เรื่อง: loneliness radio
ในวันสุดท้ายของการขอยื่นแจ้งครอบครองยาเสพติดประเภท 5 (21/5/2019) คึกคักเป็นพิเศษ ถ้านับดูจำนวนคนตามบัตรคิวแล้ว น่าจะมีคนมากกว่า 3,000 คน ส่วนคนที่มาก็มีหลากหลายแนว แต่จะขอเหมารวมแบบนิสัยเสียจัดประเภทผู้คนจากทรงของร่างกาย เพราะนอกจากคนที่ต้องการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ ในวันนั้นข้าพเจ้าได้พบกัญชาชนและพ่อค้ากัญชาที่มาขอยื่นแจ้งครอบครองกัญชา แต่ไม่รู้สิ – เหมือนพวกเขาโดนล่อให้มาลงทะเบียน แล้วเจ้าหน้าที่พร้อมจะไปเคาะประตูบ้าน
ประเภทคนที่จะเห็นในงาน ข้าพเจ้าขอแบ่งเป็น 3 แนว
1. กัญชาชนขนานแท้ๆ ประสงค์จะดูดเพื่อสันทนาการ และเมื่อดูจากรูปร่างและความอิดโรยของร่างกาย คนกลุ่มนี้น่าจะใช้สารเสพติดประเภทแอมเฟตามีนด้วย 90 เปอร์เซ็นต์ + (บางคนมีแนวโน้มว่าจำหน่ายแน่นอนเพราะนำมาแจ้งจดเป็นกิโลกรัม)
2. ทรงดีหน่อย ดูเป็นชนชั้นกลางที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า 7 เปอร์เซ็นต์ (แต่พวกนี้อาจแค่อยากดูดเล่นเฉยๆ เช่นข้าพเจ้า)
3. ผู้สูงอายุและครอบครัวที่ใช้เพื่อการรักษาแน่ๆ 3 เปอร์เซ็นต์ (คนกลุ่มนี้ได้ fast track เพราะต้องการใช้จริงๆ)
จากทั้ง 3 ประเภทที่แบ่งนี้ ประเภทที่ 1 มาเยอะที่สุด การมาทำเรื่องแจ้งจึงเป็นไปอย่างคึกคัก แต่แค่นั้นยังไม่พอ พวกท่านเล่นยำและพันลำดูดกัน กลิ่นกัญชาลอยคลุ้งในสถานที่ราชการราวกับกัญชาเสรีแล้วในประเทศไทย ถ้ามองในแง่การต่อต้านรัฐแบบอนาธิปไตย มันก็ดูเท่ดีนะครับ
ในส่วนของใบรับร้องแพทย์นั้นส่วนใหญ่ระบุอาการไมเกรน เพราะเป็นอาการที่ใครก็ขอได้ ซึ่งสำหรับข้าพเจ้าคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีที่รัฐสามารถให้เราเข้าถึงการรักษาทางเลือกได้ด้วยอาการนี้
ขุดบ่อล่อกัญชา
หลังจากผ่านด่านตรวจเอกสารและเช็คความถูกต้องของหลักฐานที่นำมาแล้ว ข้าพเจ้าขึ้นไปให้เจ้าหน้าที่อีกห้องพิจารณาว่าเราได้รับใบอนุญาตไหม ซึ่งพวกเขาก็เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แจ้งยื่นซึ่งจะรวบรวมหลักฐานของคุณ ดังนี้
1. ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และปริมาณกัญชาที่นำมาแจ้ง ไม่ว่าจะของจริงหรือรูปถ่าย แต่สำหรับรูปถ่าย พวกเขามีโอกาสไปเยี่ยมหาคุณ
2. ปริมาณกัญชาที่ถือครองไว้ หากโดนตรวจไม่ว่าจะด่านตำรวจหรือทางใดก็ตามแต่ แต่มีปริมาณเกินที่แจ้งไว้ ก็โดนจับ
3. ถ้าสารสกัดกัญชาของรัฐประกาศขายเมื่อไหร่ เอกสารนี้ไม่มีผลทันที
จาก 3 ข้อที่กล่าวมาเราน่าจะพอเดากันออกว่า กัญชาชนตัวจริงคงไม่ไปหาหมอแล้วขอใช้กัญชาทางการแพทย์ ถึงไป – เขาก็น่าจะไม่ขายให้คุณ และข้อมูลทั้งหมดพวกเขาก็เดินเขาไปยื่นให้รัฐแบบสนุกสนานร่าเริง พร้อมอวดลงโซเชียลแน่นอน คิดว่ากำลังกดสกิลของ Black King Bar พอมันหมดอายุขึ้นมาก็เป็นการประกาศสงครามกับกัญชาฟอยล์ทองแบบจริงจัง
อนาคตอันรุ่งเรืองของกัญชาออร์แกนิค
ข้าพเจ้าเดาว่าหลังจากที่กัญชาของรัฐประกาศใช้แล้ว น่าจะกลายเป็นยุครุ่งเรืองของกัญชาออร์แกนิค ที่นายทุนน้อยใหญ่ หวังจะงาบเค้กชิ้นโต ซึ่งคุณเนวินน่าจะพร้อมกว่าใคร รวมถึงคุณอนุทินจอมแทงกั๊กก็จะเป็นประหนึ่งไอดอลของขี้ยาทั่วประเทศ และเพจซัพพลายเออร์การปลูกกัญชาก็จะเริงร่า และกัญชาฟอยล์ทองจะน้อยลงไปอย่างมากเพราะคนเข้าถึงกัญชาคุณภาพมากขึ้น ส่วนในทางเศรษฐกิจก็คิดว่าเกษตรกรจะมีอะไรให้ปลูกมากขึ้น สิ่งทอจากใยกัญชา และอาหารสัตว์จากกัญชา กัญชง คงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของนักลงทุน
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่เห็นได้ชัดเจนคือการพยายามผูกขาดกัญชาทางการแพทย์โดยรัฐ ซึ่งล่าสุดองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ประกาศว่าจะนำเข้ากัญชาระหว่างรอผลผลิตของตัวเอง ซึ่งทั้งที่จริงแล้วในประเทศไทยมีกลุ่มที่ทำน้ำมันกัญชาออร์แกนิคจำนวนหนึ่งพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ แต่รัฐเลือกที่จะไม่สนใจและต้องการครอบครองเค้กชิ้นนี้ไว้เพียงผู้เดียว
สุดท้ายคนดูดกัญชาเพื่อการสันทนาการแบบข้าพเจ้าก็หวังว่าจะมีโอกาสดูดกัญชาดีๆ และได้เสียภาษีจากการเมาให้รัฐ เพื่อไม่ให้เงินเหล่านั้นเข้าสู่มือของพ่อค้ากัญชาในตลาดมืดอีกต่อไป