มวลชนกลุ่ม REDEM นัดหมายชุมนุมด้วยการโหวตผ่านแอพพลิเคชั่น Telegram จนได้ข้อสรุปร่วมกันว่า 6 มีนาคม 2564 จะมีการเดินขบวนจากห้าแยกลาดพร้าว พร้อมแคมเปญขนขยะไปทิ้งหน้าศาลอาญารัชดา โดยนัดหมายกันในเวลา 17.00 น. และจะประกาศยุติการชุมนุมอย่างสันติในเวลา 21.00 น.
แคมเปญดังกล่าวเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องสังคมที่เป็นธรรม และกระบวนการยุติธรรมที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติแบบสองมาตรฐาน ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้องของ REDEM ที่มุ่งขจัดต้นตอของปัญหาการเมืองไทย ได้แก่
- จำกัดอำนาจสถาบันกษัตริย์
- ขับไล่ทหารออกจากการเมือง
- ลดความเหลื่อมล้ำด้วยรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า
เพจเฟซบุ๊ค ‘เยาวชนปลดแอก – Free YOUTH’ รายงานว่า การชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของเยาวชนปลดแอก แต่เกิดจากมวลชนหลากหลายของกลุ่ม REDEM ที่ออกมาร่วมกันต่อสู้ โดยกลุ่มเยาวชนปลดแอกพร้อมสนับสนุนแนวทางที่ให้มวลชนมีอำนาจในการตัดสินใจ และช่วยประชาสัมพันธ์ให้กว้างขวางในการออกมาส่งเสียงต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่คนเท่ากัน
ตามเวลานัดหมาย 17.00 น. มวลชนทยอยเดินทางมาที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว เช่นเดียวกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารถเข็นที่มากันโดยพร้อมเพรียง
17.45 น. มวลชนเริ่มเคลื่อนตัวลงบนถนนห้าแยกลาดพร้าว การจราจรชะลอตัวทุกช่องทาง ฝ่ายเจ้าหน้าที่ประกาศข้อกฎหมายให้ผู้ชุมนุมทราบ ขณะที่มวลชนพากันตะโกนถ้อยคำภาษาอังกฤษว่า “I hear too” พร้อมกับเคาะถ้วยถังกะละมังหม้อกระทะ
จากนั้นผู้ชุมนุมออกเดินเท้ามุ่งหน้าไปตามถนนพหลโยธิน ผ่านแยกเกษตร ก่อนจะเลี้ยวเข้าสู่ถนนรัชดาภิเษก มุ่งตรงไปยังศาลอาญา บรรยากาศการเดินขบวนเป็นไปอย่างสงบ ไม่มีรถปราศรัยและแกนนำ มีเพียงทีมการ์ดสันติวิธีสวมเสื้อสีส้มนำขบวนล่วงหน้า ส่วนการจราจรคับคั่งทุกเส้นทาง
18.40 น. มวลชนเดินเท้ามาถึงหน้าศาลอาญา ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศข้อกฎหมายและมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องแสดงความไม่พอใจของประชาชน
มีรายงานด้วยว่า บริเวณด้านในของศาลอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมกำลังพลเข้าประจำในพื้นที่ พร้อมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูง อีกทั้งมีการขึงรั้วลวดหนามป้องกันการบุกรุก
19.00 น. ภายหลังเคลื่อนขบวนมาถึงจุดหมายแล้ว กิจกรรมเทขยะหน้าศาลอาญาจึงเริ่มต้นขึ้น มีการประกาศเชิญชวนให้ประชาชนร่วมกันนำขยะมาเททิ้งบริเวณริมรั้วศาลอาญา ใกล้กับจุดที่มีพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์รัชกาลที่ 10
มวลมหาปริมาณขยะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขวดน้ำพลาสติก ลังกระดาษ กรวยจราจร แผ่นกระดาษที่มีข้อความ ‘ยกเลิก 112’ ฯลฯ เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านความอยุติธรรม
ถัดมาปรากฏว่ามีการจุดไฟเผาขยะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องประกาศขอให้ประชาชนหยุดเผาและให้ลงจากฟุตบาธหน้าศาล และขออย่ากระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เช่น การปีนหรือรุกล้ำเขตศาล ท่ามกลางเสียงตะโกนก่นด่าของประชาชน
