ฉากดอกซากุระบานสะพรั่งที่คุ้นตาจากภาพยนตร์สัญชาติญี่ปุ่น สายลมพัดพากลีบซากุระล่องลอยและร่วงโรย สะท้อนช่วงเวลาแสนสั้นที่งดงาม เช่นเดียวกับความไม่แน่นอนของชีวิต แต่เพราะความไม่แน่นอนเช่นนั้น ชีวิตจึงงดงาม
The Last 10 Years บอกเล่าเรื่องราวของ มัตสึริ ทาคาบายาชิ หญิงสาววัย 20 ปี ที่ใช้ชีวิตอย่างสดใส กระทั่งเกิดภาวะความดันหลอดเลือดแดงในปอดสูง ซึ่งเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ โดยเฉลี่ยผู้ป่วยจะมีอายุอีกเพียง 10 ปี หลังจากตรวจพบโรคดังกล่าว
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2022/06/Last-10-Years-JP-Still06.jpg)
แม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่ได้โปรดอย่าลืมใช้ชีวิตให้มีความสุข
เมื่อแคปซูลกาลเวลาที่ฝากข้อความถึงตัวเองในอีก 10 ปีข้างหน้า ถูกเปิดออกในงานเลี้ยงรุ่นสมัยมัธยมต้น นอกจากการถามไถ่ความเป็นไปในชีวิต ทั้งเรื่องงาน ความรัก ครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องลูก ซึ่งสะท้อนให้เห็นขนบของสังคม คือ การเรียนจบมหาวิทยาลัย มีหน้าที่การงานมั่นคง และแต่งงานสร้างครอบครัว ข้อความจากมัตสึริในวัยเด็กเมื่อ 10 ปีก่อน ยิ่งตอกย้ำและชวนขบคิดถึงความหมายของการมีชีวิต
ถึงตัวฉันในอีก 10 ปี ชีวิตตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ได้ทำงาน ทำตามความฝัน มีความรัก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไหม
ข้อความข้างต้นไม่ใช่เพียงใจความสำคัญของมัตสึริในวัยเด็กเท่านั้น ทว่ายังเป็นใจความเดียวกับข้อความของ คาซึโตะ มานาเบะ ชายหนุ่มที่ตัดสินใจไม่รับช่วงต่อกิจการครอบครัว แล้วย้ายมาทำงานที่โตเกียว แต่ถูกเลิกจ้างก่อนวันงานเลี้ยงรุ่นเพียง 1 เดือน และแทบจะถูกตัดขาดจากคนในครอบครัว เมื่อเจอข้อความจากตัวเองในอดีต ยิ่งทำให้คาซึโตะรู้สึกไร้เป้าหมายในชีวิต
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2022/06/manabe.png)
หากชีวิตไม่ได้เป็นไปตามขนบของสังคมที่ต้องเรียนจบมหาวิทยาลัย มีหน้าที่การงานมั่นคง แต่งงานสร้างครอบครัวและมีลูก แล้วชีวิตจะยังมีความหมายหรือไม่
“ผมแค่ไม่อยากอยู่อีกแล้ว เลยปล่อยตัวเองร่วงลงไป”
“ฉันไม่รู้จักคุณหรอก แต่ฉันคิดว่าคุณเห็นแก่ตัว”
บทสนทนาแสนสั้นระหว่างคาซึโตะและมัตสึริ ทว่ากลับทำให้ต่างฝ่ายต่างทบทวนชีวิตของตัวเองอีกครั้ง และเริ่มต้นชีวิตใหม่ งานใหม่ โดยมัตสึริได้เป็นนักเขียนอย่างที่ตัวเองเคยฝันไว้ ด้วยความช่วยเหลือจาก ซานาเอะ ฟุจิซากิ เพื่อนผู้เห็นพรสวรรค์ในงานเขียนของเธอ ขณะที่คาซึโตะได้ทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่ง แม้งานของทั้งสองอาจจะไม่ใช่งานที่หลายคนคาดหวัง แต่ก็ทำให้ชีวิตพวกเขามีความหมาย รวมถึงการได้ใช้เวลาร่วมกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัวที่ร่วมผ่านการเปลี่ยนแปลงของแต่ละฤดูกาลไปด้วยกัน
การใช้ชีวิตอย่างมีความสุข บางทีจึงไม่จำเป็นต้องเดินตามขนบของสังคมเสมอไป อาจเริ่มจากการมีความสุขกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต การได้ใช้เวลาร่วมกับคนรอบข้างอย่างมีคุณภาพ และการกล้าลองทำสิ่งที่อยากทำ
เวลา 10 ปี นับเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานหรือแสนสั้นกันนะ?
