25 กรกฎาคม หรือประมาณสามเดือนก่อน บนเครื่องบินที่จะพาผู้โดยสารจากโกเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ไปยังอิสตันบูล ประเทศตุรกี เอลิน เอียร์สัน นักศึกษาวัย 21 ปี มหาวิทยาลัยโกเทนเบิร์ก ยืนขึ้นประท้วง หลังจากเธอทราบว่ามีชายชาวอัฟกานิสถานวัย 52 ปีคนหนึ่งกำลังจะถูกเนรเทศไปพร้อมกับเที่ยวบินนี้
“ฉันจะไม่นั่งลงจนกว่าเขาจะได้ลงจากเครื่องบินนี้ เพราะเขากำลังจะถูกส่งกลับไปตาย นักบินมีสิทธิที่จะไม่ให้เขาอยู่บนเครื่องบินได้ เมื่อเขาได้ลงจากเครื่องบิน ฉันจึงจะยอมนั่งลงตามกฎ”
เอลิน เอียร์สัน พูดบนเครื่องบินลำนั้น และเสียงพูดของเธอ ใบหน้าของเธอ ก็ถูกถ่ายทอด Facebook Live ผ่านแอคเคาท์ส่วนตัว
การลุกขึ้นประท้วงของหนึ่งคนทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องบินลำเดียวกันมีความเห็นแตกออกเป็นสองฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและตรงกันข้าม ฝ่ายหลังบางคนพยายามจะปิดมือถือของเธอเพื่อยุติการเผยแพร่ Facebook Live และถ้าให้ชัดกว่านั้นคือ หลายคนต้องการให้กัปตันนำเครื่องขึ้นบินได้ เพราะการประท้วงของเอลิน กำลังทำให้พวกเขาเสียเวลา
“ระหว่างชีวิตของผู้ชายคนนี้กับเวลาของคุณ อะไรกันที่สำคัญกว่า” เอลินตอบกลับผู้โดยสารที่ไม่เห็นด้วยกับเธอ
ขณะที่ฝ่ายที่เห็นด้วยกับ เอลิน เอียร์สัน จำนวนไม่น้อยก็ลุกขึ้นยืน ที่สุดการประท้วงของเธอก็เป็นผล ชายชาวอัฟกานิสถานถูกพาตัวลงไปจากเครื่องบิน และเธอก็ต้องลงไปจากเครื่องบินด้วยเนื่องจากไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของนักบินและลูกเรือ
เธอออกจากเครื่องบินดังกล่าวไปพร้อมเสียงปรบมือจากผู้โดยสารด้วยกัน และการประท้วงของเธอก็ได้รับความสนใจและมีเสียงชื่นชมจากทั่วโลก
เรื่องเหมือนจะจบลงด้วยดี อย่างน้อยก็สำหรับเธอและชายชาวอัฟกานิสถานคนนั้น แต่วันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานอัยการสวีเดนเปิดเผยว่า เอลิน เอียร์สัน อาจต้องถูกดำเนินคดีอันเนื่องมาจากทำผิดกฎการบินเพราะไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งของนักบินและลูกเรือ ซึ่งตามกฎแล้วเธออาจถูกปรับและจำคุกถึง 6 เดือน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการกำหนดว่าเธอจะต้องขึ้นต่อสู้บนชั้นศาลเมื่อใด
หลายปีมาแล้วที่อัฟกานิสถานคือพื้นที่สงครามมีการสู้รบกันอย่างยืดเยื้อยาวนาน ทำให้ชาวอัฟกันจำนวนมากต้องลี้ภัยยังต่างประเทศ และสวีเดนคือหนึ่งในเป้าหมายเพื่อหนีความตายจากบ้านเกิด ทว่าหลังจากสวีเดนมีนโยบายเข้มงวดเรื่องผู้ลี้ภัย การหนีร้อนมาพึ่งเย็นก็ทำได้ยากขึ้น
ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา สวีเดนรับผู้ลี้ภัยน้อยลง จากจำนวนกว่า 29,000 คนต่อปี เหลือเพียง 1,500 คนเท่านั้น และเฉพาะปี 2017 สำนักงานผู้ลี้ภัยสวีเดนผลักดันผู้ลี้ภัยกว่า 9,000 ชีวิตให้ออกจากประเทศของตน
อ้างอิง independent.co.uk |