1
เคยคิดเล่นๆ ว่า ในมหานครอย่างกรุงเทพฯที่มีแมวอยู่ทุกซอกทุกมุมนี้ เราจะสามารถแบ่งกันดูแลประชากรแมว (ในที่นี้เราจะละกรณีของหมาไว้ก่อน) กันไปตามแต่ละเขต หมู่บ้าน ชุมชนได้หรือไม่ นอกเหนือไปจากการต้องจำกัดการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างจริงจังด้วยการคุมกำเนิดแล้ว ในส่วนแมวที่ยังเหลืออยู่นั้น เราและแมว จะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข เสมือนหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกันได้หรือเปล่า
จนกระทั่งได้ดูหนังสารคดี Kedi-เมืองแมว ที่จัดโดย Documentary Club เมืองที่เราเคยคิดฝันไว้ก็กลับมีจริง
มวลแมวที่มหานครอิสตันบูลนั้น ตามประวัติศาสตร์คือพวกมันอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ในดินแดนแห่งนี้มานับพันปี ไม่มีใครเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างจริงจัง พวกมันมีอิสระเสรีที่จะไปไหนก็ได้ตามแต่ใจ ดูเหมือนที่อิสตันบูลจะไม่มีใครรังเกียจแมว อย่างน้อยก็คุ้นเคยกันดีและอยู่ร่วมกันได้ จนเหมือนว่า เป็นมนุษย์เองที่มาขอแบ่งปันที่อยู่อาศัยจากหมู่มวลแมวนั้น
2
ตั้งแต่เด็กจนโตมาในวัยทำงานได้ระยะหนึ่ง ฉันไม่เคยนึกรักแมวมาก่อน แถมยังรำคาญในความชอบถูไถตัวไปมากับทุกสิ่งของมันด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับรังเกียจ แค่คิดว่าถ้าจะมีสัตว์เลี้ยงสักตัว ฉันจะไม่เลือกแมว
แล้วอยู่มาวันหนึ่ง โชคชะตาก็พาให้พบกับ ‘ป้าผิง’ แมวตัวแรกในชีวิตเมื่อ 13 ปีก่อน แต่นั้นมา ชีวิตของฉันก็ต้องข้องเกี่ยวกับแมวตลอดไป-ใช่ ตลอดไป เพราะหลังจากมีป้าผิงเข้ามาในชีวิตแล้ว ฉันก็ไม่อาจละสายตา หรือทำเป็นมองไม่เห็นแมวที่มีอยู่บนโลกนี้ได้อีกเลย
3
แมวในอิสตันบูล เป็นแมวที่มีชีวิตน่าอิจฉานะ (อืม ถ้ามองจากแมวด้วยกัน) ฉันไม่รู้ว่าชุมชนแมวอื่นๆ จะมีชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างไรบ้าง อ้อ แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพชีวิตของแมวจรแมววัดในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯแล้วล่ะก็ ต้องนับว่าบรรดาแมว ณ อิสตันบูลมีชีวิตที่ดีกว่ามากๆ
เจ้าแมวที่อิสตันบูลเป็นแมวที่จะได้นั่งมองท้องฟ้ากว้าง เห็นน้ำทะเลไกล วิ่งไล่จับนกหนู เข้านอกออกในร้านค้าบ้านเรือนผู้คน ปีนหลังคา ไต่ต้นไม้ กระทั่งได้กินปลาสดใหม่จากทะเลทุกๆ วัน มันอาจไม่ได้รับของกินที่ยื่นจากมือมนุษย์ทุกคนหรอก แต่หากเมื่อมันหิว แล้วนึกอยากไปขโมยปลาสดบนแผงตอนที่แม่ค้าเผลอ ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ถ้าพ่อค้าแม่ค้าจับได้เข้าก็เป็นเรื่องที่ยอมความกันได้ แม่ค้าบางคนอาจทำท่าทำทางวิ่งไล่พวกมันบ้าง แต่ดูจะเป็นไปเพราะความเคยชินมากกว่า เหมือนแม่ที่ดุลูกตอนแอบหยิบหมูทอดในจานไปกินเล่น