ตลอดระยะเวลาการดำเนินเรื่อง 2 ชั่วโมง ภาพยนตร์ไม่ได้เน้นเรื่องราวความสัมพันธ์ของมัตสึริกับคาซึโตะมากนัก แต่เผยให้เห็นสายสัมพันธ์ของตัวละครอย่างครบรส ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่ช่วยทั้งเรื่องงานและความสัมพันธ์ พี่สาวของมัตสึริพยายามหาวิธีการรักษาใหม่ๆ ที่น่าจะช่วยให้มัตสึริหายจากโรค รวมถึงครอบครัวที่พยายามเข้าใจการตัดสินใจต่างๆ ของมัตสึริ
นอกจากนี้ ยังได้ RADWIMPS มาร่วมสร้างสรรค์เพลงประกอบครั้งนี้ ซึ่งเรียงร้อยชีวิต 10 ปีสุดท้ายของมัตสึริได้อย่างครบถ้วน ตั้งแต่เพลงเปิด Opening of “The Last Ten Years” เมื่อมัตสึริรู้ว่าชีวิตเหลือเวลาอีกเพียง 10 ปี กระทั่งเธอตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ พร้อมบันทึกช่วงเวลาที่เหลืออยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านแต่ละฤดูกาลอย่างไม่โดดเดี่ยว ประกอบกับเพลง Overlapped Seasons
หลังจากมัตสึริทำงานเป็นนักเขียนได้อย่างลงตัว เธอจึงเริ่มเขียนเรื่องราวชีวิตของตัวเองในช่วง 10 ปีสุดท้าย รวมถึงเรื่องราวในอนาคตที่เธออาจไม่ได้อยู่กับคนรอบข้าง โดย RADWIMPS เลือกเพลง Spending Time, Remaining Time เพื่อสะท้อนความคิดของมัตสึริที่กลับมาทบทวนความหมายของชีวิตที่ผ่านมา เวลาที่หมดไปเหล่านั้นนับว่าได้ทำสิ่งที่ต้องการแล้วหรือยัง แต่ละการตัดสินใจ แต่ละความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นถูกต้องแล้วหรือเปล่า
สุดท้ายที่ไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลย คือเพลง Ms. Phenomenal ซึ่งตราตรึงผู้ชมจำนวนไม่น้อยให้นั่งอยู่ภายในโรงภาพยนตร์จนเครดิตภาพยนตร์จบ เพลงไม่ได้ทำหน้าที่เพียงบอกเล่าแง่มุมความรักของคาซึโตะที่มีต่อมัตสึริเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ชมได้กลับมาไตร่ตรองถึงความหมายชีวิตของตัวเองเช่นกัน
หากกล่าวในแง่ผู้ชมซึ่งไม่มีเงื่อนไขเรื่องเวลาของชีวิต แน่นอนว่าระยะเวลา 10 ปี ดูเหมือนจะยาวนาน แต่เมื่อเวลา 10 ปีของมัตสึริที่ได้รับการฉายภาพใน 2 ชั่วโมงนั้น เป็นช่วงเวลาที่ทั้งยาวนานสำหรับผู้ชมที่ได้ดื่มด่ำกับภาพยนตร์ และแสนสั้นสำหรับช่วงเวลาที่มีความสุขของมัตสึริ
การได้เจอกับคนที่เรารัก ก็เหมือนกับปาฏิหาริย์นั่นแหละ
ประโยคเอื้อนเอ่ยสั้นๆ จาก เก็น คาจิวาระ (รับบทโดย ลิลี่ แฟรงกี้) เจ้าของร้านอาหารที่คาซึโตะทำงานอยู่ ราวกับหมัดฮุคที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างคาซึโตะกับมัตสึริขยับเข้าใกล้กัน เมื่อการพบเจอเธอทำให้เขาสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อีกครั้ง ส่วนเธอไม่กล้าที่จะเลื่อนสถานะความสัมพันธ์ แล้วจุดเปลี่ยนแบบไหนถึงทำให้ทั้งสองขยับความสัมพันธ์ไปอีกขั้น