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาได้มีการดับไฟในกองขยะและมีการเขียนป้ายข้อความต่างๆ ติดไว้ที่ริมรั้วศาล
20.15 น. บรรยากาศเริ่มสับสน มีข่าวลือว่าเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนเส้นทางรัชโยธินไม่สามารถเดินทางกลับได้ หากผู้ชุมนุมคนใดอยากกลับก่อน ขอให้ใช้เส้นทางอื่น เนื่องจากมีรถเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนประมาณ 10-20 คัน ดักรออยู่
ขณะเดียวกันยังมีรายงานด้วยว่า ‘โตโต้’ และกลุ่มการ์ดอาสา We Volunteer หรือ WEVO ทั้งชายและหญิงจำนวนกว่า 10 คน ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยอรินทราชพร้อมอาวุธครบมือบุกจับกุมขณะรับประทานอาหารภายในห้างสรรพสินค้าเมเจอร์ รัชโยธิน
เวลาประมาณ 21.00 น. ท่ามกลางความสับสนและข่าวลือต่างๆ นานา บรรยากาศการชุมนุมค่อนข้างกดดัน ผู้ชุมนุมจึงทยอยเดินทางกลับบ้าน
เกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการยุติธรรม
ย้อนกลับไปไม่นานก่อนหน้านี้ กระบวนการของศาลสถิตยุติธรรมได้สร้างความสงสัยเคลือบแคลงแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุก 8 แกนนำ กปปส. ฐานล้มล้างระบอบการปกครอง แต่ภายหลังศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าไม่มีพฤติการณ์หลบหนี
กับอีกกรณีคือ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว 4 แกนนำกลุ่มราษฎร ได้แก่ อานนท์ นำภา, เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์, หมอลำแบงค์-ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม และ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ในคดีมาตรา 112 มาตรา 116 และอื่นๆ รวม 11 ข้อหา โดยศาลให้เหตุผลว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
ล่าสุดคือกรณีศาลออกหมายจับ แอมมี่ The Bottom Blues พร้อมพวกรวม 3 คน ฐานความผิดมาตรา 112 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และอื่นๆ จากเหตุวางเพลิงรูปกษัตริย์วชิราลงกรณ์ ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม ท่ามกลางข้อถกเถียงว่า มาตรา 112 มีปัญหาในตัวเอง ทั้งอัตราโทษที่สูงเกินจริง และผู้ใดก็สามารถแจ้งความได้
People Go เดินทะลุฟ้า
นอกจากการชุมนุมของกลุ่ม REDEM ที่จัดกิจกรรมทิ้งขยะหน้าศาลอาญาแล้ว ยังมีกิจกรรม ‘เดินทะลุฟ้า’ จัดโดยกลุ่ม People Go เริ่มต้นจากจังหวัดนครราชสีมาถึงกรุงเทพฯ รวมระยะทาง 247.5 กิโลเมตร โดยวันนี้เคลื่อนขบวนมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว ซึ่งนับเป็นวันที่ 17 ของการเดินขบวน เป้าหมายปลายทางอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ทั้งนี้ กลุ่ม People Go นัดหมายเดินทางจากแยกเกษตร เวลา 9.00 น. วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2564 ก่อนจะเคลื่อนสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในเวลาประมาณ 17.00 น. โดยจะมีการจัดเวทีไฮด์ปาร์คทะลุฟ้า ถกปัญหารัฐบาลประยุทธ์ / แก้รัฐธรรมนูญ / ยกเลิก 112 / ปล่อยเพื่อนเรา รวมถึงมีเวทีแสดงดนตรี จากนั้นจะยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น.
Author
