เรื่อง: TikTok
ภาพประกอบ: antizeptic
ทำไมการจากไปของ จงฮยอน SHINee จึงเป็นความเจ็บปวดครั้งสำคัญสำหรับวงการเคป็อป
จงฮยอนตายแล้ว
“ใครนะ?”
“จงฮยอน SHINee ไง”
“ใครวะ?”
“แล้วทำไมต้องร้องไห้นี่”
ทำไมต้องอิน ทำไมต้องร้องไห้ ทำไมต้องทวีตเสียใจ ทำไมต้องโพสต์คลิปไว้อาลัยเขาขนาดนั้น?
หลากหลายคำถามโผล่เข้ามาหน้าไทม์ไลน์และนิวฟีดส์ในโซเชียลมีเดีย พอๆ กับที่มีหลายคอมเมนต์ร่วมให้กำลังใจ เมื่อคืนเหมือนเกิดปรากฏการณ์อะไรบางอย่างทางโซเชียลของพวกแฟนด้อมอย่างเว่อร์วัง แฟนด้อมทุกแฟนด้อมร่วมใจกันไว้อาลัยให้กับ จงฮยอน นักร้องนำวง SHINee ขณะที่คนนอกวงการติ่งหลายคนอาจคิดในใจว่า “ใครวะ?” แต่ติ่งเกาหลีทั่วทุกสารทิศดูจะอินเว่อร์ๆ …ทำไมการจากไปของผู้ชายวัย 27 ปีคนนี้ถึงได้ดูสลักสำคัญสำหรับพวกแฟนเกาหลีนักนะ
…แถมดูเหมือนสื่ออื่นๆ ที่ไม่ใช่แฟนคลับก็ให้ความสำคัญไปด้วยสิ
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เราล้วนเติบโตมากับ SHINee
จงฮยอนเป็นนักร้องนำของวง SHINee บอยแบนด์จากเกาหลีใต้สังกัดค่าย SM Entertainment ที่เดบิวต์ในปี 2008 ปีเดียวกันนั้นเองเป็นปีที่เคป็อปเริ่มได้รับความนิยมในวงกว้าง (อาจต้องยกเครดิตให้เพลง ‘Nobody’ ของ Wonder Girls ที่ออกมาปีนั้น) SHINee เดบิวต์เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2008 ด้วยภาพลักษณ์เด็กหนุ่มแสนสดใสกับเพลงเกี้ยวสาวรุ่นพี่ อย่าง ‘Replay (Noona Is So Pretty)’ ทักษะการร้องและการเต้นที่โดดเด่น เพลงน่ารักสมวัย บวกกับสไตล์แฟชั่นมีเอกลักษณ์ ทำให้พวกเขาปักหมุดหมายปีแรกในวงการเคป็อปได้อย่างมั่นคงแข็งแรง
2008 – 2010 กระแสเคป็อปเริ่มโหมกระหน่ำไปทั่วโลก แต่ก็ยังไม่ร้อนแรงเท่าช่วงต้นยุค 2010s ที่เคป็อปสร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์ไวรัลจากเพลง ‘Gangnam Style’ ของ PSY ช่วงนี้เป็นช่วงที่สมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียเริ่มเข้ามามีบทบาท เปลี่ยนโฉมการเสพและเชียร์เพลงของเหล่าแฟนคลับ SHINee ที่อยู่ร่วมและเติบโตในยุคสมัยนี้ พวกเขาปล่อยเพลงฮิตๆ ออกมาจำนวนหนึ่งตั้งแต่ปีที่เดบิวต์ ไล่ตั้งแต่ ‘Replay’ (เพลงเปิดตัว), ‘Lucifer’, ‘Sherlock’ ไปถึง ‘Ring Ding Dong’ ที่ดังมากๆ พร้อมกับเริ่มโปรโมทเพลงในญี่ปุ่น และกลายเป็นศิลปินต่างชาติที่ได้รับการตอบรับจากแฟนญี่ปุ่นอย่างดีมาก ในช่วงต้นจนถึงกลาง 2010s นี้ (2011-2015) SHINee กลายเป็นวงเคป็อปที่ออกผลงานอย่างสม่ำเสมอ อาจไม่ถึงขั้นต้นปีออกอัลบั้มที ปลายปีออกอัลบั้มที แต่ถือว่าไม่ว่างเว้น สำหรับแฟนเพลงหน้าใหม่ที่หันมาหลงใหลและติดตามเคป็อปในช่วง 2011 – 2015 จึงคุ้นเคยกับผลงานและข่าวคราวของ SHINee ไปโดยปริยาย
นั่นทำให้, ไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับของวงหรือไม่ แต่ทุกคนก็ล้วนรู้สึกผูกพันและเสมือนเติบโตมาด้วยกันกับ SHINee
