้อเรียกร้องที่ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 พร้อมเชิญชวนผู้ร่วมชุมนุมให้เข้าร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภายใต้โครงการ ‘ร่วมรื้อ ร่วมสร้าง ร่วมร่างรัฐธรรมนูญ’ โดยมีการตั้งโต๊ะบริเวณอนุสาวรีย์ 14 ตุลา ซึ่งในวันที่ 16 สิงหาคม 2563 มีประชาชนมากกว่า 10,000 รายชื่อ ร่วมลงชื่อภายในวันเดียว หากนับรวมตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม ที่เริ่มกิจกรรม รวบรวมได้แล้วถึง 20,000 ชื่อ
เพนกวิน-พริษฐ์, รุ้ง-ปนัสยา และ ไมค์-ภาณุพงศ์ เดินทางถึงบริเวณที่ชุมนุมและได้นำขบวนชูป้ายข้อเรียกร้อง 10 ข้อปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ของกลุ่ม #ธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมอ่านแถลงการณ์ฉบับที่หนึ่งอีกครั้ง ขณะที่แกนนำคณะประชาชนปลดแอกสลับกันขึ้นปราศรัยบนเวทีอย่างต่อเนื่อง สลับกับการเล่นดนตรี และการแสดงละครเวที เช่น Rap Against Dictatorship, แอมมี่ The Bottom Blues, วงสามัญชน, คณะละคร B-Floor ตลอดเวลาการชุมนุมในวันที่ 16 สิงหาคม สัญญาณโทรศัพท์มือถือได้มีปัญหาเนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมาก
มีการขึ้นปราศรัยของกลุ่มประชาชนจากทางภาคใต้ นำโดย ‘บังแกน สมบูรณ์ คำแหง’ นักพัฒนาเอกชนภาคใต้ กล่าวถึง ปัญหาแผนพัฒนาสตูลแล้วนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และ ‘ซูกริฟฟี ลาเตะ’ ประธานสมาพันธ์นิสิตนักศึกษาฯ ปาตานี PerMas ที่กล่าวถึงปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2020/08/117418044_10157204421496456_6406812595317778618_o-900x900.jpg)
22.00 น. ทนายอานนท์ นำภา ขึ้นปราศรัยถึงแนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ และสถานการณ์ที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ถูกอำนาจมืดคุกคาม ขณะที่ จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธาน สนท. ขึ้นปราศรัยโดยอ่านคำพูดของปู่ของเธอคือ ‘เตียง ศิริขันธ์’ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในอดีต ซึ่งถูกอุ้มฆ่าและไม่รู้ชะตากรรมจนถึงขณะนี้ โดยเธอยืนยันว่าจะสู้ต่อไปเพื่อประชาธิปไตย และผู้ปราศรัยคนสุดท้ายคือ ฟอร์ด-ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี เลขาธิการคณะประชาชนปลดแอก ขึ้นปราศรัยโดยเสนอโร้ดแม็ป 3 ขั้นตอนต่อรัฐบาล พร้อมขีดเส้นตายภายในเดือนกันยายนต้องมีการตอบรับจากรัฐบาล ต้องไม่มี 250 สว. หากรัฐบาลยังนิ่งเฉย
เราจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง
จากนั้นมีการเชิญแกนนำผู้ที่คาดว่าจะถูกหมายเรียก-หมายจับ จากการชุมนุม #เยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จำนวน 31 คน ขึ้นมาบนเวที และกล่าวว่าให้เวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 5 นาที เพื่อขึ้นมาชี้แจงว่ามีใครที่โดนหมายเรียก-หมายจับบ้าง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แกนนำคณะประชาชนปลดแอกประกาศจบกิจกรรมการชุมนุมในเวลา 22.40 น. เชิญชวนให้ทุกคนชูสามนิ้วปิดท้าย พร้อมเปิดทำนองเพลง ‘Do You Hear The People Sing?’ เป็นอันเสร็จสิ้นกิจกรรม
หลังจากผู้ร่วมชุมนุมทยอยเดินทางกลับแล้ว ทนายอานนท์ นำภา และนักศึกษา รวม 31 คนที่มีชื่อคาดว่าจะถูกหมายเรียก-หมายจับ ได้เดินเท้าโดยมีการ์ดล้อมรอบอย่างแน่นหนา ไปที่ สน.สำราญราษฎร์ เพื่อแสดงตัวสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเรื่องความชัดเจนของหมายเรียก-หมายจับ โดยย้ำว่าที่มาในวันนี้นั้นไม่ได้มามอบตัวแต่มาแสดงตัวเพื่อขอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม ทนายอานนท์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ไม่มีการแสดงความชัดเจน และไม่สามารถแสดงรายละเอียดของหมายจับได้ ทั้งหมดจึงตัดสินใจเดินทางออกมาจาก สน.สำราญราษฎร์
คณะประชาชนปลดแอก ประกาศว่า 16 สิงหาคม 2563 จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่าเป็น “วันแห่งการประกาศอิสรภาพของประชาชน”
ค่ำคืนวันที่ 16 สิงหาคม ผ่านพ้นไป ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วย Twitter Trend ของวันที่ 17 สิงหาคม เวลา 04:02:45 คือ
#สนับสนุน10ข้อเรียกร้อง
#jennisbnk48
#ลองของซีรีส์EP6
#theunderclassep7
#ตรวจหวย
แต่หลังจากเวลา 08.00 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม #โรงเรียนหน้าเขาไม่เอาเผด็จการ ก็ขึ้นอันดับหนึ่ง Twitter Trend พร้อมกับภาพถ่ายและวิดีโอบันทึกเหตุการณ์การชูสามนิ้วระหว่างร้องเพลงชาติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาในหลายโรงเรียน รวมถึงการนัดกันผูกโบสีขาวเพื่อเป็นสัญลักษณ์การต่อต้านเผด็จการ
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปก็คือการคุกคามนักเรียนและนักศึกษาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกต่อจากนี้ ซึ่งมีรายงานข่าวว่า จากกิจกรรมชูสามนิ้วหลังเคารพธงชาติที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบสองนาย ยืนอยู่บนสะพานลอยด้านหน้าโรงเรียนและถ่ายรูปนักเรียนที่อยู่บริเวณหน้าเสาธง