ในความเป็นจริง การใช้ Big Data ของเพนตากอนมีไว้เพื่อทำการเฝ้าระวังโซเชียลมีเดีย ทำนายและเตรียมรับมือเหตุรุนแรง การก่อการร้าย และการก่อความไม่สงบในพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะตะวันออกกลาง แต่สิ่งที่ นาฟีซ อาเหม็ด (Nafeez Ahmed) รายงานกับ Motherboard ในเดือนตุลาคม 2018 กลับไม่เป็นเช่นนั้น จากการรวบรวมข่าวสาร งานวิจัย เอกสารทางราชการ และการจดลิขสิทธิ์ เขาพบว่า เพนตากอนกำลังใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสำรวจว่า กำลังจะมีการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเกิดขึ้นที่จุดไหนในประเทศ
งานศึกษาที่ชื่อ ‘Social Network Structure as a Predictor of Social Behavior: The Case of Protest in the 2016 US Presidential Election’ ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก US Army Research Laboratory (ARL) แสดงให้เห็นถึงการใช้โซเชียลมีเดียกับการชุมนุมต่อต้าน โดนัลด์ ทรัมป์ หลังเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ซึ่งรายงานชิ้นนี้ระบุว่า ข้อมูลการประท้วงหลังเลือกตั้ง โดยเฉพาะการโพสต์ทวิตเตอร์ของอเมริกันชน สามารถนำมาใช้เพื่อพยากรณ์การประท้วงในอนาคตได้
“เหตุความไม่สงบมีความสัมพันธ์กับกระแสและความเฉียบพลันของกิจกรรมในโซเชียลมีเดีย และปรากฏการณ์เหล่านี้อาจนำไปใช้เพื่อพยากรณ์การประท้วงได้” และรายงานยังบอกเพิ่มเติมถึงผลที่ตามมาอีกว่า “ความล้มเหลวของการพยากรณ์การประท้วงที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน จะทำให้เกิดการบาดเจ็บและความเสียหาย”
อาเหม็ดสรุปความจากข้อมูลนี้ว่า “การค้นพบครั้งสำคัญนี้หมายความว่า การสอดส่องพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของชาวอเมริกันอย่างกว้างขวางแบบเรียลไทม์ สามารถนำไปใช้พยากรณ์การชุมนุมประท้วงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้” อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ของอาเหม็ดก็ยังให้รายละเอียดว่า ในรูปแบบปัจจุบัน ซอฟต์แวร์ที่ใช้ติดตามผู้ใช้โซเชียลมีเดียยังไม่มีความแม่นยำเพียงพอ
มีรายงานถึงเอกสารทางการที่พุ่งเป้าไปยังการสอดแนมภายในประเทศ รวมถึงเพิ่มหลักการใหม่เข้าไปใน ‘ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ’ โดยคณะเสนาธิการร่วม (US Joint Chiefs of Staff) ในเดือนเมษายน 2018 ซึ่งอาเหม็ดบอกว่า มัน “เน้นย้ำขอบเขตการบริหารของรัฐบาลทรัมป์ ที่ต้องการรวมการรักษาความมั่นคงและกลาโหมไปอยู่ภายใต้ขอบเขตอำนาจของเพนตากอน”
อ้างอิงจากเอกสารนี้ กระทรวงกลาโหมต้องลงมามีบทบาทและเป็นศูนย์กลางในเกม รวมทั้งกิจการส่วนใหญ่ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ “โดยการเชื่อมต่อกระทรวงความความมั่นคงฯ เข้ากับกลาโหมอย่างแยกไม่ออก” ซึ่งในเวลาต่อมาถูกกำหนดให้เป็นหน้าที่ของกองทัพ คือสิ่งที่อาเหม็ดเรียกว่า เป็นการจัดตั้งการสนับสนุนปฏิบัติการด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิอย่างไม่มีที่สิ้นสุดของเพนตากอน ซึ่งรวมไปถึงปฏิบัติการต่อเหตุการณ์ประท้วงภายในประเทศ “นี่เป็นครั้งแรกที่การจลาจลถูกอธิบายด้วยถ้อยคำของ ‘ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ’ ”
รายงานของอาเหม็ดนั้นรวมถึงการสอบสวนการจดสิทธิบัตร 2 ชิ้นในปี 2013 ชิ้นแรกถูกรับรองในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เป็นเรื่องของระบบติดตามและพยากรณ์กิจกรรมทางการเมือง โดยใช้สัญญาณที่ได้จากโซเชียลมีเดีย และชิ้นที่สอง มีบางส่วนได้รับรองในเดือนตุลาคม 2017 คือเทคโนโลยีที่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ควิเคราะห์คาดการณ์ตำแหน่งของผู้ใช้โซเชียลมีเดีย “ที่สำคัญ เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นในยุครัฐบาลโอบามา” อาเหม็ดบอก และ “ดูเหมือนว่า การใช้งานของมันกำลังถูกเร่งขึ้นในรัฐบาลของทรัมป์”
| อ้างอิงข้อมูลจาก: projectcensored.org |
Author
Author
