เรื่อง: อภิรดา มีเดช
ตั้งแต่ต้นปี 2013 สโลว์ฟู้ดเริ่มโปรโมทเทศกาลสโลว์ฟู้ดเอเชียครั้งแรก (2013 AsiO Gusto) ที่จัดขึ้นที่เมืองนัมยังจู ทางตอนเหนือของเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 1-6 ตุลาคม ด้วยธีม ‘Slow Food, Change the World with Taste’
นัมยังจู เปรียบเสมือนนครของคนรักออร์แกนิก เพราะเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ออร์แกนิกแห่งแรกของโลก เปิดให้เข้าชมประวัติศาสตร์และการพัฒนาเกษตรกรรมอินทรีย์ตั้งแต่เดือนกันยายน 2011
ถ้าคุณเป็นอีกคนที่ยึดมั่นในแนวทางเกษตรอินทรีย์ โปรแกรมเที่ยวเกาหลีครั้งหน้าคงต้องพ่วงเมืองนัมยังจูไปด้วย เพราะจากโซลมานัมยังจู ใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ไม่เกินชั่วโมง
รายละเอียดของเทศกาลครั้งปฐมฤกษ์ถือว่าไม่ธรรมดา จากหัวข้อการประชุม อาทิ เสวนาเรื่องความหลากหลายของข้าวพื้นถิ่นในแถบเอเชียและโอเชียเนีย อาหารและจิตวิญญาณ อาหารหมัก และไฮไลท์ของงาน ซึ่งก็คือ สโลว์ฟู้ดกับการเคลื่อนไหว ‘Hansalim’ (กลุ่มสหกรณ์เกาหลีใต้)
สิ่งที่ Hansalim ทำในเกาหลีใต้ แทบจะเหมือนกับกิจกรรมที่สโลว์ฟู้ดตั้งใจส่งเสริมทุกอย่าง แม้แต่ปีก่อตั้งก็ยังเป็นปีเดียวกัน ข้อต่างเพียงอย่างเดียวก็คือ ไม่ได้ใช้คำว่า ‘สโลว์ฟู้ด’ เท่านั้นเอง
+ รู้จัก ‘Hansalim’
Hansalim คือสหกรณ์ผู้ผลิตและผู้บริโภคในเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1986 เริ่มต้นจากร้านของชำเล็กๆ ของ ปาร์ค ไจ อิล อดีตประธานสหกรณ์ที่วางขายข้าวปลอดสารพิษ ธัญพืช และน้ำมันงา ปัจจุบันมีสมาชิกที่เป็นผู้บริโภค 284,000 คน สมาชิกผู้ผลิต 2,000 ราย ลูกจ้าง 328 คน ร้านค้า 132 แห่ง ผลประกอบการในปี 2009 อยู่ที่ราว 160 ล้านเหรียญสหรัฐ
Han (한) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนผืนโลก ส่วน Salim (살림) เป็นการฟื้นฟูและให้ชีวิต
เมื่อนำมารวมกันจึงหมายความว่า การช่วยเหลือดูแลทุกชีวิตบนโลก เอกลักษณ์ของ Hansalim คือ การสนับสนุนเกษตรอินทรีย์ ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการซื้อขายกันโดยตรงระหว่างคนทำและคนกิน
ในร้านสหกรณ์ของ Hansalim นอกจากวัตถุดิบในครัวเกาหลีเกือบทุกอย่าง ตั้งแต่ ข้าว ผักผลไม้ ถั่ว เนื้อ อาหารทะเล นม แยม ซอส เต้าหู้ เส้นหมี่ ปลาแห้ง และของคู่โต๊ะอาหารที่ขาดไม่ได้อย่างกิมจิแล้ว เรายังสามารถหาหนังสือ เครื่องสำอาง สีย้อมจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์ซักผ้า ไปจนถึงกระดาษชำระได้ที่นี่
+ เติมข้าวให้เต็มชาม
A bowl of rice has the world in it.
There are the fundamentals and the value of life in all things of the world.
All the lives interact closely with each other in a bowl of rice.
Every time we understand and act it fills the bowl.
เพราะชาวเกาหลีและคนฝั่งตะวันออกผูกพันกับชามมากกว่าจาน พวกเขาจึงเปรียบมันเข้ากับสิ่งที่ตัวเองทำ สิ่งที่ผูกพันกับชีวิตในแต่ละวันชนิดแยกไม่ออก
“เราต่างมีส่วนช่วยเติมข้าวให้เต็มชาม”
ทุกๆ ปีใหม่ ผู้ผลิต ผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่ จะร่วมพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน โดยประเด็นสำคัญที่ทุกคนจะได้มีส่วนกำหนดร่วมกันคือ ชนิดและปริมาณพืชพันธุ์ที่จะเพาะปลูกในฤดูถัดไป ว่าควรปลูกอะไร ที่ไหน ใครรับหน้าที่ปลูกบ้าง และราคาขายควรเป็นเท่าไหร่ เพื่อความหลากหลายของผลผลิตและป้องกันการผลิตสินค้าชนกันจนเกินความต้องการของตลาด
Hansalim ไม่ได้ต้องการต่อสู้เพื่อสิทธิผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว พวกเขาให้ความสนใจและพยายามสร้างสังคมที่ผสมผสานระหว่างชุมชนเมืองและชนบท สอดประสานวิถีของผู้คนและธรรมชาติให้สามารถพัฒนาไปพร้อมๆ กันได้
อ้างอิงข้อมูล: eng.hansalim.or.kr
asiogusto.tistory.com
+ ที่มาราคาเป็นธรรม
Hansalim พยายามรักษาราคาสินค้าและพืชพันธุ์ทางการเกษตรให้เป็นธรรมต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค พวกเขาไม่ได้มองแค่ปัจจุบัน แต่หวังไกลไปว่าจะสามารถปูพื้นฐานและส่งต่อความเป็นอยู่และความอุดมสมบูรณ์สู่ลูกหลานและเด็กรุ่นต่อๆ ไป
หลักการในการกำหนดราคาสินค้าของที่นี่ สมมุติว่าข้าวสารถุงหนึ่งตั้งราคาที่ 100 บาท 76 บาท จะเข้ากระเป๋าผู้ผลิต ส่วนที่เหลือ 24 บาทจะเก็บเข้าสหกรณ์เพื่อเป็นค่าดำเนินการ ได้แก่ ค่าน้ำมัน ค่าขนส่ง ไปจนถึงค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์
ทั้งหมดสอดคล้องกับปรัชญา Hansalim ที่ว่า
“มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเรากินเท่านั้น แต่มันคือสิ่งที่พวกเราทำ”
————————————–
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสาร WAY 64 สิงหาคม 2556
Author