4
ในฐานะคนที่มีใจพันผูกกับแมวเสียแล้ว แมวในละแวกชุมชนที่ฉันอยู่อาศัย จึงไม่อาจหลุดรอดพ้นสายตาไปได้ มีแมวป่วย แมวท้อง แมวตายให้เห็นอยู่บ่อยๆ จากวันที่ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ยามเมื่อพบศพแมว มาสู่วันที่จำต้องบอกกับตัวเองว่า เราไม่อาจมีน้ำตาให้กับแมวทุกตัวบนโลก ฉันจึงสร้างสุสานแมวขึ้นในใจ และคอยวางดอกไม้บนหลุมนั้นอย่างเงียบๆ ยามเมื่อต้องพบเห็นแมวตายขึ้นมา
ทุกวันนี้ ยังคงมีแมวผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาให้ได้ทักทายเสมอ บางวันที่เจอกันฉันก็แค่พยักหน้าให้ บางวันกับเจ้าแมวตัวเดิมที่มีระยะห่างต่อกันเมื่อวานนี้ วันนี้ก็กลับเอาสีข้างเข้ามาถูให้ขากางเกงได้มีขนติดไปทั้งวันเสียอย่างนั้น
ฉันไม่รู้ว่า สำหรับพวกแมวแล้วมนุษย์คืออะไรในสายตา แต่สำหรับฉัน แมวเป็นเพื่อนที่มีลมหายใจ เป็นธรรมชาติและวงจรที่ไม่อาจตัดทิ้งทำลาย เป็นเหมือนต้นไม้ อากาศ และแสงแดด
5
ในอิสตันบูลย่อมต้องมีคนที่ไม่ได้รักชอบแมวอยู่ด้วย ฉันไม่รู้ว่านอกเหนือไปจากที่หนังนำเสนอแง่มุมของคนรักแมว แมวอยู่ร่วมกับคนได้แล้วนั้น จะมีซอกหลืบดำมืดของคนรังเกียจแมวอยู่มากมายแค่ไหน แต่ฉันเชื่อว่าการเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ร่วมกับผู้คนมานับพันปีอย่างเมืองแมวในอิสตันบูลนั้น คงทำให้ทุกคนมองเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เติบโตมาร่วมกัน จะชอบไม่ชอบ แมวก็เป็นส่วนหนึ่งในวิถีของพวกเขาไปแล้ว
.
.
.
เช้าวันก่อนฉันเจอเจ้าแมวสีดำขาวตัวที่ฉันเรียกมันว่า พี่โฉด กำลังวิ่งไล่ล่ากิ้งก่าตัวย่อม เจ้ากิ้งก่าไม่อาจหนีพ้นกรงเล็บและคมเขี้ยวของพี่โฉดไปได้ กิ้งก่าชะตาขาดกลายเป็นเหยื่ออันโอชะของพี่โฉดผู้หิวโหยอย่างง่ายดาย
ตอนนี้ ฉันคิดถึงเหล่าแมวในอิสตันบูลที่ไปเที่ยวฉกชิงวิ่งปลาจากแม่ค้า กับภาพพี่โฉดไล่จับกิ้งก่ามาประทังชีวิต ความเป็นนักล่าของพวกมันคงไม่ได้หนีกันนัก แต่การมีชีวิตอยู่อย่างแมวที่ได้รับการยอมรับ ได้ถูกมองเห็น กระทั่งเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน กับแมวในบางเมืองที่ชีวิตดูเหมือนจะแปลกแยกกับมนุษย์อย่างชัดเจน…
ในสายตามนุษย์ผู้มองเห็นแมวอย่างฉันนับเป็นเรื่องเศร้า
ส่วนภาพในสายตาแมวด้วยกันนั้น…
ฉันอยากรู้ว่าพวกมันคิดยังไง.