ม็อบไล่นายกฯ เถื่อน ‘ประยุทธ์’ ครบวาระ 8 ปี

23 สิงหาคม 2565 มวลชนจากหลากหลายกลุ่มนัดชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พ้นจากนายกรัฐมนตรี หลังดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 และมาตรา 264 เนื่องจากเข้ารับตำแหน่งนายกฯ มาตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2557

กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง

ทั้งนี้ มวลชนได้ทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมตั้งแต่ช่วงเย็น โดยแบ่งออกเป็น 2 จุดหลักๆ ได้แก่ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นำโดยกลุ่มมวลชนอิสระและกลุ่มคนเสื้อแดง และบริเวณลานคนเมือง นำโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ คณะหลอมรวมประชาชน 

เบื้องต้นผู้ชุมนุมระบุว่าจะปักหลักจนถึงเวลาเที่ยงคืน เพื่อนับถอยหลังการออกจากตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่หากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนอาจมีการชุมนุมยืดเยื้อและปักหลักค้างคืนต่อไป

เวทีลานคนเมือง

การชุมนุมบริเวณลานคนเมืองมีการจัดเวทีขนาดใหญ่ นำโดย จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งจะปักหลักชุมนุมจนถึงเวลาเที่ยงคืนเพื่อนับถอยหลังส่งท้ายตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญต้องยึดมั่นต่อข้อกำหนด ม.158 และ ม.264 ตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด

จตุพร อภิปรายบนเวทีลานคนเมืองว่า หากพ้นเวลา 00.00 น. ไปแล้วอาจมีการประกาศค้างคืนชุมนุมต่อ แต่ยังคงยึดเวลาเดิมเป็นหลักตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้า

“หลังจากเที่ยงคืนวันนี้มีแต่นรก จะไม่มีสวรรค์สำหรับประยุทธ์ จันทร์โอชา อีกต่อไป”

นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ‘ทนายนกเขา’ กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญว่า หากพิจารณารับคำร้องแล้ว ควรมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญ หากไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เท่ากับว่าศาลมีข้อยกเว้น ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องคำนึงถึงหลักปฏิบัติมากกว่าข้อยกเว้น

ถัดจากนั้น ยศวริศ ชูกล่อม หนึ่งในคณะหลอมรวมประชาชน ขึ้นปราศรัยบนเวทีลานคนเมือง “พรุ่งนี้ประยุทธ์จะมีสภาพเป็นนายกฯ เถื่อน ถ้าประยุทธ์ยังอยู่ต่อ ก็จะมีสภาพแบบนี้… ทั้งประยุทธ์ ลูกเมีย รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องเดินเอาปี๊บคลุมหัวแบบนี้”

ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

บรรยากาศการชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มมวลชนอิสระเริ่มต้นด้วยการประกอบพิธี ‘มูเตลู’ ขับไล่และสาปแช่งนายกฯ เถื่อน มีการจัดเตรียมดอกไม้ พวงมาลัย บายศรี พริก เกลือ เทียนธูป เชี่ยนหมาก และไก่ต้ม ฯลฯ มีการทำพิธีกรรมรำถวายเทพยดา พร้อมคำกล่าวอธิษฐานก่อนเริ่มพิธีว่า “วันนี้ ลูกๆ ขอให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น มีเสรีภาพ ภราดรภาพ และความเสมอภาค รวมไปถึงอนาคตที่ดีมั่นคงด้วยเทอญ สาธุ” 

ระหว่างทำพิธี มีเสียงประทัดดังขึ้นหลายนัดติดต่อกัน พร้อมๆ กับการเผาพริกเผาเกลือ ท่ามกลางเสียงตะโกนโห่ร้องของมวลชนว่า “ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”

จากนั้นมีการจัดเวทีฟรีไมค์ โดยเปิดโอกาสผู้ชุมนุมขึ้นปราศรัยอย่างอิสระ เริ่มจากกลุ่มแดงก้าวหน้า ปราศรัยว่า “เหลือเวลาอีก 6 ชั่วโมง ประยุทธ์คงเครียดแล้ว เพราะถ้าลาออก มันก็ไม่ไว้วางใจคนที่จะมาแทนมัน 3 ป. ทุกวันนี้ก็กำลังแย่งชามข้าวกันอยู่ ไอ้หนูก็รอเสียบ เพราะฉะนั้น ถ้าประยุทธ์ฟังอยู่ ยุบสภาไปเลย แล้วถ้าเขาเป็นนายกฯ รักษาการ เขาจะไม่มีสิทธิ์เซ็นโครงการใดๆ ทั้งสิ้น”

