มะละกาพาฝัน

 

KONICA MINOLTA DIGITAL CAMERA

เรื่อง + ภาพ : เสี้ยวจันทร์ แรมไพร และแมว

 

นักเขียนคนหนึ่งกำลังจะถึงทางตันในชีวิตการเขียนหนังสือ มีทางเดียวคือต้องออกเดินทาง การเดินทางอาจสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับมุมมอง ความรู้สึก แล้วเรื่องราวก็คงจะตามมาเอง

เขาไม่มีความรู้พื้นฐานทางประวัติศาสตร์เลย ดูแผนที่ไม่เป็น พูดภาษาอังกฤษพอได้งูๆ ปลาๆ วันๆ เขาเฝ้าฝันแต่ว่าจะเรียกสมาธิทั้งหมดคืนมา แล้วนั่งลงหน้าแป้นพิมพ์ดีด ถ้าไม่นั่งลง คงไม่มีวันเขียนหนังสือได้ ไม่มีประวัตินักเขียนคนไหน เดินไปเขียนไป

เขาเคยคิดว่าการเขียนในรูปแบบสารคดี มันเป็นสาเหตุที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ ที่น่าจะนำมาใช้เป็นพล็อตเรื่องสั้นหายไปหมด บางทีพล็อตเยี่ยมๆ ตัวละครสนุกๆ ก็นำไปใช้ในงานสารคดีเสียจนเกลี้ยงไม่เหลือหรอ

โลกใบนี้ก็เริ่มพรุนแล้ว เมื่อการเดินทางไปมาหาสู่กันมันง่ายขึ้น นักเขียนจะเขียนฉีกยังไงก็ยังทับเส้นทางกัน แม้กระทั่งภาพถ่ายก็ยังเป็นตัวละครเดิมๆ เขาเคยร้อง ‘อ้าว!’ เมื่อเพื่อนนำรูปมาให้ดูเมื่อกลับจากการเดินทาง เขาชี้นิ้วไปที่ภาพนั้น นี่ลุงขายเครื่องดนตรีในเมืองโกลกาตา อินเดีย ไม่น่าเชื่อ…

นักเขียนวัยกลางคนกำลังวางโครงสร้างใหญ่ชุดหนึ่งกับงานเรื่องสั้น เรี่ยวแรงเริ่มจะถดถอย นั่งนานหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ปวดบั้นเอว เขาเคยลองเขียนต้นฉบับด้วยลายมือ เหมือนกับตอนที่เขายังเป็นนักเขียนหนุ่ม ปรากฏว่ามือเขาแข็งเสียแล้ว และลายมือตัวเองก็ยังอ่านแทบไม่ได้ แล้วความถนัดในยุคหลัง เขามีความลื่นไหลมากกว่าในการเขียนหนังสือร่างแรกจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เขาเคยทดสอบการเขียนจากโน้ตบุ๊ค เขาเขียนไม่ออกเลย นั่งตัวแข็งเหมือนกับหินประดับอยู่บนเก้าอี้ อยากจะร้องไห้

 

melaka_malaysia03

โครงเรื่องสั้นของนักเขียนเป็นเช่นนี้…

ตัวละครหลักเป็นนักเขียนที่หายตัวได้ เพราะได้คาถาจากบรรพบุรุษ เพราะฉะนั้นนักเขียนจะโผล่ตรงไหนก็ได้ แต่สถานที่แรกเขาต้องเดินทางไปพร้อมกับคนรักคือมะละกา ในสถานการณ์ที่ที่ความสัมพันธ์ง่อนแง่นโคลงเคลงใกล้จะล้มครืน

เพราะครูในวิชาประวัติศาสตร์สอนไว้ว่า ส่วนแคบที่สุดในแผนที่คือช่องแคบมะละกา เขานึกประโยคเท่ๆ …เดินทางไปหาส่วนที่แคบที่สุด เพื่อเข้าใจส่วนที่กว้างที่สุด เหมือนกับความรักนั่นแหละ ถ้อยคำนี้มันลอยมาจากที่ไหนสักแห่ง มันสร้างแรงบันดาลใจให้กับใจเหี่ยวๆ ของเขาให้กระชุ่มกระชวยขึ้นมา

นอกจากจะเขียนหนังสือแล้ว นักเขียนก็มีอาชีพสำรองคือเล่นละครใบ้ เล่นวิทยากลเปิดหมวกตามท้องถนน เพราะไม่ค่อยมีเงินติดตัวมากนัก แล้วในระหว่างการเล่นใกล้ๆ กับหอนาฬิกา ศูนย์รวมของนักท่องเที่ยว ที่ต้องแห่กันมาขึ้นสามล้อเปิดเพลงดังแบบแร็พ ปานประหนึ่งยกเธคมาไว้บนถนน

นักเขียนบังเอิญพบสาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง เธอมายืนดูเขาเล่นละครใบ้ แสดงท่าทางกามเทพแผลงศร วาดไม้วาดมือเป็นรูปหัวใจลอยไปลอยมาเหนือศีรษะ เสียงหัวเราะขำๆ ของเธอทำให้มีคนโยนเงินให้เขามิใช่น้อย หลังจากการแสดงเสร็จ เขายืนพูดคุยกับเธอ จึงได้รู้ว่าเธอเป็นเจ้าของร้านเหล้าเล็กๆ ใกล้กับที่พักของผม ส่วนตัวเธอเองนั้นเล่นกีตาร์ขับกล่อมนักเดินทางที่ต้องมาพักในมะละกา เมืองมรดกโลก

