ท่ามกลางงานวิจัย คำตักเตือนของแพทย์ และโฆษณารณรงค์เรื่องการรักษาสุขภาพในทีวีนั้น เป็นที่รู้กันดีว่า ‘อาหาร’ และพฤติกรรมการบริโภค เป็นตัวการสำคัญที่ทั้งช่วยลดและเร่งเร้าให้เกิดมะเร็งได้ แต่อาหารชนิดไหน และจะนำไปสู่มะเร็งประเภทใด ยังคงเป็นปริศนาลึกลับที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ยังคงเร่งค้นหาคำตอบกันต่อไป
ตุลาคมปีที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดอันดับเนื้อสัตว์แปรรูปอย่างเบคอน ไส้กรอก ให้อยู่ในกลุ่มอาหารที่อาจก่อให้เกิดก่อมะเร็งได้ ล่าสุด นัวร์ มาคาเร็ม นักศึกษาปริญญาเอกและหัวหน้าทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ค (New York University) ได้เผยแพร่งานวิจัยชิ้นนี้ต่อ American Society for Nutrition (ASN) ในส่วนวิทยาศาสตร์ของงานประชุม Experimental Biology 2016 ว่า การบริโภคแป้งและน้ำตาลที่ไม่ดี ก็มีผลทำให้เกิดมะเร็งได้เช่นกัน
ทีมทดลองได้ติดตามและเก็บข้อมูลการบริโภคอาหารของอาสาสมัครจำนวน 3,100 คน เป็นเวลากว่า 25 ปี ตั้งแต่ปี 1991 โดยใช้แบบสอบถามติดตามประเภทของอาหารที่อาสาสมัครกินเป็นประจำ แล้วนำไปคัดแยกว่าอาหารที่อาสาสมัครบริโภคนั้น เป็นคาร์โบไฮเดรตประเภท ‘ดี’ เช่น คาร์โบไฮเดรตจากสารอาหารจำพวกถั่วและผัก หรือ ‘ไม่ดี’ เช่น แป้งพิซซ่า น้ำหวาน น้ำผลไม้
การบริโภคของหวานเป็นประจำอาจเพิ่มโอกาสที่จะเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากขึ้นสามเท่า ขณะที่มื้อกลางวันอย่างเบอร์เกอร์ พิซซา แซนด์วิช ก็สามารถทำให้เกิดมะเร็งได้ ขณะที่คาร์โบไฮเดรตชนิดดี เช่น ถั่ว ผักใบเขียว ผลไม้ สามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ 67 เปอร์เซ็นต์
ผลวิจัยยังพบอีกว่า 88 เปอร์เซ็นต์ของอาสาสมัครที่บริโภคแป้งชนิดไม่ดีเป็นประจำ มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งรังไข่ และหากมีพฤติกรรมชอบกินเนื้อสัตว์แปรรูปและเครื่องดื่มที่มีรสหวานร่วมด้วย ก็ยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ในทางกลับกัน อาสาสมัครที่บริโภคแป้งชนิดดีเป็นประจำ ก็ช่วยลดความโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านมได้ 67 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังมีตัวเลขที่ชี้ว่า ผู้ที่บริโภคคาร์โบไฮเดรตที่ได้จากพืชตระกูลถั่วเป็นประจำ จะลดอัตราความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วน มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากน้อยลง 32 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผลจากข้อมูลนี้ได้ยืนยันความเชื่อเดิมที่ว่า ร่างกายยังต้องการพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตอยู่ เพียงแต่ต้องเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดดีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม มาคาเร็มได้ย้ำว่า งานวิจัยดังกล่าวยังมีข้อจำกัดบางประการที่ยังไม่สามารถรับรองผลการทดลองได้ทั้งหมด โดยเฉพาะกลไกที่เชื่อมโยงระหว่างน้ำตาลและเชื้อมะเร็ง นอกจากนั้น กว่า 99 เปอร์เซ็นต์ของอาสาสมัครก็เป็นคนผิวขาว ซึ่งตัวแปรนี้อาจทำให้ต้องกลับไปรื้อถอนข้อสรุปการวิจัยใหม่ทั้งหมด เพราะขณะนี้มีรายงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่บอกว่า มะเร็งต่อมลูกหมากถูกพบในคนผิวดำมากขึ้นเรื่อยๆ โดยยังไม่ทราบที่มาแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุใด
นอกเหนือจากนั้น ทีมวิจัยยังย้ำว่า การบริโภคคาร์โบไฮเดรตชนิดเลว ก็ไม่แน่ชัดว่าจะก่อให้เกิดมะเร็งเพียงอย่างเดียว เพราะยังเป็นเรื่องยากที่จะจัดจำแนกได้ชัดว่า อาหารชนิดไหนนำไปสู่มะเร็งประเภทใด และยากยังที่จะระบุว่า มะเร็งเกิดเพราะการบริโภคคาร์โบไฮเดรตชนิดร้ายเพียงอย่างเดียว หรือมีโรคอ้วนเข้ามาเกี่ยวพันด้วย
อ้างอิงข้อมูลจาก:
sciencedaily.com
popsci.com
Author
