ประตูลูกา

Luka2 

เรื่อง+ภาพ: สุวิชานนท์  รัตนภิมล

 

 

1

ช่างเหล็กวัยรุ่นน้องชื่อลูกกา ชื่อจริงเขาคือ บุญเกิด แก้วดี แต่ผมเรียกชื่อจนติดปากว่า ‘ลู-กา’ เพราะใครสักคนหนึ่งแนะนำให้รู้จัก แล้วไปจำชื่อด้วยตัดตัว ก ไก่ ออกไปตัวหนึ่งอย่างไม่ตั้งใจ พอพบหน้าก็ไม่ได้ติดใจแก้ชื่อให้ถูกเสียที ยังพานไปคิดถึงศิลปินนักร้องที่ชื่อ ซูซานน์  เวกา (Suzanne Vega) ที่มีเพลงชื่อ Luka ขึ้นด้วยประโยคแรกว่า My name is Luka…

Luka นั่นเอง เป็นที่มาของประตู ผมหลงชอบเพลงนั้น และเคยคิดอยากจะเอาเป็นชื่อเรียกอะไรสักอย่าง อันเกี่ยวกับการเดินทาง เป็นรถ จักรยาน เครื่องพิมพ์ดีด หรือกีตาร์สักตัว อะไรทำนองนี้ เพราะผมฟังเพลงนี้ครั้งแรกตอนเดินทางเร่ร่อน แบบค่ำไหนนอนนั่นอยู่ในเมืองหลวงเมื่อ 10 กว่าปีก่อน

จำได้ว่าบนตึกเก่าๆ ชั้น 7 ละแวกดินแดง กับเพื่อนรุ่นน้องนักดนตรีที่นอนสลบไม่รู้วันใหม่  หลังค่ำคืนดึกดื่นในผับกับงานเล่นดนตรีประจำของเขา ผมรื้อเทปคาสเส็ตต์มาฟัง และได้ยินประโยคแรก “My name is Luka.”

พอพบลูกา ก็ทำให้นึกถึงเพลง Luka

ผมเรียกลูกาเป็นช่างก็ไม่ถูกนัก แต่เขาบ่ายเบี่ยงคำว่า ‘ศิลปิน’ ทุกครั้งที่ใครอยากลงชื่อความหมายในงานให้เขา ความอ่อนน้อมถ่อมตัวของเขานูนเด้งล้ำออกนอกหน้ามาก่อน แต่พอพินิจดูงาน กี่สายตามองก็ต้องให้ความหมายเขาเต็มๆ

ลูกาเป็นศิลปิน

ฝีมือทางช่างของเขานั้นแปลกตาหายาก  เป็นมากกว่างานช่างดาษดื่นทั่วไป

เพียงแต่คราวนี้ ผมเลือกเชิญเขามาแสดงงานผ่านประตูรั้วบ้าน

ตอนแรกผมออกอาการประหม่า กล้าดีอย่างไรไปชวนเขามาทำประตูรั้ว พลังในตัวเขามาคิดเรื่องแค่ประตูได้อย่างไร ยิ่งโยนทุกอย่างให้เขาคิดออกแบบด้วยเงื่อนไขเอาแต่ใจของผมด้วย  เช่นนี้แล้วเขาจะรู้สึกเช่นไร

เหตุผลง่ายๆ ผมชอบทางเดินชีวิตของเขา เขาเรียนจบคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วออกมาใช้ชีวิตทำงานศิลปะในแบบความเชื่อของเขา

หลายครั้งที่ผมเห็นเขาขะมักเขม้นอยู่กับงานไม้หรืองานเหล็กที่ใช้ตกแต่งบ้าน ตกแต่งห้อง  บานหน้าต่าง หลังคา ระเบียง โคมไฟ ฯลฯ บางครั้งก็ผ่านไปเห็นงานคอนเซ็ปต์จัดแสดงอยู่ในร้านหนังสือ แกลเลอรี่ งานของเขาแตกต่างจากใครอื่น

งานของเขาดูราวกับรื้อขุดคุ้ยมาจากกองขยะ เหมือนจับเอาเศษขยะมาต่อเติมเสริมแต่งให้เกิดรูปลักษณ์ใหม่จนเอี่ยมอ่อง

งานของลูกา จินตนาการโลกเหนือจริง ใบไม้สมบูรณ์ที่มีรูโหว่ทั่วใบ หรือใบหน้าคนเหมือนตัวการ์ตูนขนาดถาดใส่ผัก แต่แขนขาลีบเล็กเหมือนถั่วฝักยาว เหล่านี้เองเป็นที่มาของความวางใจในฝีมือของเขา

หรือพูดง่ายๆ ว่างานปั้นเหล็กสนิมให้เป็นดาวโบราณเก่าแก่ ส่องแสงจับตาจับใจ และชวนให้นึกถึงสาระสิ่งของอยู่นอกสายตา ให้มีรังสีสะท้อนจับวับขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

เป็นชีวิตใหม่ของสนิมเหล็ก

 

Luka1 

 

2

ประตูก็คือประตู ประตูไม่ใช่หน้าต่าง มันเป็นด่านแรกที่เราจะเห็นใครผ่านมาปรากฏตัว  ในบริเวณบ้าน ประตูคือโฉมหน้าสิ่งที่อยู่ในใจเจ้าบ้าน จะเป็นประตูอัลลอย ประตูไม้ ประตูเหล็ก  ล้วนแล้วผูกโยงออกมาจากหัวจิตหัวใจคนอยู่ภายในนั้น

ผมนึกถึงบานประตูรั้วบ้านหนาๆ ทึบๆ ของคนรวยในหมู่บ้านวัยเด็กของผม ซึ่งไม่อาจมองเห็นสิ่งเคลื่อนไหวในบ้านเลย เราเหล่าเด็กๆ เดินเฉี่ยวเข้าไปใกล้ ก็ราวจะเข้าไปก่อการเรื่องร้ายๆ สักอย่าง เราเดินออกมาห่างๆ ทุกครั้งที่เดินผ่านหน้าบ้าน

ประตูต้องดูโล่ง เป็นมิตร เห็นแต่ไกลๆ ก็ให้ความรู้สึกต้อนรับ บางเบา โปร่ง (บาดตาบ้าง) และไม่หนาหนัก และต้องมีคำว่า Jackson Browne อยู่ด้วย

“เขาเป็นยาบำรุงกำลังชั้นดี ถ้าไม่ได้ Late for the Sky กับ Sky Blue and Black พี่คงเหี่ยวเฉาตายไปแล้ว” ผมบอกเหตุผลชื่อศิลปินเชื้อสายเยอรมันคนนี้ให้ลูกาฟัง

“งานสนิมเลยพี่!!”…

เขาเงียบหายไปเกือบเดือน ก่อนจะนัดหมายผมไปยังโรงเรือน  Work Shop ของเขา ซึ่งซ่อนเงียบอยู่ในหมู่บ้านที่เห็นดอยสุเทพเป็นกำแพงเส้นขอบฟ้า ระบายเป็นฉากหลังไกลๆ มองไปทางไหนเห็นแต่กองเหล็กกองไม้ เศษชิ้นส่วนวัสดุที่พร้อมจะถูกหยิบไปประกอบส่วน

เขาชวนไปดูชิ้นงานประตูบานเหล็กทันที แต่ผมก็รีรออยู่กับงานปะผุจากเศษวัสดุเหลือใช้  เป็นโคมไฟ เก้าอี้ แจกัน โต๊ะ ชิ้นเหล็กติดผนังห้อง ชิ้นเหล็กตั้งวางพื้น ดูน่าจับต้องไปหมด ล้วนแต่เป็นงานที่ผ่านการคิดค้นออกแบบมาทั้งสิ้น

