หยุดสงคราม! ก่อนเด็กๆ จะฆ่าตัวตายและทำร้ายตัวเอง

credit : cloudmind.info

ชีวิตที่ต้องคอยเงี่ยหูฟังเสียงระเบิดและอยู่บนความเสี่ยงอันตรายมาไม่ต่ำกว่าหกปี ปัจจุบันเด็กๆ ชาวซีเรียเริ่มแสดงอาการ ‘toxic stress’ – ความเครียดที่เป็นอันตรายหรือความเครียดที่เป็นพิษ ด้วยการพยายามทำร้ายตัวเอง บางรายพยายามฆ่าตัวตาย

ในเบื้องต้น เพราะเด็กๆ รู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ในโรงเรียน ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการเรียนรู้ หลายคนมีการพูดที่ผิดปกติและควบคุมไม่ได้ บางรายถึงขั้นพูดไม่ได้

รายงานจากองค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) จัดทำในวาระครบรอบสงครามหกปีในซีเรีย ได้เปิดเผยปัญหาสุขภาพจิตของเด็กๆ ก่อนพัฒนากลายเป็นภาวะอันซับซ้อนที่ต้องแบกรับเมื่อโตขึ้น

“หกปีของสงครามผ่านไป หลังจากติดตามผลกระทบในตัวเด็กๆ มานานติดต่อกันหลายปี เรามาถึงจุดแน่ใจว่าพัฒนาการของเด็กเป็นประเด็นใหญ่มาก สิ่งที่เด็กๆ ถูกทำลายไปนั้นคือสิ่งสำคัญและไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้” มาร์เซีย โบรฟี (Marcia Brophy) ที่ปรึกษาด้านสุขภาพจิตของ Save the Children ในตะวันออกกลางบอกต่ออีกว่า

“ความเสี่ยงเด็กๆ ในพื้นที่ นำมาซึ่งความบอบช้ำ และความเครียดขั้นรุนแรงและเลวร้ายอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน”

ผลการศึกษาดังกล่าวเกิดขึ้นจากการลงพื้นที่ของนักวิจัยเพื่อไปพูดคุยกับเด็ก 450 คน รวมถึงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ใน 14 เมืองของซีเรีย

กลุ่มผู้ใหญ่ให้ข้อมูลว่า สาเหตุสำคัญของความเครียดทางร่างกาย มาจากอาการผวาที่เกิดขึ้นตลอดเวลาและการทิ้งระเบิดซึ่งเป็นลักษณะการสู้รบของสงครามดังกล่าว

โรงเรียนและโรงพยาบาลคือเป้าหมายหลัก การทำลายสถาบันและสถานที่เหล่านี้ ยิ่งสร้างความบอบช้ำให้แก่เด็กๆ เพราะสถานที่ที่เขาต้องการและรู้สึกปลอดภัย-ไม่มีอีกแล้ว

จากรายงาน ผู้ถูกสัมภาษณ์ราว 80 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าเด็กๆ มีแนวโน้มก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆ และ 71 เปอร์เซ็นต์บอกว่า เด็กๆ ทุกข์ทรมานมากขึ้นทุกวันจากการปัสสาวะรดที่นอนบ่อยและการกลั้นปัสสาวะไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

“อาการที่ว่าเป็นผลมาจากภาวะความเครียดที่เป็นพิษ และ ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ (PTSD: post-traumatic stress disorder) ของเด็ก” โบรฟีอธิบายต่อ

นักวิจัยยังพบอีกว่า เด็กๆ จำนวน 2 ใน 3 สูญเสียบุคคลที่รัก บ้านถูกระเบิดทำลาย และได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสงคราม

Save the Children เผยอีกว่า การสำรวจครั้งนี้มุ่งประเด็นไปที่สุขภาพทางใจของเด็กๆ ที่ยังอยู่ในซีเรีย ซึ่งคาดว่ามีเด็กจำนวนอย่างน้อย 3 ล้านคนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง และเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคนยังไม่รู้ว่าสงครามคืออะไร

“เรารู้สึกเศร้ากับเด็กๆ ในซีเรีย บางคนถูกทิ้งไว้ให้เผชิญความโหดร้ายตามลำพัง หรือเห็นพ่อแม่ถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา พวกเขาตกอยู่ใต้ความหวาดกลัวตลอดเวลาโดยขาดการฟื้นฟูและช่วยเหลือที่เหมาะสม” โบรฟี ให้ข้อมูล

