ช่วงวันที่ 12-19 พฤศจิกายน 2566 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 30 (2023 APEC Economic Leaders’ Meeting) ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ตามคำเชิญของโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ
การเข้าร่วมครั้งนี้เป็นการสานต่อนโยบายที่ไทยเป็นเจ้าภาพเอเปคเมื่อปี 2022 ที่สะท้อนบทบาทของประเทศไทยในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการเติบโตที่แข็งแกร่ง ยืดหยุ่น ยั่งยืน และครอบคลุมของเขตเศรษฐกิจสมาชิกเอเปคและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ประเด็นสำคัญที่ไทยจะผลักดันในการประชุมเอเปค 2023 มีดังนี้
- โครงการ Landbridge เชื่อมต่อระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน เป็นโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้
- เขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก (FTAAP) กลไกสำคัญในการขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ หนุนการเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานในกลุ่มสมาชิก และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
- เศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมการค้าดิจิทัลหรือ e-ฉommerce และนวัตกรรม เช่น AI โดยที่ยังคงตระหนักถึงผลกระทบเชิงลบ
- Bangkok Goals on BCG Economy ผลักดันโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (bio economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (circular economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (green economy)
- ลดความเหลื่อมล้ำและขจัดความยากจน สร้างความเท่าเทียมให้แก่กลุ่มเปราะบาง เน้นการพัฒนาการศึกษาและยกระดับระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่ไทยจะได้แสดงบทบาททัดเทียมกับเขตเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค โดยเฉพาะมหาอำนาจอย่างสหรัฐ จีน และรัสเซีย นายกรัฐมนตรีจึงถือโอกาสนี้ที่จะผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อเชิญชวนนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยยกระดับรายได้ของประชาชนและทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น
นอกจากนี้แล้ว นายกรัฐมนตรียังมีภารกิจพบปะหารือกับผู้บริหารบริษัทชั้นนำของโลก และเข้าเยี่ยมชมบริษัท อาทิ บริษัท Tesla, บริษัท HP, บริษัท ADI, บริษัท Walmart, บริษัท Western Digital, บริษัท AWS, บริษัท Google, บริษัท Microsoft, บริษัท Open AI, บริษัท Intel, บริษัท Citi, บริษัท TikTok, บริษัท Genster Capital LLC, บริษัท Meta และบริษัท Nvidia เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นประเด็นที่น่าจับตามองว่าการพูดคุยเจรจาจะเกิดผลลัพธ์ตามมาอย่างไร และการเข้าร่วมประชุมเอเปคครั้งนี้ไทยจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง รายละเอียดต่างๆ อาจต้องรอฟังจากปากนายกรัฐมนตรีหลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย
