ก่อนหน้านี้พูดกันไปแล้วว่า ‘การศึกษาคือการแสดงความรุ่มรวยแบบใหม่ของพ่อแม่ชนชั้นกลางชาวจีน’
แต่สำหรับผู้ปกครองชาวจีนที่มีสถานะทางการเงินมั่นคงกว่าหรือมีความพร้อมมากกว่า การส่งลูกไปเรียนเมืองนอก ไม่ว่าจะลงคอร์สภาษาสั้นๆ ช่วงหน้าร้อน หรือส่งเข้าเรียนตามระบบตั้งแต่ประถมศึกษาถึงมหาวิทยาลัย สิ่งที่ตามมาจากเทรนด์ใหม่เหล่านั้นคือพวกเขาได้เข้าไปมีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศนั้นๆ อีกด้วย
โดยเฉพาะสหราชอาณาจักร ที่มีจำนวนชาวจีนเข้ามาเรียนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งสหราชอาณาจักร (Office for National Statistics) นักเรียนต่างชาติที่เข้ามาเรียนในสหราชอาณาจักรมากที่สุดคือจีน โดยปีที่ผ่านมาชาวจีนที่ถือวีซ่านักเรียนมีทั้งหมด 49,700 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2010 มา 15 เปอร์เซ็นต์
ในสายตาของชาวจีนแล้ว ระบบการศึกษาของสหราชอาณาจักรถือว่าดีที่สุด จึงมักส่งลูกหลานมาเรียนกันเป็นจำนวนมาก เมื่อลูกหลานของชาวจีนผู้มีฐานะเข้ามาที่นี่ ผลคือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตามไปด้วย
แอนดรูว์ เฮย์ (Andrew Hay) ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศของบริษัท Knight Frank ที่ให้คำปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหราชอาณาจักรเล่าว่า จุดประสงค์ของผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ชาวจีนส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ คือเป็นที่พักสำหรับมาเรียนต่อทั้งในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย
สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสนใจควักกระเป๋าลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์แทนการเช่าหอพักหรืออาศัยกับโฮสต์อาจมาจากวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปี 2008 ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอลง โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา สวนทางกับจีน แม้จะได้รับผลกระทบมาบ้างแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนต้องหยุดชะงักเหมือนบางประเทศ
เมื่อพวกเขาเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ จึงพากันถือเงินหยวนเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ บวกกับประเด็น Brexit เมื่อปีที่ผ่านมา ยิ่งส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนกว่าค่าเงินหยวน 12 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ตัวเลขการเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวจีนเพิ่มสูงขึ้น โดยรายงานล่าสุด 20 เปอร์เซ็นต์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์เกิดใหม่ในลอนดอนเป็นของชาวจีน จากเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เมื่อสามปีก่อน
“ค่าเงินถูกลงกว่าเดิมตั้ง 20 เปอร์เซ็นต์ ค่าเทอมที่นี่ก็แพงมหาศาล เพื่อประหยัดเงินให้มากที่สุดพวกเขา (ชาวจีน) จึงเข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์กัน เมื่อเด็กๆ เรียนจบกันแล้วจะได้ขายต่อหรือไม่ก็ปล่อยให้เช่า” เฮย์กล่าว
สอดคล้องกับ แอนดี โจว (Andy Zhou) หัวหน้าเซลส์ของ Citywharf บริษัทให้คำปรึกษาด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนกล่าวว่า ‘9 ใน 10 ของครอบครัว’ ที่ส่งลูกๆ มาเรียน มักซื้ออสังหาริมทรัพย์ทิ้งเอาไว้ เนื่องจากพวกเขามักส่งลูกหลานเข้ามาเรียนกันตั้งแต่อายุยังน้อย ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาหรือมัธยมศึกษาลากยาวไปจนจบระดับมหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางรัฐบาลจีนได้ออกกฎหมายควบคุมการไหลออกของเงินทุนให้รัดกุมกว่าเดิม เช่นเดียวกับทางรัฐบาลอังกฤษที่พยายามมองหาช่องทางเพื่อลดแรงจูงใจอุปสงค์ดังกล่าวและออกมาตรการควบคุมให้เข้มงวดเพิ่มขึ้น
“มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอังกฤษอาจเพิ่มอัตราภาษีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ต่อชาวต่างชาติให้สูงขึ้น” อลัน วิลคินสัน (Allan Wilkinson) จากบริษัทบัญชี Buzzacott กล่าว
อ้างอิงข้อมูลจาก:
scmp.com
Author
