บรรยากาศปลายปีแบบนี้ไม่เอื้อให้มีอารมณ์ทำงานเอาเสียเลย บางคนคงเตรียมตัวหยุดล่วงหน้า หรือบางคนก็คงจองตั๋วเดินทางไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่มีแผนไปไหน การดูหนังสักเรื่อง นั่งกินขนมและป๊อปคอร์นในห้องนอน ก็คงเป็นการพักผ่อนที่ดีไม่น้อย เปิด Netflix เลื่อนหาหนังที่น่าสนใจสักเรื่อง แน่ล่ะ อาจสะดุดตากับ A Tale Dark & Grimm: นิทานกริมม์หฤโหด ซีรีส์แอนิเมชั่นแฟนตาซีที่ชวนให้หวนกลับสู่ความตื่นเต้นวัยเยาว์อีกครั้ง
นิทานกริมม์นั้น ตัวเรื่องดั้งเดิมเป็นนิทานที่มีความดาร์คอยู่แล้ว อย่างเรื่องที่เราคุ้นเคยกันดีก็เช่น ซินเดอเรลล่า, หนูน้อยหมวกแดง, สโนไวท์, เจ้าหญิงนิทรา เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าตอนจบของนิทานเหล่านี้ในฉบับนิทานกริมม์ ไม่ได้แฮปปี้เอนดิ้งตามแบบฉบับดิสนีย์ที่เป็นที่นิยมมากกว่า
ส่วนในซีรีส์ A Tale Dark & Grimm เรื่องนี้ ได้นำเรื่องราวของสองพี่น้อง ‘แฮนเซลและเกรเทล’ มารีเมคขยายความเรื่องราว โดยเก็บประเด็นหลักไว้คือ ความรุนแรงที่พ่อแม่กระทำต่อลูกๆ ของพวกเขาเอง ในซีรีส์นี้ แฮนเซลและเกรเทลเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรกริมม์ วันหนึ่งพ่อ ‘ตัดคอ’ พวกเขาทั้งสอง (แต่ทำไมไม่ตาย ต้องไปดูเองนะ) สองพี่น้องจึงหนีออกจากวังเพื่อไปตามหาพ่อแม่ในแบบที่พวกเขาต้องการ และในการเดินทางนั้นเองที่ทั้งคู่ได้พบกับพ่อแม่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งความน่าสนใจของเรื่องนี้ที่ผู้เขียนเห็นว่าน่าหยิบมาพูดคุยเป็นอย่างมาก คือคำถามชวนคิดว่า พ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นอย่างไร?
ผู้เขียนจะขอพาไปชมตัวอย่างพ่อแม่ที่ทั้งสองได้เดินทางออกไปพบเจอทั้งหมดในเรื่อง ว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ประเภทไหน และพวกเขาให้บทเรียนแก่สองพี่น้องอย่างไร
เรตของซีรีส์ก็ไม่ได้เหมาะกับผู้ชมทุกวัยเสียทีเดียว ด้วยเนื้อหาที่ยังมีความรุนแรง จึงเหมาะกับเป็นซีรีส์นิทานสำหรับเด็กที่โตขึ้นมาสักหน่อย เรตของซีรีส์อยู่ที่ 7+ แต่ความน่ารักของผู้สร้างก็คือ หากเป็นฉากที่โหดร้ายเกินไป จะใช้เทคนิคภาพซิลลูเอทเข้ามาช่วย เพื่อไม่ให้ภาพที่ออกมาดูทำร้ายจิตใจเด็กจนเกินไป
(Spoiler Alert) บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง
บ้านขนมเค้ก: คุณแม่ผู้ทำขนมแสนอร่อย
