เรื่อง: พีระพัฒน์ สวัสดิรักษ์
หลังการโหวต Brexit สหราชอาณาจักรได้รับฉันทามติจากประชาชนให้ออกจากสหภาพยุโรปมากว่าหนึ่งปีแล้ว ชาวยุโรปบางประเทศต่างเย้ยหยันว่าการตัดสินใจดังกล่าวทำให้อังกฤษเป็นชาติเดียวดาย กลายเป็นเกาะที่แสนโดดเดี่ยว
แต่ความจริง ความเหงาเดียวดายของอังกฤษไม่ได้เริ่มจาก Brexit เพราะสังคมอังกฤษมีปัญหาตึงเครียดเกี่ยวกับความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาเป็นทุนเดิม
คณะกรรมการความเหงาของ Jo Cox Commission on Loneliness ของอดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานผู้ล่วงลับ โจ คอกซ์ (Joe Cox) เปิดเผยรายงานของ The Co-op and the British Red Cross ว่า ประชากรกว่า 9 ล้านคนในประเทศมีความรู้สึก ‘เหงา’ อยู่บ่อยๆ บางคนถึงขั้น ‘เหงาตลอดเวลา’
ประเด็นไม่ใช่เรื่องเล็ก นายกรัฐมนตรีเทรีซา เมย์ (Theresa May) ออกคำสั่งให้มีตำแหน่ง ‘รัฐมนตรีกระทรวงความเหงา’ (Minister for Loneliness) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา “สำหรับคนจำนวนมาก ความเหงาเป็นความจริงที่น่าเศร้าของผู้คนสมัยใหม่” เมย์กล่าวในแถลงการณ์
“ฉันต้องการเผชิญหน้ากับความท้าทายในสังคมของพวกเรา และโดยเฉพาะกับทุกคนที่กำลังทำอะไรบางอย่างเพื่อขจัดปัญหาความเหงาที่ผู้สูงอายุ ผู้ดูแล และผู้ที่สูญเสียคนรักกำลังประสบอยู่ – รวมทั้งคนที่ไม่มีใครให้คุยหรือไม่มีใครให้แบ่งปันความคิดและเรื่องราวต่างๆ”
กระทรวงความเหงาที่ว่านี้จะมี เทรซีย์ เคราช์ (Tracy Crouch) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬาและประชาสังคม ข้ามาเป็นหัวหน้าทีมรับมือความเหงาโดดเดี่ยวตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งจากข้อมูลของรัฐบาล ผู้สูงอายุประมาณ 200,000 คนไม่เคยสนทนากับเพื่อนหรือญาติๆ เลยนานกว่าหนึ่งเดือน
มาร์ค โรบินสัน (Mark Robinson) เจ้าหน้าที่จาก Age UK Barnet องค์กรการกุศลที่ทำงานกับผู้สูงอายุที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร กล่าวเตือนว่า ปัญหานี้สามารถฆ่าคนได้
“มันพิสูจน์แล้วว่าความย่ำแย่สำหรับปัญหาสุขภาพคือคนเหงาที่สูบบุหรี่มากกว่า 15 มวนต่อวัน”
เบรนแดน คอกซ์ (Brendan Cox) สามีหม้ายของอดีตรัฐมนตรีผู้ถูกฆาตกรรมโดยกลุ่มคลั่งผิวข่าวเมื่อปี 2016 และน้องสาว คิม ลีดบีเทอร์ (Kim Leadbeater) คือแกนนำในการขับเคลื่อนภารกิจของคณะกรรมการความเหงา โจ คอกซ์ ซึ่งมีแนวคิดหลักให้คนกำจัดความเหงาด้วยการเริ่มสนทนากัน ‘Start a Conversation’ และ #happytochat
สำหรับหน้าที่ของกระทรวงที่ทำงานร่วมกับคณะกรรมการความเหงาคือ การส่งอาสาสมัครออกไปเริ่มสนทนา ทั้งกับผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ ผู้อพยพ และชุมชนต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือ
นายกรัฐมนตรีเมย์กล่าวว่า “โจ คอกซ์ รับรู้ถึงขนาดของความโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาทั่วประเทศ และเธอได้อุทิศตัวทำงานทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญปัญหานี้”
