รัฐบาลสก็อตแลนด์กำลังพิจารณาร่างกฎหมายเรื่อง ‘สิทธิในการเข้าถึงอาหาร’ หรือ ‘Right to Food’
ซึ่งความหมายของการเข้าถึงอาหาร ไม่ได้มีความหมายอย่างแคบเพียง ‘การได้มีกิน’ หากกินใจความลึกลงไปในความหมายว่า ‘ต้องกินดี ถูกโภชนาการ และทุกผู้คนมีความสามารถในการเข้าถึงสิทธิ์นั้นได้ไม่ว่าคุณจะยากดีมีจนเพียงไหน’
และนั่นเป็นเพียงหนึ่งในสี่ข้อที่องค์กรเพื่อความมั่นคงทางอาหาร (Working Group on Food Poverty) ได้เคยประกาศข้อเรียกร้องไว้ โดยข้อเสนออื่นๆ ขององค์กรมีดังนี้
- สิทธิในการเข้าถึงอาหาร
- ผลักดันให้รัฐก่อตั้งธนาคารอาหาร (food banks)
- ระบบหรือเครื่องมือที่จะประเมินความปลอดภัยของอาหาร รวมทั้งกำหนดกลุ่มเป้าหมายของกลุ่มคนที่ควรหลีกเลี่ยงตามแต่ฉลากข้างผลิตภัณฑ์
- ให้รัฐบาลสร้างมาตรฐานหรือเพิ่มเงินอุดหนุนเข้าไปในโครงการอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน
โดยในความหมายของข้อหนึ่งและสอง กลุ่มองค์กรเพื่อความมั่นคงทางอาหารต้องการชี้กลับไปยังประเด็นทางเศรษฐกิจ ที่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมในการมีโอกาสได้กินอาหารอย่างถูกโภชนาการ
ดร.มาร์ติน จอห์นสโตน หนึ่งในสมาชิกกลุ่มกล่าวว่า “เหตุผลตั้งต้นที่เราต้องตั้งต้นแก้ไข คือความยากจนของผู้คน ระบบต้องถูกรื้อเพื่อสร้างความยุติธรรมให้กับผู้คน โดยเฉพาะคนจนด้วย ซึ่งการจะแก้ไขปัญหานี้ เราต้องการความเห็นเรื่องวิธีแก้ปัญหาจากพวกเขา (คนจน) เพื่อร่วมกันวางแผนกำจัดปัญหาความยากจนทางโภชนาการและการเข้าไม่ถึงอาหาร”
ขณะที่ แองเจลา คอนสแตนส์ เลขาธิการด้านสังคมของรัฐบาลสก็อตแลนด์ (Communities Secretary) กล่าวว่ารัฐบาลเห็นชอบให้มีการพิจารณร่างกฎหมายดังกล่าว เพราะเห็นว่าไม่มีใครควรถูกทิ้งให้หิวโหย และไม่มีความสามารถในการซื้อหาอาหารกลับไปยังครอบครัว
อย่างไรก็ตาม แองเจลาชี้ว่า สก็อตแลนด์ไม่ใช่ประเทศโดดเดี่ยว หากนโยบายด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยเฉพาะด้านสวัสดิการและเศรษฐกิจของสังคมยังต้องขึ้นกับสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายของสหราชอาณาจักรในปัจจุบันได้ผลักและเพิ่มโอกาสให้ผู้คนเข้าใกล้กับเส้นแดงของความยากจนและความไม่มั่นคงทางความเป็นอยู่มากขึ้นเรื่อยๆ
อ้างอิงข้อมูลจาก: independent.co.uk
heraldscotland.com