‘สัญญาณ’ แบบไหนกันที่บอกว่าเราควรใช้ชีวิตกับคนนี้
คนที่รู้ได้ทันทีว่า แสงแดดแบบนี้ไม่ได้มีทุกวัน
และหนาวแบบนั้นจะไม่ผ่านเข้ามาอีกแล้ว
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2022/06/yomei-promo-march9-1200x799.jpg)
หากจะอธิบายให้เข้าใจง่ายกว่านั้น นึกถึงประโยคหนึ่งจากหนังสือ ผมบอกรักเธอด้วยฟอนต์ Cordia ของ ใบพัด นบน้อม เพราะในชีวิตหนึ่งของเราไม่อาจมีใครก็ได้เป็นคนที่เรารัก แต่การเจอคนที่เรารักและเขาก็รักเรา การพบเจอกันราวกับปาฏิหาริย์แบบนี้จะปล่อยหลุดมือกันไปจริงเหรอ เช่นเดียวกับบทสนทนาระหว่างคาซึโตะและเก็นที่ว่า
“ที่อื่นไม่มีหรอกครับ”
“ใช่ ที่อื่นไม่มีหรอก ชีวิตมีครั้งเดียว”
ส่วนมัตสึริที่พยายามปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อคาซึโตะ เพราะเธอเคยเห็นแล้วว่าคนที่ต้องสูญเสียคนรักไปนั้นโศกเศร้ามากแค่ไหน ทว่าเมื่อคนรอบข้างทั้งพี่สาวและเพื่อนทยอยหมั้นหมายแต่งงาน อีกทั้งเพื่อนที่เป็นห่วงอยากให้มีใครสักคนแบ่งเบาความรู้สึกของเธอ จุดนี้อาจเป็นสิ่งที่ทำให้เธอกลับมาทบทวนเรื่องความสัมพันธ์อีกครั้ง
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2022/06/yomei10nen-february-6-1200x787.jpeg)
หากชีวิตที่เหลืออยู่ต้องใช้ไปกับคนที่เธอไม่ได้รัก แล้วทำไมจึงไม่เลือกอยู่กับคนที่รักล่ะ แม้จะรู้ว่าสุดท้ายแล้วต่างต้องเจ็บปวด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารความรู้สึกของตัวเองออกไปอย่างตรงไปตรงมา หลายฉากที่เราอาจรู้สึกว่าถ้าตัวละครตัดสินใจอีกแบบจะดีกว่าไหม หรือหากสื่อสารความรู้สึกกันมากกว่านี้จะดีกว่าไหม
‘ฉันไม่ได้คิดผิดใช่ไหม ฉันตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม’
‘ฉันคิดถึงคุณ’
ส่วนหนึ่งของข้อความที่มัตสึริบันทึกเรื่องราว 10 ปีสุดท้ายของตัวเองไว้ ซึ่งคาซึโตะได้อ่านต้นฉบับก่อนที่จะวางขายและรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของมัตสึริ ทำให้เขาตัดสินใจไปหาเธออีกครั้ง ทว่าก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หมอต้องปั๊มหัวใจมัตสึริ แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสครั้งที่สอง
หากตอนนี้คุณยังมีคนสำคัญอยู่เคียงข้าง ไม่ว่าจะในฐานะเพื่อน พี่น้อง ครอบครัว หรือคนรัก ได้โปรดอย่าลืมสื่อสารความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา และแม้จะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็อย่าลืมใช้ชีวิตให้มีความสุข
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2022/06/msphenomenal-cap1-1200x751.png)