ภายใต้เงื่อนไขพิเศษในประเทศที่เราอาศัยอยู่ ณ เวลานี้ ไม่ว่าจะเกิดดราม่าผลประชามติแค่ไหน แต่สิทธิอำนาจในการกำหนดชะตากรรมประเทศ ก็ไม่ได้อยู่ในมือคนธรรมดาแบบเราอยู่ดี เนื่องจากอำนาจสิทธิ์ขาดยังอยู่ในมือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ถือดาบอาญาสิทธิ์ บินลอยอยู่เหนือศีรษะประชาชนทุกคนในประเทศ
การได้คาดเดาตรรกะและสภาพจิตของพลเอกประยุทธ์ก่อนถึงวันลงประชามติ จึงมิใช่เพียงความบันเทิงเฉพาะบุคคล หากแต่เป็นความสมจริงในการวิเคราะห์ทิศทางบ้านเมืองในชั่วโมงพิเศษเช่นนี้
และแน่นอน มันเป็นการสำรวจสภาพจิตของคนแต่ละกลุ่มในสังคมด้วย
อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล
ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ต (Thainetizen)
“ประกาศให้คนรู้ว่า กำลังร่างรัฐธรรมนูญใหม่รอ มีมาตราเดียว มาตรา 44”
ไชยันต์ ไชยพร
อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
“Labor Omnia Vincit”
(ลา-บอร์ ออม-เนีย วิง-กิต)
(ละติน) ความวิริยะอุตสาหะ นำมาซึ่งความสำเร็จ (Work conquers all.)
วรศักดิ์ มหัทธโนบล
นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ ประจำปี 2558
“ด้วยความที่คุณประยุทธ์เป็นทหารอาชีพ เขาคงไม่ได้มีความคิดที่จะลงเล่นการเมืองตั้งแต่แรก และอย่างที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์อยู่หลายครั้งถึงเหตุผลที่ทำรัฐประหารครั้งนี้ว่า เป็นเพราะวิกฤตการณ์ของบ้านเมืองช่วงก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้จำใจต้องออกมารัฐประหาร
“ฉะนั้นหากประชามติครั้งนี้ผ่าน อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง เป็นการปลดภาระและอาจทำให้การทำงานของท่านลอยตัวมากขึ้นกว่าปัจจุบัน ดังนั้น ความเห็นส่วนตัวนะครับ ด้วยการเป็นทหารอาชีพ ผมไม่คิดว่าเขาเป็นคนที่จะติดอกติดใจในอำนาจทางการเมืองแบบนั้น
“อย่างไรก็ตาม มันก็มีความขัดแย้งทางความคิดอยู่บางประการ คือขณะที่ท่านอยากจะปลดตัวเองงานการเมืองขณะเดียวกันก็กังวลว่ารัฐธรรมนูญที่ออกมานั้นจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ หรือการณ์จะกลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้าเหตุการณ์ 22 พฤษภาคม 2557 ฉะนั้นความกังวลและลังเลใจตรงนี้ ก็เลยเป็นที่มาของคำถามพ่วง ที่ให้อำนาจ สว. เลือกนายกฯเองได้ โดยจะแก้ได้มากน้อยแค่ไหนหรือทำได้จริงหรือไม่ ขณะนี้ก็คงไม่มีใครคาดการณ์ทำนายได้จริงๆ
“นอกเหนือจากนี้ ถ้าว่ากันตามเจตนารมณ์ของ คสช. ผมเห็นว่าเขาน่าจะอยากให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับของคุณบวรศักดิ์ (อุวรรณโณ) ที่ตกไปคราวนั้นผ่านและมีผลใช้จริงมากกว่า แต่พอไม่เป็นอย่างนั้น ก็เลยนำมาสู่ร่างที่สองของคุณมีชัย (ฤชุพันธุ์) ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ผ่าน และนำไปสู่การเลือกตั้งจริงๆ มันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเมืองอย่างที่ คสช. หวังเอาไว้ได้จริงหรือเปล่า คงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูต่อไป”
กตัญญู สว่างศรี
นักเขียน / พิธีกร / comedian
“ผมจะคิดว่า ผมต้องคิดอะไรด้วยจริงๆ เหรอ มันเสียเวลา ถ้าให้ตอบจริงๆ ผมคิดว่าผมจะกินอะไรมื้อเย็นดีนะ พรุ่งนี้เช้า เที่ยง จะกินอะไร ที่ไหน
“ผมจะทำอะไรน่ะหรอ? ไร้สาระน่า ผมหาอะไรกินเรื่อยๆ ดีกว่า”
บุญเลิศ วิเศษปรีชา
อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
“ถ้าผมเป็นประยุทธ์ ผมจะ Free vote ผมจะให้คนที่เห็นด้วยและคนที่ไม่เห็นด้วยได้แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผย
“ถ้าผมเป็นประยุทธ์ ผมก็อยากจะรู้ว่าผมจะบริหารประเทศอย่างไรต่อ ผมจะได้รับฉันทานุมัติไหม
“ถ้าผมเป็นประยุทธ์ ผมจะเปิด Free vote ผมจะบริหารประเทศด้วยความมั่นใจได้ว่า มีประชาชนสนับสนุนแนวทางแบบนี้ ผมจะได้รับฉันทานุมัติจากการลงประชามติ
“ถ้าผมเป็นประยุทธ์ ในสภาวะที่เป็นอยู่ตอนนี้ ต่อให้ประชามติผ่าน ผมก็จะถูกตั้งคำถามถึงความชอบธรรมอยู่ดีว่า ประชามติแบบที่ไปไล่จับคนที่ไม่เห็นด้วย ไม่เปิดให้คนโต้แย้ง นี่คือประชามติแบบไหน”
โชติรส นาคสุทธิ์
สื่อมวลชน นักกิจกรรม
“ถ้าเราเป็นประยุทธ์ เราคงยกเลิก ม.44 ก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้นเราก็จะซื้อปี๊บ เพราะเราคงอาย ที่เป็นนายกฯมาสองปีกว่า โดยที่ไม่มีคนเลือก และก็คงเครียดมาก ที่พูดอะไร ก็มีคนทำมีมออกมาล้อ
“เรารู้สึกว่า 2 ปีกว่ามันนานเกินไปแล้ว สำหรับการยึดสิทธิ์ยึดเสียงของคนทั้งประเทศแบบนี้ เพราะฉะนั้น นาทีนี้เราจะคืนอำนาจให้ประชาชน โดยทำการให้ประชามติโปร่งใสที่สุด รับฟังเสียงของประชาชนมากขึ้น เพื่อที่จะไม่ต้องใส่ปี๊บหลายๆ ชั้น แล้วก็อายมากไปกว่านี้”
ยิ่งชีพ อัชฌานนท์
โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw)
“นาทีนี้ในฐานะผู้นำของรัฐ คงต้องอยู่เฉยๆ ในทางสาธารณะ ไม่ออกมาพูดอะไรมาก เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งน่าเกลียด กลายเป็นชี้นำ
“แต่ถ้ามีกลไกในทางลับที่ประชาชนไม่รู้ว่ากำลังทำอยู่ ก็ต้องรีบใช้ทุกวิถีทาง เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านให้ได้ เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านขึ้นมา ก็จะเสียหน้าครั้งใหญ่”