เมืองที่กวีหนุ่มอาศัย
เขามองเห็นเธอ
และมองเห็นฝนที่ตกลงมาเป็นแมว
เจ้าก้อนขนกลมอ้วนที่ใครบางคนจะวิ่งเข้าไปกอด
แต่ในหัวใจกลับปรากฏกองไฟ
เปลวเพลิงลุกโชนโดยมิอาจควบคุมได้
ยามเมื่อหัวใจอันล้นเอ่อของเขา
พบเจอหัวใจของเธอ
กวีหนุ่มพร้อมวิ่งกระโจนเข้าไปเริงระบำในความร้อนแรง
จินตนาการและการได้คิดถึง
ทำให้กองไฟมีรสชาติหวานละมุนดั่งน้ำตาลทรายแดง
อาจเป็นเพราะพายุกลีบดอกไม้ที่ลอยตกลงมาละลาย
ท่ามกลางความร้อนแรงและกำซาบที่มีแต่บทกวีเท่านั้นจะเข้าใจ
เมื่อเลิกมองเข้าไปในใจ
กวีหนุ่มจึงออกไปเดินกลางที่โล่ง
ที่ซึ่งหยาดฝนส่งเสียงเหมียวๆ หง่าวๆ
แล้วกลายร่างเป็นแมว
เพื่อการเดินผ่านแววตาของเธอ
กำลังขดตัวอย่างเดียวดายเพื่อหนีเสียงฟ้าผ่า
แมวหนุ่มเฝ้ามองเธอจากมุมมืด
จากริมถนนว่างเปล่าในคืนนี้
จุ่มอุ้งเท้าลงไปในแอ่งน้ำครำ
ความเยือกเย็นทำให้บทกวีหวั่นไหว
แอ่งกลับกลายเป็นห้วงมหาสมุทรสีดำ
แมวกวีไม่อาจตะเกียกตะกายขึ้นมา
เหมือนการตกหลุมรัก
เจ้าแมวหนุ่มซึ่งอดีตเคยเป็นกวี
ตื่นจากฝันที่ข้างถนน
เท้าเหยียบบนถนนอันไร้จุดจบ
เริ่มต้นเขียนจดหมายรักซึ่งจะไม่มีผู้รับที่ปลายทาง
จนกว่าแดดของรุ่งสาง
จะมาไล่ให้เหล่าแมวที่ตกลงมาเมื่อคืนกลับไปนอน
และถ้อยคำจะปลาสนาการไปจากโลกของเธอ
จดหมายนั้นเขียนว่า
“ผมคือปลาฉลามที่ไม่อาจเป็นนักล่า
หากไร้รอยกัดของแมวน้ำตัวที่เพิ่งกิน
ผมไม่อาจเป็นบทกวี
หากไม่เคยถูกบดขยี้ด้วยความรักที่ผมเพิ่งรัก”
รอนฝัน ตะวันเศร้า