“ผมชอบงานสนิม ชิ้นเหล็กที่ตั้งไว้นานๆ ผ่านเวลาจนขึ้นสนิม สวยดีครับ” เขาเอาวิธีคิดจากการปรากฏตัวของสนิมขี้ไคลเหล็กมาใช้ในงานจริงๆ บี้บดทุบตีขี้ไคลให้มีค่าขึ้นมาใหม่ ด้วยวัสดุเหลือใช้ที่ดูราวจะเก็บมาจากกองขยะ

พื้นผิวแตกกัดกร่อน ล่อนหลุด โหนกนูน ดำด่าง ตะปุ่มตะป่ำ ลุ่มๆ เนินๆ ขรุขระ ดูข้ามผ่านเวลา แต่ดูอย่างไรก็เอี่ยมอ่องจริงๆ

ผมยืนมองดอกไม้ ใบไม้ นก ใบไม้ทึบครึ่งหนึ่งโปร่งครึ่งหนึ่ง กิ่งไม้โปร่งรับอากาศบ้าง เป็นประตูสนิมที่มากด้วยความรู้สึกจริงๆ ผมถามเขาว่า ทำไมถึงค้นหาการอธิบายโลกด้วยสนิม เขาบอกสั้นๆ ว่าชอบ แต่ลึกๆ ภายในนั้น เขากำลังค้นพบและทำความเข้าใจกับการทำสิ่งของถูกทิ้งขว้าง ไม่มีมูลค่าราคาและความหมาย

ชุบชูเหล็กสนิมให้มีชีวิตชีวาทางจิตใจ ให้มีความหมายขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

ผมรับมอบประตูสนิมจากเขา และมีความสุขกับงานสนิมของเขา แต่ถึงอย่างไร ประตูก็คือประตู หน้าที่แรกคือปิดเปิดชีวิตในบ้านให้กลับเข้ามาและเดินออกไป

 

Luka3

 

3

ผมเติบโตขึ้นมาในบ้านที่ไม่มีประตูรั้วบ้าน คุ้นเคยกับคนเข้าออกนอกในบ้าน ถือเป็นเรื่องปกติของคนในหมู่บ้าน เหมือนบ้านชาวบ้านคนอื่นๆ

อย่าว่าแต่คนเลยที่เข้าออกนอกในบ้าน ไก่ หมา หมู หรือวัวก็ไม่เว้น ผมจำได้ว่าเคยเห็นวัวโผล่หน้ามาดูตรงประตูบ้าน เหมือนจะถามว่าคนทำอะไรกันอยู่

“วัวเข้าบ้าน!!”  ผมยังสนุกเมื่อนึกถึงความรู้สึกตอนไล่วัวอยู่เลย

พวกมันเข้ามาถึงประตูบ้านได้ เพราะบ้านไม่มีรั้วและประตูรั้ว พวกมันเดินเข้ามาเฉยเลย ไม่มีรั้วให้มุด เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูบ้านแล้ว

บางที มีคนเข้ามาในบ้าน ยังเดินอ้อยส้อยชมนกชมไม้ ชมลูกสาวลูกชาย ชมของกินของใช้ ว่าของเหล่านี้ท่านได้แต่ใดมา มะพร้าวลูกใหญ่นะ ตัดกล้วยหอมแล้วเหรอ หวีใหญ่จัง ไม่เคยเห็นเสื้อตัวนี้เลยจะใส่ไปงานไหนกัน  มือไปเปิดฝาหม้อแกงแล้วพูด

“แกงส้มปลาหัวโม่งน่าหรอยนะ!!” ก้มดมกลิ่นอีกต่างหาก

ตอนที่ผมยืนมองประตูของลูกา เหมือนเสียงวัวดังมาจากที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ผมมองหาที่มาของเสียง กลับเป็นฝูงหมาที่มีตัวหนึ่งโตเกือบเท่าวัว อดนึกขำไม่ได้ว่าตกลงประตูรั้วบ้านมีไว้กั้นสิ่งใดกันแน่

คนหรือหมา

 

 

Author

WAY

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า