หลังยื้อมานานกรณี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ครอบครองนาฬิกาหรู 25 เรือน โดยไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ (27 ธันวาคม 2561) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการประชุมพิจารณาเรื่องดังกล่าว ก่อนที่ นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะออกมาแถลงว่า ป.ป.ช. มีมติ 5 ต่อ 3 ให้ตีตกเรื่องนี้ไป โดยพลตำรวจเอกวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ขอถอนตัวจากการพิจารณาครั้งนี้
คณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ผ่านมาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้แชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อ ป.ป.ช. แล้ว 4 ครั้ง โดยระบุว่า นาฬิกาทั้ง 22 เรือน ยืมมาจาก นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตน ก่อนคืนให้กับเจ้าตัวหมดแล้ว ส่วนแหวนเป็นของมรดกจากบิดามารดามอบให้ระหว่างดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม โดยแหวนบางวงเป็นเพียงแหวนรุ่น แหวนมงคล และมีราคาไม่สูงมาก
ป.ป.ช. ได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องและขอเอกสารจากผู้แทนจำหน่วยนาฬิกาหรูในประเทศไทย รวมทั้งขอเอกสารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง คือ กรมศุลกากร และกระทรวงการต่างประเทศ แล้วพบว่า นาฬิกาเป็นของ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ จริง และพบด้วยว่านายปัฐวาทเป็นนักธุรกิจที่มีทรัพย์สินจำนวนมาก รวมทั้งชอบสะสมนาฬิการาคาแพง อีกทั้งชอบช่วยเหลือเพื่อนทั้งการเงิน รวมทั้งให้เพื่อนยืมนาฬิกาไปใส่ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นมี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รวมอยู่ด้วย
สำนักข่าวมติชนรายงานว่า การพิจารณานาฬิกา 25 เรือนที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นพบว่า มีภาพซ้ำกัน 3 คู่ จึงมีข้อสรุปว่าต้องตรวจสอบเฉพาะ 22 เรือนเท่านั้น ซึ่งในนั้น 20 เรือนอยู่ในบ้านของ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ และพบใบรับประกันนาฬิกาอีก 1 เรือน แต่ไม่พบตัวเรือน รวมเป็น 21 เรือน
รายงานดังกล่าวระบุด้วยว่า นาฬิกาจำนวน 21 เรือนดังกล่าวพบหลักฐานว่า นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ เป็นผู้ซื้อจากผู้จำหน่ายในต่างประเทศจำนวน 1 เรือน ซื้อต่อจากผู้อื่นจำนวน 2 เรือน ส่วนที่เหลือไม่พบหลักฐานการซื้อจากผู้จัดจำหน่ายภายในประเทศ และกรมศุลกากรก็ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันการนำเข้านาฬิกาจากต่างประเทศได้ เพราะผู้นำเข้าบางรายไม่สำแดงข้อมูลรายละเอียดของนาฬิกา ส่วนการขอข้อมูลการซื้อขายนาฬิกาจากต่างประเทศนั้น บางประเทศได้ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล รวมทั้งบางประเทศตอบว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานฟังได้ว่านาฬิกาที่ปรากฏเป็นข่าวเก็บรักษาอยู่ในบ้านของ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ และเป็นส่วนหนึ่งของนาฬิการาคาแพงที่ นายปัฐวาท สุขศรีวงศ์ ได้สะสมไว้
ส่วนกรณีแหวนทั้ง 12 วงนั้น ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า แหวนจำนวน 3 วงเป็นมรดกของบิดามารดาที่ได้รับขณะดำรงตำแหน่ง ส่วนที่เหลือเป็นเพียงแหวนสัญลักษณ์ของหน่วยทหาร และแหวนมงคลเท่านั้น จึงไม่ต้องแสดงในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องยื่นต่อ ป.ป.ช.
ที่สุดแล้วจากการพิจารณาทั้งหมดจึงมีมติ 5 ต่อ 3 ระบุมีข้อมูลไม่เพียงพอว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงแต่อย่างใด
Author
