กึ่งๆ จะเป็นหนังสือชีวประวัติของ ซีโมน โบลิวาร์ นายพลผู้ปลดปล่อยดินแดนอเมริกาใต้จากการเป็นอาณานิคมของสเปน ซึ่งปัจจุบันคือดินแดนของประเทศเวเนซูเอลา โบลิเวีย โคลัมเบีย เอควาดอร์ เปรู และ ปานามา
ผลงานของนายพลโบลิวาร์นับว่ายิ่งใหญ่มาก ทั้งการสู้รบกับกองทัพกษัตริย์สเปนที่มีกำลังใหญ่กว่าในสมรภูมิอันโหดร้ายเช่นป่าดงดิบ หรือการที่ปลดแอกดินแดนได้ไพศาลยิ่งกว่าที่นโปเลียนเคยพิชิตได้ในยุโรป แต่ชื่อเสียงของโบลิวาร์นั้นกลับไม่ได้ทัดเทียมเหล่าผู้ปลดแอกคนอื่นๆ ที่เราอาจจะคุ้นเคยกว่า เช่น จอร์จ วอชิงตัน
มาร์เกซเขียนหนังสือเล่มนี้จากบันทึกความทรงจำ 34 เล่มของของนายพลโอ’เลียรี นายทหารคนสนิทของโบลิวาร์ รวมทั้งการค้นคว้าเอกสารทางประวัติศาสตร์อย่างจริงจัง ทั้งจดหมายหลายร้อยฉบับที่โบลิวาร์เขียนโต้ตอบกับคนต่างๆ มากมาย และการขอคำปรึกษาจากนักประวัติศาสตร์ ทั้งหมดนั้นเป็นข้อเท็จจริง แต่หนังสือเล่มนี้วางตัวเป็นนิยาย มิใช่สารคดี มาร์เกซใช้เวทมนตร์ทางภาษาของเขาในการบรรยายและให้ภาพฉากตอน เรื่องราวรายละเอียดต่างๆ จนอากาศของเรื่องเล่าอวลกลิ่น magical realism เตะจมูก แต่นานไปเราจะไม่ได้กลิ่น และสูดอากาศนี้เข้าปอดอย่างเป็นธรรมชาติจนลืมไปว่ากำลังอ่านนิยายอยู่
นับจากวันที่เขากลับมาครั้งล่าสุดจากสงครามที่ดินแดนตอนใต้ ทุกคนที่มารอรับเฝ้าชมเขาลอดผ่านซุ้มดอกไม้ต่างตระหนกในความคิดว่า นี่คือการกลับมาตาย แทนที่จะเป็นการควบ ปาโลโม บลังโก ม้าตัวเก่งของเขา ก็กลับเป็นการโขยกเขยกมาบนหลังลาขนเกรียนน่าสมเพช … เส้นผมของเขากลายเป็นสีเทา หน้าผากย่นกร้านเหมือนฝ่าพายุฝน เสื้อทูนิคยับเยินสกปรก แขนเสื้อขาด ประกายเรืองรองหมดสิ้นไปจากตัวเขา…
สิ่งหนึ่งที่เป็นเสน่ห์มากๆ คือเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้นั้นเริ่มจากวันที่โบลิวาร์ถูกปลดจากตำแหน่งประธานาธิบดี การเดินทางล่องลำน้ำมักดาเลนาของเขาและพลพรรคเพื่อจะอพยพไปยุโรป การแวะพักตามเมืองต่างๆ และงานเลี้ยงอันเอิกเกริก จนจบเรื่องราวในวันที่เขาสิ้นชีพ มันเป็นเรื่องราวของวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของลาตินอมเริกาในช่วงชีวิตที่ตกต่ำที่สุด เราจะเห็นภาพที่มาร์เกซวาดไว้อย่างละเอียดลออถึงความเป็นมนุษย์ ที่มีทั้งความรื่นรมย์ การถูกเชิดชูเยี่ยงวีรบุรุษ ตัดขัดแย้งกับภาวะสังขารใกล้ตายของนายพลผู้ทุกข์ทรมานด้วยวัณโรคและอาการนอนไม่หลับ การทระนงในเกียรติของทหารหาญจนแม้จะป่วยแค่ไหนก็ไม่ยอมนั่งเสลี่ยง แต่บางคราวเขาก็ปลดปลง ในสรรพสิ่งที่ตลอดชีวิตของวีรบุรุษสร้างมา
“เราไปกันเถอะ ให้เร็วที่สุด ที่นี่ไม่มีใครรักเรา”
หนังสือเล่มนี้มีทั้งคนรักและคนชัง เพราะไปแตะต้องและฉายภาพวีรบุรุษของภูมิภาคในแบบที่มิใช่การยกยอเชิดชูถ่ายเดียว แต่ยิ่งอ่าน เรายิ่งรู้สึกว่ามาร์เกซหลงใหลรวมทั้งรู้สึกเชื่อมโยงกับชีวิตเปี่ยมสีสันของโบลิวาร์ (โดยเฉพาะความเป็นนักรัก) และทั้งหมดที่เขาเขียนนั้น เปี่ยมด้วยความรักในความเป็นมนุษย์
น่าอ่านมาก หากอยากศึกษาภาวะจิตใจในช่วงขาลง และการหลุดจากวงกตแห่งเกียรติยศ
นายพลในเขาวงกต The General in His Labyrinth กาเบรียล การ์เซีย มาร์เกซ เขียน ไพรัช แสนสวัสดิ์ แปล สำนักพิมพ์สามัญชน |