แฮนเซลและเกรเทลออกเดินทางตามหาพ่อแม่คนใหม่ ความคาดหวังของทั้งสองไม่มากมายอะไรนัก แค่ไม่ตัดหัวพวกเขาทั้งสองคนอีกก็คงจะดี พวกเขาเดินทางมาถึงบ้านขนมเค้กกลางหุบเขาลึก หญิงเจ้าของบ้านต้อนรับสองพี่น้องเป็นอย่างดีด้วยขนมน่ากินมากมาย
คงมีบางครั้งที่เรานึกภาพว่าอยากจะมีคุณแม่ที่ทำขนมเก่งๆ และอิจฉาคนที่มีแม่แบบนั้น แม่ที่สมบูรณ์แบบคือคุณแม่ผู้ปลุกเราตื่นขึ้นมาด้วยกลิ่นเค้กหอมอวลทั่วบ้านแน่ๆ
แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่า หญิงนักทำขนมนั้นกลับหลอกให้สองพี่น้องกินขนมจนอิ่ม เพื่อจะฆ่าพวกเขาแล้วเอามาทำอาหาร เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยกินพายเนื้อเด็กแสนอร่อยที่ทำจากลูกของตนเอง
บ้านขนมเค้กที่ดูแสนสุขสมบูรณ์แบบ จนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีอยู่จริงนั้น แท้จริงแล้วก็เป็นเพียงฉากหน้าเพื่ออำพรางความโหดเหี้ยมของเจ้าของบ้านนั่นเอง
สามีภรรยาชาวสวนผักกาด: พ่อแม่ที่มักคาดหวัง
หลังหนีรอดมาจากบ้านหลังแรก การเดินทางของสองพี่น้องก็ได้มาถึงบ้านหลังต่อไป และพบเจอกับสามีภรรยาชาวสวนผักกาด
ผู้อ่านอาจจะเคยเห็นพ่อแม่ประเภทนี้อยู่บ้างในสังคม พ่อแม่ที่มักจะคาดหวังในตัวลูกๆ เสมอ แต่พอลูกไม่เป็นดังที่ตัวเองต้องการ ก็จะปฏิบัติกับพวกเขาด้วยความโกรธ และโมโห หากบางครอบครัวมีลูกหลายคนก็จะเห็นได้ถึงความไม่เท่าเทียม ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของเด็กๆ เลย เพียงแค่พวกเขานั้นยัง ‘เด็ก’ บางทีในมุมมองของผู้ใหญ่ พวกเขาอาจไม่เข้าใจเลยสักนิดด้วยซ้ำ และปัญหาที่เกิดตามมาก็คือ ลูกๆ เกิดความน้อยใจ
ที่บ้านหลังนี้ สองสามีภรรยาคู่นี้ได้ซ่อนปริศนาไว้บนใบหน้าเปื้อนยิ้ม สองสามีภรรยาแสนยินดีที่ได้เจอแฮนเซลและเกรเทล พวกเขาเกริ่นกับเด็กทั้งสองว่าอยากมีลูกสาว และนั่นนำไปสู่การดูแลและปฏิบัติกับเด็กทั้งสองคนอย่างไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะแฮนเซลซึ่งเป็นเด็กผู้ชาย
เวลาผ่านไป ทุกอย่างเหมือนจะไปได้ดี แต่แล้วแฮนเซลและเกรเทลกลับล่วงรู้ว่า สองสามีภรรยานั้นเคยมีลูกชายมาก่อนถึง 7 คน เมื่อสามีภรรยามาเจอกับแฮนเซลและเกรเทล ทำให้ลูกชายทั้ง 7 น้อยเนื้อต่ำใจ จึงไปขอพรกับดวงดาวให้เสกพวกเขากลายเป็นนกนางแอ่น เพื่อจะหนีจากความกังวล
บทเรียนครั้งนี้ทำให้สองสามีภรรยาเสียใจเป็นอย่างมาก สามีภรรยาและแฮนเซล-เกรเทลได้รับบทเรียนที่ว่า
“เป็นเพราะพวกเขาอยากมีลูกสาวมาก จนมองข้ามในสิ่งที่เขาเคยมีไป”