ความกดดันอันแสนเจ็บปวดของคนวงใน
ถ้าใครเสพเคป็อปมาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 2000s จนมาถึงปัจจุบัน จะพบว่าการแข่งขันในวงการเคป็อปดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2008 ที่วงดงบังชินกิ (TVXQ!) ออกอัลบั้ม Mirotic และมียอดขายทะลุ 500,000 อัลบั้มนั่นก็นับว่าเยอะจนน่าตกใจแล้ว แต่หลังช่วง 2013 เป็นต้นมา ยอดขายทะลุ 500,000 กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้บ่อยครั้งขึ้นในหมู่วงไอดอลที่ได้รับความนิยม ซึ่งยอดขายนี้มีผลต่อรางวัลในเวทีใหญ่ปลายปีอยู่ไม่น้อย ด้านรายการเพลงรายสัปดาห์ ก็นับว่ามีการแข่งขันด้านยอดดิจิตอลที่สูง แถมบางรายการยังพ่วงยอดโหวตและพึ่งพากระแสที่ถูกพูดถึงในโซเชียลมีเดียอีก ดูเหมือนว่า ในการที่วงหรือศิลปินหนึ่งๆ จะพาตัวเองเข้าสู่การเป็นอันดับหนึ่งในชาร์ตสัปดาห์นั้น ดูไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
SHINee ก็อยู่ร่วมและเติบโตมาในยุคนี้ เมื่อปล่อยผลงานเพลงออกมา ก็ต้องขึ้นโปรโมทในรายการเพลง ถ้าได้รางวัลก็รับไป ถ้าไม่ได้ก็ยืนชื่นชมยินดีอยู่ข้างหลัง นั่นเป็นธรรมดาของโลก
ดูเหมือนศิลปินทั้งเก่าและใหม่ที่ก้าวเข้ามาในวงการจะรู้ดีว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญ ความนิยมกับฝีมืออาจไม่จำเป็นต้องไปด้วยกัน ถ้ามันมาพร้อมกันก็ดีไป แต่ถ้าไม่ ก็แค่ต้องยอมรับ จะมีอะไรไปมากกว่านั้นอีกเหรอ
มีสิ วงการเคป็อปไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยแค่ศิลปิน แฟนคลับ และชาร์ตเพลง ยังมีนักข่าว รวมถึงเหล่าชาวเน็ตอันทรงอิทธิพลอีกด้วย (แฟนคลับอาจถือเป็นซับเซตของชาวเน็ต แต่ไม่ใช่ชาวเน็ตทุกคนจะเป็นแฟนคลับ) อาจดูตื้นเขินไปถ้าจะบอกว่าคอมเมนต์ของนักข่าวและชาวเน็ตสร้างแรงกดดันให้กับศิลปิน แต่นั่นแหละ เมื่อผลิตงานออกมาให้สาธารณชนเสพ ทุกศิลปินล้วนต้องคาดหวังคำชม (หรือคำด่าน้อยที่สุด) คนเราล้วนต้องการดอกไม้มากกว่าก้อนหิน โดยเฉพาะในวันที่หัวใจเราอ่อนแอ
ความกดดันอันเจ็บปวดของคนในวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงเสมอมา ถ้าเราไม่เคยสัมผัสหรือรับรู้เอง ความเจ็บปวดนั้นอาจดูเลื่อนลอยจนเราเผลอคิดว่าไม่มีอยู่จริงก็ได้ จนกระทั่งคนในวงการบันเทิงออกมาเปิดเผยเองนั่นแหละ เราถึงจะมองเห็นและสัมผัสได้
เมื่อต้นปีนี้เอง โบอา (Boa) ก็พูดไว้ในรายการ Produce 101 ถึงความกดดันที่คนในวงการบันเทิงต้องเจอ ขณะที่ จีดราก้อน (G. Dragon) แห่งวง Bigbang และ C.L จาก 2NE1 ก็เปิดเผยความเศร้าอันมีที่มาจากความกดดันในวงการบันเทิงผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว นั่นคือตัวอย่างไม่กี่ตัวอย่างที่เผยให้เรารับรู้ แต่อาจมีตัวอย่างอีกจำนวนมากที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้