ถัดมา บอย – ธัชพงศ์ แกดำ ปราศรัยบนเวทีว่า แม้พรุ่งนี้ประยุทธ์จะออกจากตำแหน่งแล้วมีการเลือกตั้งใหม่ แต่ตราบใดที่ไม่มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ไม่พูดถึงปัญหาอย่างตรงไปตรงมาว่า ต้นตอรัฐประหาร ต้นตอความเหลื่อมล้ำ คือคนที่มีอำนาจสูงสุดในการเซ็นอนุญาตรัฐประหาร

“นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ถ้ามีการรัฐประหาร คนที่ต้องรับผิดชอบ คือคนที่เซ็นอนุญาตรัฐประหาร เรื่องนี้ไม่จบแค่ประยุทธ์ แต่จะจบที่คนเซ็นอนุญาตด้วย” ธัชพงศ์กล่าว

ผู้ปราศรัยอีกราย แหวน – ณัฎฐธิดา มีวังปลา กล่าวว่า การออกมาต่อสู้ย่อมมีการบาดเจ็บ ทุกคนที่ออกมาต่อสู้ต่างต้องสูญเสีย เป็นเวลา 8 ปีแล้วที่ประชาชนต้องทนทุกข์ แต่สิ่งที่ได้รับกลับคืนมาคือ โลงศพและกระสุนปืน

“ไม่มีการสูญเสียใดหนักหนาเท่าปี 53 สถานที่แห่งนี้มีพี่น้องเสื้อแดงถูกล้อมฆ่า ถูกยิงตาย ภายใต้กระสุนปืนที่มาจากเงินภาษีของประชาชน พยาบาลอาสาออกมาเพื่อช่วยเหลือคนเสื้อแดง แต่สิ่งที่ได้คือหีบศพทั้ง 6 ใบของพวกเรา วันนี้เรายังมีนักโทษ 112 ในเรือนจำ 11 คน น้องๆ ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส และเอกชัย หงส์กังวาน ฯลฯ”

ในช่วงค่ำ ‘ตี้ พะเยา’ หนึ่งในแกนนำรุ่นใหม่ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า

“ทุกวันนี้ หนูเป็นเด็กคนหนึ่งที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองเรียน หนูทำงาน 1 ทุ่ม เลิกตี 5 เช้าก็ไปเรียน หนูเหนื่อยมาก แต่หนูก็ได้ไปเจอพี่ๆ หลายคนที่ทำงาน 3-4 กะ ทำงาน 1 ทุ่ม เลิกตี 5 นอน 4 ชม. แล้วก็ไปทำงานต่ออีกรอบ หนูสงสัยว่า การจะใช้ชีวิตดีๆ ในประเทศนี้ เราต้องมีงานกี่งานกันวะถึงจะใช้ชีวิตดีๆ ได้

“เราต้องเหนื่อยเท่าไหร่วะถึงจะใช้ชีวิตในประเทศนี้ได้ แล้วสวัสดิการต่างๆ ที่ควรได้ ก็อาจเอามาลดเรื่องน้ำมัน จัดการปัญหาต่างๆ ได้ แต่วันนี้ งบตรงนั้นกลับไปลงที่อื่นหมดเลย ไม่ได้เอามาให้ประชาชนทั้งๆ ที่พวกเราเป็นคนจ่ายให้มัน มันไม่ถูกต้องค่ะ

“ครอบครัวหนูมีธุรกิจ แต่สุดท้ายก็เจ๊งไป หลายคนอาจบอกว่าเกิดจากการบริหารของมึงไม่ดีหรือเปล่า ไม่ใช่ค่ะ หนูว่าส่วนหนึ่งมันเกิดจากการบริหารของรัฐบาลที่ไม่มีอะไรมาประกันให้ประชาชนเลย มันหมดสิ้น หมดหวังไปหมด”

เธอกล่าวทิ้งท้ายถึง พล.อ.ประยุทธ์ ด้วยว่า “ลงจากตำแหน่งดีๆ โดยสง่างาม มันสวยงามกว่าโดนประชาชนเตะไล่ เพราะอย่างนั้นประวัติศาตร์มันจะถูกจำไปอีกแบบหนึ่ง อยากให้ลงดีๆ อย่าลงตำแหน่งด้วยน้ำตา”

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

จรณ์ ยวนเจริญ
มนุษย์ขี้กลัว ผู้ที่กำลังเริ่มต้นเรียนรู้ชีวิตอีกครั้ง ทาสหมาแมวจรจัด สนใจศิลปะ วรรณกรรม และผู้คน แม้จะเข้าหาผู้คนไม่เก่งนัก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า