ตามที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก – Free YOUTH ประกาศนัดชุมนุมครั้งสำคัญในวันที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำให้ฝ่ายรัฐเตรียมกำลังรับมืออย่างแน่นหนา เนื่องจากจุดยุทธศาสตร์ของการชุมนุมครั้งนี้คือการเคลื่อนพลไปยังพระบรมมหาราชวัง อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้มีการเผยแพร่คลิปเสียงที่ระบุว่า ฝ่ายเจ้าหน้าที่เตรียมบังคับใช้กฎหมายเพื่อเอาผิดผู้ชุมนุม ทั้งมาตรา 112 หมิ่นสถาบัน มาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น และมาตรา 113 ข้อหากบฏล้มล้างการปกครอง
ทั้งนี้ กลุ่มเยาวชนปลดแอกมีข้อเรียกร้องหลัก 3 ข้อ ได้แก่
- พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข
- ลดงบสถาบัน และงบกองทัพ เพื่อเอามาใช้จัดการเรื่องโควิด
- นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลัก
คืนก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงทั้งตู้คอนเทนเนอร์ แผงเหล็ก และรั้วลวดหนาม วางสกัดกั้นไว้ทั้งที่บริเวณถนนราชดำเนินใน หน้าศาลฎีกา และภายในท้องสนามหลวง ต่อมาในช่วงเช้าได้ปรากฏป้ายข้อความขนาดใหญ่บนตู้คอนเทนเนอร์ถนนราชดำเนินในว่า “ทหารของพระราชา และตำรวจของประชาชน (คนดี) รวมพลัง พร้อมปกป้องรักษา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่สำคัญ” ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของฝ่ายใด
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่นาทีก่อนถึงเวลานัดหมายจริง กลุ่มเยาวชนปลดแอกก็ได้ประกาศผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ โดยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นการบุกทำเนียบรัฐบาลแทน และถัดมาได้มีการประกาศอีกว่า จะมุ่งหน้าไปยังกรมทหารราบที่ 1 หรือบ้านพักของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นไปตามยุทธการ ‘แกงหม้อใหญ่’ ที่ถูกนำมาใช้อยู่บ่อยครั้ง
WAY ประมวลเหตุการณ์สำคัญของ #ม็อบ7สิงหา เพื่อบันทึกไว้ ณ ที่นี้อีกครั้ง
12.30 น. บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ใกล้สี่แยกคอกวัว เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตั้งแถวเรียงหน้ากระดานเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมประกาศเตือนประชาชนที่จะมาชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าวให้เดินทางกลับบ้าน
12.40 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศเปลี่ยนสถานที่ชุมนุมเป็นบริเวณทำเนียบรัฐบาล
13.05 น. เจ้าหน้าที่นำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีชายสวมเสื้อสีส้ม คาดว่าเป็นผู้ชุมนุม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว
13.30 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศรวมตัวที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเคลื่อนไปกรมทหารราบที่ 1 (บ้านพัก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา)
14.55 น. เริ่มเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปกรมทหารราบที่ 1
15.20 น. เจ้าหน้าที่ระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่ขบวนผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดง ขณะเดียวกัน มีการนำตู้คอนเทนเนอร์มาปิดกั้นทางลงอุโมงค์ที่สามเหลี่ยมดินแดง เพื่อสกัดม็อบที่กำลังเคลื่อนขบวนไปยังกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภ รักษาพระองค์
15.30 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานข้อมูล ณ เวลา 15.00 น. พบว่ามีนักกิจกรรมและประชาชนถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไปแล้วไม่น้อยกว่า 13 ราย ประกอบด้วย สมาชิกกลุ่มการ์ด Wevo 8 ราย ถูกควบคุมตัวโดยไม่มีหมายจับและหมายค้น บริเวณหลังวัดชนะสงครามและอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและถนนราชดำเนิน อย่างน้อย 4 ราย และ แซม ซาแมท หรือ ‘อาร์ท’ ชายไร้สัญชาติ ถูกจับกุมตัวบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง
17.20 น. เจ้าหน้าที่ประกาศแจ้งผู้ชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ว่าจะมีการฉีดน้ำผสมแก๊สน้ำตา จากนั้นนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้ากระชับพื้นที่ พร้อมระดมยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง
17.25 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยกลับไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ คฝ. ซ่อนตัวอยู่ในตึก King Power ซอยรางน้ำ
17.30 น. เจ้าหน้าที่ประกาศให้มีการยุติการชุมนุม มิเช่นนั้นจะเข้าทำการสลายการชุมนุม พร้อมประกาศเดินหน้าเต็มกำลังเพื่อยึดคืนพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงที่มีผู้ร่วมชุมนุมปักหลักอยู่เป็นจำนวนมาก
17.40 น. ภายหลังเจ้าหน้าที่เดินเข้าประชิดและผลักดันอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลชนค่อยๆ ถอยร่นกลับไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นกลุ่มเยาวชนปลดแอกจึงประกาศยุติการชุมนุม และขอให้มวลชนติดตามการนัดหมายครั้งถัดไป เพื่อขับไล่พลเอกประยุทธ์พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อันเนื่องจากการบริหารจัดการสถานการณ์โรคระบาดที่ผิดพลาดล้มเหลวมาโดยตลอด
17.50 น. สถานการณ์ยังไม่ยุติโดยง่าย เจ้าหน้าที่ยังคงระดมยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงสู้ไม่ถอย แม้ว่ากลุ่มเยาวชนปลดแอกจะมีการประกาศยุติการชุมนุมแล้วก็ตาม
เมื่อเจ้าหน้าที่ คฝ. รุกไล่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ชุมนุมถอยร่นมาจนถึงซอยรางน้ำท่ามกลางความมืดและบรรยากาศตึงเครียด จวบจนกระทั่งเวลา 21.30 น. เจ้าหน้าที่จึงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขอให้แยกย้ายกลับบ้านได้แล้ว โดยฝ่ายเจ้าหน้าที่เองได้ทยอยขึ้นรถบัสกลับ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมจึงค่อยๆ สลายตัวในที่สุด