KONICA MINOLTA DIGITAL CAMERA

นักเขียนกลับไปที่พัก พูดคุยกับคนรัก อ้างเหตุผลในการขออยู่ต่อเพื่อเขียนหนังสือ คนรักก็ใจกว้างกว่าแม่น้ำที่เรือข้ามไปไม่ถึง บอกไม่เป็นไร

ความเศร้าจู่โจมหัวใจเข้ามาพร้อมๆ กับความยินดีปรีดา มันอาจจะเป็นการยืดความรักที่แคบลงทุกวันของเราก็ได้ ประสบการณ์หนึ่งสอนเขาว่า การตัดสินใจผิดเพียงครั้งเดียว ก็อาจทำให้ชีวิตดีๆ ล่มสลาย

เขาชวนเธอออกไปเดินเล่นเลียบทะเล เดินไกลออกไปจากเมือง เขากลับพบอีกย่านหนึ่งของมะละกา ตึกเก่าๆ เงียบเหงา มีคนยืนอ่านหนังสือพิมพ์ริมรั้ว ที่ท่าเรือร้างไร้ผู้คนเดินทาง มองลงไปในน้ำ เห็นปลาตีนดิ้นกระแด่วๆ

ประวัติศาสตร์อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว ช่องแคบมะละกา เต็มไปด้วยโคลน วังเวงในทิวทัศน์ยามเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า นักเขียนเผลอรำพึง…

มะละกาของข้า…เจ้าหญิงที่ซ่อนตัวอยู่ในปราสาท ไม่เห็นเดือน ไม่เห็นตะวัน ไม่เห็นปฏิทิน วันเคลื่อน เดือนเคลื่อน ปีเคลื่อน ไม่เคยได้รับรู้โลกภายนอก แล้วภาพหนึ่งก็แวบเข้ามาขณะนักเขียนหลับตาลง เขาเห็นเปียโนกำลังหล่นลงไปในทะเล มีเสียงบรรเลงเพลงโดยไม่มีมือใครพรมลงบนเปียโน

ขณะที่นักเขียนขึ้นไปบนหอสูงที่เป็นจุดชมวิว เพื่อชมวิวเมืองในมุมกว้าง เธอก็นั่งรอข้างล่าง ด้วยเหตุผลเธอกลัวความสูง พอลงมาถึงพื้น มะละกาก็เข้าสู่ยามค่ำคืน

melaka_malaysia01

รถโดยสารนำเที่ยวรอบเมือง จอดรอนักท่องเที่ยว ที่ทยอยกันเดินขึ้นมาบนรถ เขาเดินขึ้นไปชั้นสองของรถ ไปนั่งลงตรงเก้าอี้ท้ายสุด นั่งชิดกันฟังความเงียบพูดคุย ความรู้สึกเศร้าบางอย่างยังตามมาติดๆ

คู่รักคู่หนึ่ง หญิงสาวนั่งเอาศีรษะซบไหล่คนรัก คงไม่ใช่เป็นนัยถึงการเดินทางที่แสนเหนื่อยหรอก ทั้งสองคงกระชับพื้นที่หัวใจสองดวงให้แน่นแฟ้นขึ้น ไม่มีใครจะเข้าอกเข้าใจกันได้ดีกว่าการเดินทางด้วยกัน แก้ปัญหาด้วยกัน

แสงจากเสาไฟฟ้าสาดเข้ามาทางหน้าต่าง เธอหลับแล้ว แต่เขายังนอนลืมตามองเพดานครุ่นคิด เขาไม่จำเป็นต้องท่องคาถาเพื่อหายตัวไปในขณะนี้ เพียงแค่ย่องเงียบๆ เปิดประตูเบาๆ แล้วเดินออกไปสู่ถนน เพียงแค่ไม่กี่ช่วงตึกเก่าก็จะถึงร้านเหล้าเล็กๆ นั้น

เสียงเล่นกีตาร์เบาๆ ของนักเดินทาง แว่วดังจากชั้นล่างมาสู่ห้องนอน เขานึกถึงตัวละครนักเขียนที่วางโครงไว้ เรื่องแต่งมันสนุกยังงี้แหละ คาดเดาไม่ได้ ยิ่งเป็นตัวละครที่หายตัวได้ ไปไหนก็สะดวก ไม่ต้องมีความสมจริงกันล่ะ ยิ่งมีวิชาละครใบ้ติดตัว แถมเล่นวิทยากลเป็นอีก คงไม่อดตาย

melaka_malaysia05

จากมะละกานักเขียนคิดไว้แล้วว่า จะให้ตัวละครไปโผล่แถวชายแดนจีน-เวียดนาม เป็นการเดินทางไปตามหากล้องที่โดนฉกไปที่ลาวไก

แล้วเขาก็หลับตาลง นับลูกแกะกระโดดข้ามรั้ว

 

ตีพิมพ์ครั้งแรก นิตยสาร WAY ฉบับที่ 36 ปี 2010

 

Author

WAY

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า