เสียงปืนและระเบิดที่ฉนวนกาซา ดินแดนที่มีขนาดเล็กกว่าสมุทรสงคราม จังหวัดที่เล็กที่สุดของประเทศไทย กำลังแบ่งโลกทั้งใบเป็น 3 ฝ่าย
ฝ่ายสนับสนุนกลุ่มฮามาส ฝ่ายสนับสนุนอิสราเอล และฝ่ายไม่เลือกข้างแต่ประกาศเรียกร้องสันติภาพ ราวกับว่าคำประกาศสงครามต่อกลุ่มฮามาสของ เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล จะเป็นการพาโลกเข้าสู่สงครามใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
ลองไปสำรวจโลกพร้อมกันว่า ใครยืนตรงไหนในสถานการณ์ที่โลกจับตามอง
กลุ่มสนับสนุนฮามาส
ประเทศที่ออกตัวแรงและชัดเจนว่าสนับสนุนฮามาสอย่างเป็นทางการมากที่สุดคือ อิหร่าน เมื่อ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุดของประเทศ ออกแถลงการณ์ด้วยตนเองว่าสนับสนุนการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอลที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2023 และจะสนับสนุนนักรบอิสลามต่อไป “จนกว่าปาเลสไตน์และเยรูซาเล็มจะได้รับอิสรภาพ”
ขณะที่โฆษกของกลุ่มฮามาสก็ออกโทรทัศน์ขอบคุณอิหร่านที่สนับสนุนอาวุธ และเงินให้กับฮามาสในการเปิดฉากถล่มอิสาราเอลครั้งล่าสุดนี้ “พวกเขา (อิหร่าน) มอบขีปนาวุธให้เราเพื่อทำลายป้อมปราการของไซออนนิสต์ และช่วยเราในเรื่องขีปนาวุธต่อต้านรถถัง” โฆษกกลุ่มฮามาสกล่าว
ตุรกี เป็นอีกประเทศหนึ่งที่สนับสนุนกลุ่มฮามาสอย่างชัดเจน ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอรโดก์อาน (Recep Tayyip Erdoğan) ออกแถลงการณ์ปกป้องปาเลสไตน์เมื่อวันเสาร์ หลังจากอิสราเอลถูกขีปนาวุธของกลุ่มฮามาสยิงถล่มเพียงไม่นาน
แอร์โดก์อานเตือนอเมริกาให้อยู่ห่างๆ การสู้รบระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอลในครั้งนี้ “เราพร้อมจะปกป้องปาเลสไตน์ด้วยต้นทุนทุกอย่าง”
ส่วนปากีสถาน แม้ จาลิล อับบาส จิลานี (Jalil Abbas Jilani) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ จะพยายามวางตนเป็นกลาง ด้วยการแสดง ‘ความกังวลอย่างยิ่ง’ ต่อการสู้รบที่กำลังรุนแรงขึ้น และการสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ แต่ก็มีข้อเรียกร้องที่ชัดเจนว่า ให้อิสราเอลยุติการกดขี่ในปาเลสไตน์ที่อิสราเอลยึดครองอยู่ในทันที และประกาศยืนหยัดเคียงข้างชาวปาเลสไตน์ เช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรี ชาห์บาซ ชารีฟ (Shehbaz Sharif) ก็โพสต์ข้อความลงเอ็กซ์ (X) เช่นกันว่าสนับสนุนฮามาส นอกจากนี้ยังมีประชาชนชาวปากีสถานจำนวนมากเดินขบวนสนับสนุนกลุ่มฮามาสในเมืองต่างๆ ของปากีสถานอีกด้วย
เสียงสนับสนุนกลุ่มฮามาสยังดังออกมาจากประชาชนของประเทศอื่นๆ เช่น ชาวมุสลิมในเบอร์มิงแฮมของอังกฤษ ออกมาเดินขบวนในเขตเมืองเพื่อแสดงพลังยืนเคียงข้างปาเลสไตน์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่
กลุ่มสนับสนุนอิสราเอล
กลุ่มประเทศที่สนับสนุนอิสราเอลมีจำนวนมากกว่ากลุ่มสนับสนุนฮามาสมาก ทั้งในเชิงจำนวนประเทศ และเชิงความเป็นมหาอำนาจ โดยพบว่าประเทศมหาอำนาจของโลก 3 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ต่างประกาศยืนข้างและให้การสนับสนุนอิสราเอลชัดเจน
