รักสามเศร้าในประชามติ

Screen Shot 2016-08-06 at 12.11.08 AM

เรื่องราวของคนสามกลุ่ม ในวัย 18+ ผู้ซึ่งมีความรัก ความชอบ และรสนิยมทางการเมืองแตกต่างกัน ทว่าการลงประชามติภายใต้บรรยากาศแห่งความกลัวในครั้งนี้ ไม่เปิดโอกาสให้ใครต่อใครได้ออกมาเปิดเผยความคิดเห็นต่อสาธารณะได้มากนัก แม้หลายคนจะมีคำตอบที่เลือกไว้ในใจ แต่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยบอกใคร เพราะมีบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ โดยเฉพาะกฎข้อห้ามใน พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 มาตรา 61 ที่ยากจะตีความ

จุดร่วมของคนทั้งสามกลุ่มที่ก่อให้เกิดเรื่องรักสามเศร้าก็คือ ทุกคนต่างก็ล้วนมีความห่วงใยและปรารถนาดีต่อบ้านเมืองเช่นเดียวกัน หากแต่เหตุผลในการตัดสินใจเลือก ‘รับ’ ‘ไม่รับ’ หรือ ‘ไม่เลือกเลย’ ล้วนให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

คนทั้งสามกลุ่ม จะต้องเผชิญชะตากรรมอย่างไร เมื่อจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง

Screen Shot 2016-08-06 at 12.12.25 AM

เหตุและผลของการ Vote Yes

เหตุ:

  • รักชาติยิ่งชีพ
  • ขจัดคนโกงบ้านกินเมือง
  • รับไปก่อน แก้ทีหลัง
  • เชื่อผู้นำ ชาติเจริญ
  • มีผู้นำเป็นคนดี บ้านเมืองสงบ ไม่มีชุมนุมวุ่นวาย
  • จะได้เลือกตั้งเร็วๆ เสียที

ผล:

  • จะมีการเลือกตั้ง สส. อย่างเร็วที่สุดภายในเดือนธันวาคม 2560
  • ในวาระห้าปีแรก สว. ทั้ง 250 คน มาจากแต่งตั้งของ คสช.
  • เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรี ‘คนนอก’

Screen Shot 2016-08-06 at 12.12.11 AM

เหตุและผลของการ Vote No

เหตุ:

  • รธน. ปราบโกงไม่ได้จริง ไม่เปิดช่องให้ประชาชนร่วมตรวจสอบ
  • สิทธิเสรีภาพถูกจำกัดภายใต้คำว่า ‘ความมั่นคงของรัฐ’ ที่คลุมเครือ
  • สิทธิเรียนฟรี สิทธิบัตรทอง ถูกเปลี่ยนความหมายเป็น ‘หน้าที่ของรัฐ’ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ถูกลดขั้น กลายเป็นเพียงผู้รอรับความช่วยเหลือจากรัฐ
  • แก้ไข รธน. ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องได้รับเสียงเห็นชอบจาก สว.ที่แต่งตั้งโดย คสช. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3
  • การได้มาซึ่งนายกฯคนนอก อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่ไม่สิ้นสุด

ผล:

  • ประเทศไทยไปทางไหน? …ยังไม่มีคำตอบแน่ชัดจากปากทั่นผู้นำ

Screen Shot 2016-08-06 at 12.14.04 AM

เหตุและผลของการ No Vote

เหตุ:

  • ร่าง รธน. คืออัลไล อ่านแล้วงง
  • ไม่รักนะ แต่ไม่แสดงออก
  • ไม่ยอมรับกติกาใดๆ จากผู้ที่ไม่มีสิทธิ์กำหนดกติกา

ผล:

  • ความเงียบ

 

Screen Shot 2016-08-06 at 12.11.59 AM


*คำอธิบาย: การเลือกนายกรัฐมนตรี

‘ในกรณีปกติ’ ร่างรัฐธรรมนูญกำหนดให้พรรคการเมืองเสนอชื่อนายกฯ ไม่เกินสามชื่อไว้ก่อนเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาจากรายชื่อที่เสนอไว้นั้น โดยผู้ที่ถูกเสนอชื่อไม่จำเป็นต้องได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

‘ในกรณีพิเศษ’ ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 บทเฉพาะกาล กำหนดว่า ในวาระเริ่มแรกหากไม่สามารถตั้งนายกฯ จากสามรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอมา อาจให้ตั้งนายกฯ ‘คนนอก’ ได้ โดยมีสามขั้นตอน คือ

  1. สส.ไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 250 คน เข้าชื่อเสนอให้มีนายกฯคนนอก
  2. รัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย สส. และ สว. ลงมติด้วยเสียง 2 ใน 3 หรือ 500 คน จาก 750 คน เพื่ออนุมัติให้มีนายกฯคนนอกได้
  3. สส. เข้าชื่อกัน 1 ใน 10 หรือ 50 คน เสนอชื่อใครก็ได้ให้เป็นนายกฯ และลงมติเห็นชอบด้วยเสียงมากกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 251 คน

อ่านเพิ่มเติม: http://www.ilaw.or.th/node/4068
(ที่มา: iLaw)

เอาเป็นว่า…ไม่ว่าผลการตัดสินใจของคนทั้งสามกลุ่มจะลงเอยอย่างไร สุดท้ายแล้ว คสช. และ ม.44 ก็จะอยู่กับเราต่อไปอีกนาน จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ดังที่กำหนดในบทเฉพาะกาลของร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา 267 เช่นเดียวกับความขัดแย้งที่ยังไม่หมดไป

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า