อีก 40 ปีข้างหน้า…ดูเหมือนว่าอาหารบางอย่างจะหาได้ยากมากขึ้น อันเนื่องมาจากราคาที่เพิ่มสูงขึ้นและปริมาณที่ลดลง ขณะเดียวกันการปลูกก็ทำได้ยากมากขึ้นเพราะอุณหภูมิและสภาพอากาศที่ผันผวนแปรปรวนอันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน
ใน ตอนที่ 1 เรานำเสนอ 5 อย่างแรกไปแล้ว และนี่คืออาหารและเครื่องดื่มอีก 4 อย่างที่กำลังอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง
6. น้ำ
หลายคนคงรู้สึกว่า น้ำไม่น่าจะเป็นของอร่อย และแน่นอนว่ามันไม่ใช่อาหาร แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องใช้น้ำเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำอาหารเกือบทุกอย่าง
จากรายงานปี 2010 โดย National Resources Defense Council (NRDC) กลุ่มสนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในนิวยอร์ก พบว่า พื้นที่ 1 ใน 3 ของสหรัฐอเมริกา จะเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำภายในกลางศตวรรษนี้ อันเป็นเหตุมาจากสภาวะโลกร้อน
ระหว่างปี 2030-2050 ปัญหาการเข้าถึงน้ำสะอาดจะกลายเป็นปัญหาสำคัญสำหรับประเทศที่มีทั้งพื้นที่เกษตรกรรมและเมืองใหญ่
7. เบียร์
คอเบียร์ที่กำลังมีความสุขอยู่ตอนนี้รู้ไว้เถิดว่า ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน อาจทำให้คุณหาเบียร์กินยากขึ้นในไม่ช้า เพราะส่วนผสมหลัก 2 อย่างของอุตสาหกรรมเบียร์กำลังประสบปัญหา นั่นคือ แหล่งน้ำ และดอกฮ็อบ (ได้จากดอกเพศเมีย นิยมเรียกว่า ผลฮ็อบ เพราะมีลักษณะคล้ายลูกสน หรือลูกโอ๊ค)
แม้นักวิทยาศาสตร์จะพยายามพัฒนาสายพันธุ์ฮ็อบที่สามารถต้านทานความร้อนและทนแล้งได้ดีขึ้น แต่อุตสาหกรรมเบียร์อาจเริ่มกุมขมับตั้งแต่วันนี้
สภาพอากาศที่ต้นฮ็อบต้องการนั้นค่อนข้างต่างกันสุดขั้ว นั่นคือ มันจะเจริญได้ดีหากมีฤดูหนาวที่หนาวจัด ขณะที่ฤดูร้อนก็ต้องร้อนสุดๆ ทำให้ผลผลิตฮ็อบในอังกฤษ ที่มีช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิที่ค่อนข้างอบอุ่น ให้ดอกไวกว่าปกติและให้ผลผลิตไม่มากเท่าที่ควร
ขณะเดียวกัน ข้าวมอลต์ หรือข้าวหมักจากข้าวบาร์ลีย์ ซึ่งเป็นต้นทางของเครื่องดื่มมอลต์สกัด เบียร์ วิสกี้ ไปจนถึงน้ำส้มสายชู ก็เริ่มให้ผลผลิตลดลงในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งผลของการที่เรามีฮ็อบหรือข้าวมอลต์น้อย ก็นำไปสู่ราคาเบียร์ที่แพงขึ้น หรือที่แย่กว่านั้นคือ ผลผลิตเบียร์จะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ
8. ปลาทะเล
สภาวะโลกร้อนอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปลามีขนาดตัวเล็กลง เนื่องจากก๊าซอ็อกซิเจนในทะเลมีปริมาณลดลง
ผลการศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Nature เมื่อปี 2012 โดย วิลเลียม ชาง นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย แคนาดา นำทีมเก็บข้อมูลขนาดและน้ำหนักปลาทะเล 600 ชนิด อาทิ ปลาค็อด ปลาในวงศ์ปลาลิ้นหมา และวงศ์ปลาตาเดียว ระหว่างปี 1970-2006 พบว่า ปลาที่เรากินกำลังลดขนาดลง เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ปริมาณอ็อกซิเจนในน้ำทะเลลดลง
รายงานคาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 ปลาทะเลยอดนิยมจะมีขนาดตัวที่เล็กลงร้อยละ 14-24 โดยปลาที่ตัวใหญ่กว่า จะพยายามว่ายไปยังที่ที่เย็นกว่า มีปริมาณอ็อกซิเจนมากกว่า ทั้งทางเหนือและทางใต้
9. กล้วยหอม
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทางการคอสตาริกาประกาศสภาวะฉุกเฉินของกล้วยหอม เนื่องจากถูกแมลงศัตรูพืชและเชื้อรารบกวนหนัก
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือเกษตรกรที่ผลิตเพื่อการส่งออก เพราะมาตรฐานที่สูงลิ่วของรูปลักษณ์ผักผลไม้มีผลต่อปากท้องเกษตรกรเหล่านี้โดยตรง แต่ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรระดับใด ต่างได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในรูปแมลงกันโดยถ้วนหน้า
สถิติการส่งออกกล้วยหอมของคอสตาริกาในปี 2012 อยู่ที่กว่า 1.2 ล้านตัน โดยมีมูลค่ามากกว่า 815 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะสภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนลดลง และอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นผลให้แมลงขยายพันธุ์และเพิ่มจำนวนได้ดี
ที่มา : huffingtonpost.com