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกที่ออกมาประกาศสนับสนุนอิสราเอล โดยมีรายงานข่าวในวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม ว่ากองทัพสหรัฐเตรียมเคลื่อนเรือรบและเครื่องบนรบเข้าใกล้อิสราเอล เพื่อสนับสนุนการต่อต้านกลุ่มฮามาส ขณะเดียวกัน แอนโทนี บลิงเกอร์ (Antony Blinker) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำอันโหดร้ายของกลุ่มฮามาสที่ “ลักพาตัวคนแก่และผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์การสังหารหมู่ (ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2) และการจับตัวประกันในฉนวนกาซา”
ริชี ซูแน็ก (Risjhi Sunak) นายกรัฐมนตรีอังกฤษ อัดคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ประณาม ‘กลุ่มก่อการร้าย’ ฮามาส ที่โจมตีอิสราเอลและประกาศยืนข้างอิสราเอลอย่างเต็มที่
ส่วนฝรั่งเศส ประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) โพสต์ข้อความใน X ประณามการโจมตีประเทศ ทหาร และประชาชนอิสราเอล ประกาศยืนข้างประเทศอิสราเอลและชาวอิสราเอลในการกระทำเพื่อปกป้องความปลอดภัยของประเทศและสิทธิของตนเอง
เช่นเดียวกับประเทศเยอรมนี นายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ (Olaf Scholz) ประกาศยืนเคียงข้างอิสราเอล และ อันนาเลนา แบร์บอค (Annalena Baerbock) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่ประณาม ‘การโจมตีก่อการร้าย’ ที่เกิดกับอิสราเอล
นอกจากนี้ยังมีประเทศที่แม้จะไม่ประกาศสนับสนุนอิสราเอล แต่ก็ออกมาประณามการกระทำของกลุ่มฮามาส เช่น สาธารณรัฐเช็ก โดยประธานาธิบดี ปีเตอร์ พาเวล (Petr Pavel) ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของฮามาสว่า เป็นการก่อการร้ายต่อชีวิตพลเรือนของอิสราเอลและเป็นการกระทำที่ขัดขวางกระบวนการสันติภาพในภูมิภาค
เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน (Ursula von der Leyen) ประธานสหภาพยุโรป โพสต์ลง X ประณามการกระทำของฮามาส และเรียกการโจมตีกลับของอิสราเอล ว่าเป็นการป้องกันตนเองจากการโจมตีที่ชั่วร้าย (heinous attacks)
เบลเยียม รัฐมนตรีว่ากระทรวงต่างประเทศ ฮัดจา ลาห์บิบ (Hadja Lahbib) เขียนบน X ในนามประเทศเบลเยียมว่า ขอประณามการใช้จรวดโจมตีอิสราเอล และเบลเยียมกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ประเทศไทยเองก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ เมื่อนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน โพสต์ข้อความใน X ประณามการโจมตีอิสราเอล ว่าเป็นการโจมตีที่ไร้มนุษยธรรม ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ
กลุ่ม (ยัง) ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
กลุ่มสุดท้ายเป็นกลุ่มของประเทศที่ออกแถลงการณ์ต่อความรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นในดินแดนฉนวนกาซา แต่ไม่แสดงความเห็นเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กลุ่มนี้นำโดยประเทศจีน
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์แสดง ‘ความวิตกกังวลอย่างยิ่ง’ ต่อความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายที่เกี่ยวข้อง “อยู่ในความสงบ หยุดยิงทันที ปกป้องพลเรือน และป้องกันไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งขึ้น”
ประเทศในกลุ่มนี้ยังรวมถึงบราซิล ที่ออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในภาพรวม ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งและอิยิปต์ที่เตือนให้ทั้ง 2 ฝ่าย เตรียมรับผลลัพธ์ที่ร้ายแรง (grave consequences) จากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นของสถานการณ์