กลุ่มแพทย์ ที่ทำงานให้ Human Rights ในนิวยอร์ค เปิดเผยว่าการโจมตีสถานพยาบาลกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ในซีเรียนั้น เป็นไปตามคำสั่งของกองทัพที่มีรัฐบาลอยู่เบื้องหลัง รายงานฉบับแรกๆ ของกลุ่ม Human Rights บอกว่ารัฐบาลซีเรียมีคำสั่ง “ทำลายอย่างเป็นระบบ” โดยพุ่งเป้าสำคัญไปที่สถานพยาบาลและแพทย์ กักขังผู้ป่วย จับกุม ทรมานและจับหมอ

รายงานของ Save the Children เผยอีกว่า เด็กๆ 1ใน 4 คนบอกว่า ไม่มีคนคุยด้วยและไม่รู้ว่าจะไปอยู่ตรงไหนเมื่อพวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัย เศร้าและหมดหวัง

สัญญาณของความเครียดที่เป็นพิษ นั้นทับซ้อนและใกล้เคียงกับกลุ่มอาการ ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ หรื่อ PTSD ซึ่งไปยับยั้งพัฒนาการของสมองและอวัยวะต่างๆ จนนำไปสู่อาการผิดปกติทางจิต และติดตัวไปจนโตผู้ใหญ่” อเล็กซานดรา เฉิน (Alexandra Chen) ผู้เชี่ยวชาญ ด้านสุขภาพจิต การป้องกันและดูแลเด็กจาก มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้ข้อมูล

“โดยเฉพาะทหารเด็กที่เสี่ยงต่อการแบกรับความบอบช้ำไปจนถึงตอนโต” เฉินเพิ่มเติม ในซีเรียมีทหารเด็กมากขึ้นเรื่อยๆ เฉพาะปีที่แล้ว เด็กจำนวน 851 คนถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2015 ในจำนวนนี้ยังไม่รวมเด็กๆ อีกหลายชีวิตที่ถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานยามศึกสงคราม

รายงานชิ้นนี้ยังเสนอว่า ผู้สู้รบทั้งสองฝ่ายควรหยุดใช้ระเบิดในพื้นที่ชุมชน การโจมตีโรงเรียนและโรงพยาบาล และหยุดการเกณฑ์เด็กๆ ไปเป็นทหาร และเรียกร้องให้องค์กรนานาชาติตั้งกองทุนช่วยเหลือ ดูแลและรักษาพยาบาลเด็กๆ ซีเรียที่ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจิต

ยูนิเซฟรายงานว่า ปี 2016 ถือเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของเด็กๆ เด็กซีเรียอย่างน้อย 625 คนถูกสังหาร เพราะหกปีที่ผ่านมารัฐบาลซีเรีย ไม่เคยมีการหยุดโจมตีโรงเรียน โรงพยาบาล สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ และบ้าน

ยูนิเซฟแถลงว่า เฉพาะปีที่แล้ว มีเด็กอย่างน้อย 225 คนเสียชีวิตในโรงเรียน/บริเวณใกล้เคียง และเยาวชน คนหนุ่มสาวอีกราว 1.7 ล้านคนถูกสังหารในพื้นที่รอบนอก

1 ใน 3 โรงเรียนในซีเรียไม่สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ บางส่วนโดนกองทัพทหารซีเรียเข้ายึดครอง และเด็กๆ ซีเรีย 2.3 ล้านคนกลายเป็นผู้ลี้ภัยในดินแดนตะวันออกกลาง

 


อ้างอิงข้อมูลจาก: yahoo.com
cbsnews.com

Author

ทิพย์พิมล เกียรติวาทีรัตนะ
หญิงแกร่งที่ทำงานทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านให้กับ WAY ถ้าเป็นนักฟุตบอลนี่คือผู้เล่นผู้จัดการทีมที่มีประสบการณ์ในสายงานข่าว ทั้งคลุกคลี สัมภาษณ์ บันเทิง ไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้การเป็นคุณแม่ซึ่งมีลูกสาวย่างเข้าวัยรุ่นยังช่วยส่งเสริมให้สามารถปั่นงานด้านเด็กและเยาวชนอย่างเชี่ยวชาญ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า