ระหว่างทางเกิดอุปสรรคอันหนักหนา เป็นเหตุทำให้แฮนเซลและเกรเทลต้องแยกจากกัน เกรเทลเชื่อว่าแฮนเซลได้ตายจากไปแล้ว แต่เธอยังต้องออกตามหาพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบต่อไปด้วยความสิ้นหวัง เธอได้เจอกับคนขายปลา หญิงสาวที่ยินดีจะเป็นเพียงผู้ใหญ่ที่ดูแลเกรเทลไม่ใช่ในฐานะพ่อหรือแม่ เหตุผลของหญิงขายปลาดูเข้าที เกรเทลจึงตอบตกลงที่จะอยู่บ้านหลังนี้
หากพูดถึงพ่อแม่ที่เป็นเพื่อนกับลูกแล้ว นี่ก็คงเป็นพ่อแม่ในฝันของใครหลายๆ คนเช่นกัน พ่อแม่ที่เป็นได้ทั้งผู้ปกครอง เพื่อนคู่คิด และเป็นที่ปรึกษาที่ดี โดยเข้าใจความต่างระหว่างวัยและปรับตัวเข้าหากันและกันได้
หญิงสาวคนขายปลาได้มอบมิตรภาพที่ดีให้กับเกรเทล เพื่อให้เธอมีความหวังต่อไป ไม่ย่อท้อกับชีวิต เธอจะยังคงอยู่เคียงข้างเกรเทลเสมอ แม้เกรเทลจะอยู่ที่ไหนสักที่บนโลกใบนี้ อีกทั้งเธอยังให้บทเรียนกับเกรเทลในครั้งนี้ว่า
“ถึงฉันจะไม่ได้เป็นพ่อแม่ของเธอ แต่ก็สามารถให้ความรักและการดูแลเอาใจใส่ที่ดีกับเธอได้”
ท่านลอร์ด: พ่อแม่ผู้เคร่งกฎเกณฑ์และเจ้าระเบียบ
แฮนเซลที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาได้รับการอุปการะจากท่านลอร์ด แต่การอยู่กับท่านลอร์ดจะต้องใช้ชีวิตทุกย่างก้าวตาม ‘กฎ’ ด้วยเหตุนี้แฮนเซลจึงต้องปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่
พูดถึงพ่อแม่ที่มีกฎเกณฑ์และเป็นระเบียบ พบได้ว่ามีประชากรพ่อแม่จำนวนหนึ่งที่เป็นแบบนั้นจริง ทุกอย่างจะต้องดำเนินไปตามกฎ ยกตัวอย่าง พ่อแม่ที่เคี่ยวเข็ญให้ลูกเรียนพิเศษหนักๆ โดยให้เหตุผลกับเด็กว่า นี่คือกฎในบ้าน จงทำต่อไป เพราะในอนาคตจะได้ไม่ลำบาก ต้องเรียนให้หนักจะได้เข้ามหาวิทยาลัยดีๆ ได้
การถูกบังคับให้ต้องเรียน เรียน และเรียน ในเวลาที่เด็กๆ ควรได้พักผ่อนหรือได้ออกไปเรียนรู้โลกกว้างภายนอกบ้าง แต่กลับต้องถูกจองจำอยู่ในกฎของครอบครัวที่ไม่อาจฝ่าฝืนได้ ภายในใจของลูก หากพวกเขาไม่ยินดีที่จะทำแบบนั้น กฎเช่นนี้ย่อมไม่ได้ทำให้พวกเขามีความสุขเลยสักนิด
หากเด็กทุกคนมีโอกาสได้พูด พวกเขาคงอยากให้ผ่อนปรนเรื่องกฎเกณฑ์ลงเสียบ้าง พวกเขาเพียงต้องการออกไปใช้ชีวิต
จนกระทั่งความเห็นอกเห็นใจนอกเหนือจากกฎเกณฑ์นั้น ได้บังเกิดขึ้นกับตัวท่านลอร์ด เขายังมีความรัก ความเมตตา ในการผ่อนปรนเรื่องกฎอยู่บ้าง เพราะเขารักแฮนเซลเหมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง
ในตอนท้ายที่สู้กับมังกร ท่านลอร์ดเห็นแฮนเซลตกอยู่ในอันตราย “ถึงเวลาที่ข้าจะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพราะมันเป็นกฎ” ท่านลอร์ดกล่าวขึ้น และตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว เพราะแฮนเซลคือครอบครัวของเขา คือหนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่เขายอมสละชีพของตนเพื่อปกป้อง
การสละชีพเพื่อปกป้องแฮนเซลของท่านลอร์ด แสดงให้เห็นถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ที่จะมอบให้ใครสักคนหนึ่งได้ ถึงแม้จะมีกฎเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในเวลาที่สำคัญ คนในครอบครัวต้องมาก่อน
สุดท้าย พ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบที่เราตามหาก็คือ…
ซีรีส์เรื่องนี้จะเรียกว่าเป็นการจบแบบหักมุมก็ไม่เชิง เพราะในตอนสุดท้ายของเรื่อง แฮนเซลและเกรเทลได้กลับมายังปราสาทเพื่อตามหาพ่อแม่ที่แท้จริงของพวกเขา แต่แล้วก็มีการปรากฏตัวของมังกรร้ายเข้าทำลายปราสาท แฮนเซลและเกรเทลต้องออกมาปราบมังกรร้าย และท้ายที่สุดทั้งสองก็ได้ค้นพบว่า มังกรตัวนั้นคือพ่อของเขาเอง
มังกรคือวิญญาณชั่วร้าย มันครอบงำคนที่จมอยู่กับความสิ้นหวัง หลังจากที่พระราชาสูญเสียลูกไปจากการที่เขาตัดหัวลูกๆ ของตัวเอง เมื่อแฮนเซลและเกรเทลฟื้นขึ้นมาได้ พวกเขาทั้งสองตัดสินใจหนีออกจากปราสาทไป โดยไม่มีวี่แววจะกลับมาอีกเลย
ตอนจบของเรื่องนี้ทำให้เห็นว่า พ่อแม่ของแฮนเซลและเกรเทลรักพวกเขามากขนาดไหน แต่ทุกอย่างมีเหตุผลจำเป็นที่ต้องตัดสินใจเช่นนั้นไป ซึ่งพ่อแม่ของแฮนเซลและเกรเทลยอมรับว่า การตัดหัวลูกๆ นั้นคือ ‘ความผิดพลาดครั้งใหญ่’
การตัดสินใจในบางเรื่องของพ่อแม่ ส่งผลกระทบต่อจิตใจลูกได้เหมือนกัน ยิ่งในวัยเด็ก ยิ่งสมควรที่จะได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี เพื่อที่ว่าพวกเขาจะเติบโตต่อไปในอนาคตได้อย่างแข็งแกร่งและมีความเมตตาต่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน
โดยรวมมิติการนำเสนอเรื่องราวครอบครัวจากซีรีส์แอนิเมชั่น A Tale Dark & Grimm: นิทานกริมม์หฤโหด บอกเล่าออกมาอย่างเทาๆ ตลอดทั้งเรื่อง ความสุขที่แฮนเซลและเกรเทลค้นหา นำพาให้พวกเขาทั้งสองได้ออกไปเติบโตและเรียนรู้จากโลกความเป็นจริง แก่นแท้ตัวละครต่างๆ สะท้อนว่า ไม่มีใครเป็น ‘พ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ’ ได้อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์ เหมือนกับในสังคมที่เรามักพบว่า ในบางครอบครัวพ่อแม่ก็ไม่ได้เป็น safe zone ให้กับลูกทุกคนเสียทีเดียว