จงฮยอน SHINee อาจถือเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น
I’m so Lonely
จริงๆ จะพูดว่าจงฮยอนไม่เคยเปิดเผยเรื่องความเจ็บปวดในใจ และเรื่องที่เขามีอาการนอนไม่หลับ รวมถึงภาวะซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal Affective Disorder: SAD) ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะจงฮยอนเคยเปิดเผยมาก่อน เพียงแต่ว่าเวลาที่เขาสื่อสารออกไปนั้น ผู้รับสารอาจไม่ทันได้เฉลียวใจว่าเขาแบกความเจ็บปวดมากมายมหาศาลขนาดนั้นอยู่ภายใน คงเหมือนที่ผู้ป่วยซึมเศร้าว่าไว้…ไม่มาเป็น ไม่เข้าใจหรอก
จงฮยอนตัดสินใจฆ่าตัวตายในวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา และดูเหมือนจะเตรียมการไว้ก่อน เขาแจ้งบริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาล โอนทรัพย์สินให้กับพี่สาว เขาเขียนจดหมายทิ้งท้ายไว้ และขอให้เพื่อนคนสนิทวง Dear Cloud อย่าง Nine9 ช่วยเปิดเผย มันเหมือนจะชัดเจนว่าอะไรทำให้เขาลาโลกไป แต่ขณะเดียวกันมันก็เหมือนจะไม่ชัดเจนเลยด้วยซ้ำ เรารู้ว่าเขาเจ็บปวดกับอะไรสักอย่างจนเกินทานทน เรารู้ว่าเขาอยู่สร้างสรรค์ผลงานตรงนี้เพื่อคนอื่นมากกว่าความสุขของตน แต่เราไม่รู้ว่า อะไรทำให้เขาไม่มีความสุขขนาดนั้น มันเป็นที่อาการของโรค มันเป็นที่ความกดดันของวงการบันเทิงที่โหมกระหน่ำเข้ามา มันเป็นที่คอมเม้นท์โหดร้ายของชาวเน็ตหรือเปล่า
เราไม่รู้อะไรเลย
เรารู้แค่เขาจากไปแล้ว ในวัย 27 ปี
จากไปโดยที่พวกเราไม่ทันตั้งตัวด้วยซ้ำ
ความเจ็บปวดครั้งสำคัญสำหรับวงการเคป็อป
น้ำตาของแฟนคลับที่โหมกระหน่ำนิวฟีดส์โซเชียลมีเดีย อาจดูไม่เมคเซนส์สำหรับใครหลายคน “ทำไมต้องอิน ทำไมต้องร้องไห้ ทำไมต้องทวีตเสียใจ ทำไมต้องโพสต์คลิปไว้อาลัยเขาขนาดนั้น?” คำถามวนเวียนกลับมา แต่อาจมีคำตอบไม่กี่อย่างที่วนเวียนกลับไป
จงฮยอน และ SHINee สำคัญกับวงการเคป็อป เพราะพวกเขาเดบิวต์มาในยุคที่เคป็อปเริ่มได้รับความนิยมไปทั่วโลก ตลอดเก้าปีที่ผ่านมา พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานที่ทำให้ผู้เสพมีความสุขจำนวนมาก และไม่ว่าจะเป็นแฟนคลับวง SHINee หรือไม่ หลายคนล้วนเคยเสพข่าว ได้ยินเพลง SHINee หรือเคยเต้น ‘Ring Ding Dong’ ในคาราโอเกะกันมาบ้างนั่นแหละ
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ผู้คนในโลกสมัยใหม่ที่เสพสื่อและคลุกคลีกับข่าวบันเทิงเกาหลี ล้วนคุ้นเคยกับวง SHINee จนเหมือนพวกเขาเติบโตมากับพวกเรา
เมื่อเขาตัดสินใจลาโลกในวัย 27 ที่กำลังสดสวย
มันจึงเป็นเรื่องเจ็บปวดหัวใจสลาย
และคงไม่มากเกินไป ถ้าจะบอกว่า นี่อาจเป็นความเจ็บปวดครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง ของวงการเคป็อปก็เป็นได้