เมย์เสริมอีกว่า เป็นเรื่องดีที่รัฐบาลได้สานงานที่ โจ คอกซ์ เริ่มไว้ กับกระทรวงความเหงา ที่จะทำงานร่วมกับคณะกรรมการ องค์กรธุรกิจ และองค์การกุศล เพื่อให้รัฐบาลวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อรับมือเรื่องนี้ได้เป็นครั้งแรก
คุณจะช่วยเหลือวัยรุ่นขี้เหงาได้อย่างไร
– เอื้อมมือออกไป เตรียมพบปะตัวต่อตัวหรือพูดคุยทางโทรศัพท์
– กระตุ้นให้ผู้คนพูดคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาตัวต่อตัวอย่างสั้นๆ หรือเข้าร่วมการสนทนาแบบออนไลน์
– เสนอตัวเข้าไปในชั้นเรียนหรือทำกิจกรรมกลุ่มกับพวกเขา
– แนะนำให้พวกเขาเยียวยาด้วยการพูดคุยในชุมชนเล็กๆ ของตัวเอง เพื่อช่วยในการจัดการผลกระทบด้านสุขภาพจิตและความเหงา หรือแนะนำให้สนับสนุนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง elefriends.org.uk
– ฟัง เพราะคนเราสามารถรู้สึกเหงาได้แม้ว่าพวกเขามีวิถีชีวิตที่วุ่นวายและถูกเติมเต็มอยู่แล้ว
คุณจะช่วยเหลือผู้สูงอายุขี้เหงาได้อย่างไร
– เริ่มต้นการสนทนา พูดคุยและหยุด พูดคุยและหยุด อย่ารีบร้อน
– เสนอความช่วยเหลือด้านการปฏิบัติกิจกรรม เช่น ช็อปปิ้ง ส่งจดหมายหากัน การรับใบสั่งยา หรือเดินเล่นกับสุนัขของพวกเขา
– เสนอตัวไปทำธุระเป็นเพื่อน ทั้งนัดพบแพทย์ ไปห้องสมุด ไปร้านทำผม หรือไปโบสถ์
– แบ่งปันเวลาของคุณเป็นอาสาสมัครกับองค์กรที่บริการจับคู่กับผู้สูงอายุ โดยเยี่ยมบ้านของพวกเขาหรือโทรศัพท์คุยกัน
– ช่วยเหลืองานบ้าน เสนอตัวนำขยะออกไปทิ้ง เปลี่ยนหลอดไฟ กวาดหิมะหน้าบ้าน หรือทำรูปติดผนังบ้าน
– รับประทานอาหารร่วมกัน ตักอาหารจานร้อนๆ ที่ปรุงร่วมกันภายในบ้าน
แครอล เจนกินส์ (Carol Jenkins) อายุ 64 ปี พยาบาลเกษียณจากเบิร์คเชียร์ (Berkshire) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ กล่าวว่า เธอเริ่มรู้สึกเหงาเมื่อลูกชายย้ายไปต่างประเทศ และเธอต้องไปอยู่บ้านหลังเล็กๆ
“ที่ย้ายก็ใช้เรื่องการเงินเป็นเครื่องมือตัดสินใจ และฉันไม่ได้เป็นคนที่มีความเป็นมิตรพอจะหาเพื่อนใหม่ได้”
เจนกินส์เล่าว่า “แต่ละเดือนผ่านไป โดยปราศจากการเฝ้ามองจากเพื่อนและครอบครัว ฉันรู้สึกหดหู่และโดดเดี่ยวจริงๆ”
เธอเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเฟซบุ๊คสำหรับชาวอังกฤษที่ได้รับผลกระทบจากความเหงา ซึ่งเธอบอกว่ามันช่วยให้เธอออกจากบ้านได้มากขึ้น
“มันไม่ใช่แค่เรื่องการพบปะผู้คนบนอินเทอร์เน็ตและการสร้างเพื่อนใหม่เท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและชี้แนะแนวทางในการจัดการกับปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ด้วย” และเธอยังรู้สึกประหลาดใจว่าในกลุ่มนี้มีคนหนุ่มสาวมากมายหลายคนเข้ามาร่วมด้วย
“มีนักศึกษาจำนวนมากที่ขังตัวเองอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเป็นวันๆ เพียงเพราะเขารู้สึกว่าถูกปฏิเสธและไม่เหมาะสมกับสังคม”
มันเป็นแค่เรื่องของเวลา ก่อนที่ความเหงาจะกลายเป็นภาวะซึมเศร้า และนั่นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก