ที่เวสเทิร์นซิดนีย์ นักเรียนสูบบุหรี่ได้

 

ย้อนกลับไปตอนสมัยกระโปรงบานขาสั้น ช่วงเวลาพักกลางวันทานข้าวหรือพักเบรก ส่วนใหญ่เราทำอะไรบ้าง?

สำหรับเด็กผู้หญิงแล้ว การนั่งเม้ามอยคุยกับเพื่อนอย่างออกรสพลางกินฝรั่งจิ้มพริกเกลือ คือกิจกรรมยอดฮิต

สำหรับเด็กผู้ชายอาจเป็นกิจกรรมเรียกเหงื่อ อย่างเช่น เตะบอล เล่นบาส

แต่ที่เวสเทิร์นซิดนีย์ (Western Sydney) โรงเรียนวอร์ราเคอร์รี (Warrakirri School) หลังมื้อกลางวัน นักเรียนส่วนใหญ่มักสูบบุหรี่ผ่อนคลายอารมณ์

ใช่… อ่านไม่ผิด นักเรียนที่นี่สูบบุหรี่ได้ ทำไมล่ะ

“ที่โรงเรียนเรา คุณจะมาเรียนด้วยผมสีฟ้าพาสเทลหรือเจาะทั้งหน้าก็ได้ และถ้าต้องการสูบบุหรี่ นั่นก็ได้เช่นกัน” แคโรลีน แบลนเดน (Carolyn Blanden) ผู้อำนวยการโรงเรียนวอร์ราเคอร์รี กล่าวกับ Daily Telegraph

โรงเรียนวอร์ราเคอร์รีเป็นโรงเรียนระดับมัธยมของรัฐ โดยนักเรียนมีช่วงอายุอยู่ที่ 15-22 ปี แต่อาจกล่าวได้ว่า นักเรียนที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะทุกคนต่างมีเรื่องราวที่เจ็บปวด นักเรียนที่นี่ล้วนเว้าแหว่งและบิดเบี้ยว

กว่าสองในสามจากนักเรียนทั้งหมดต่างก็เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับจิตเวชทางเด็ก เช่น โรคสมาธิสั้น (ADHD) โรคไบโพลาร์ รวมถึง โรคดื้อและต่อต้าน (Oppositional Defiant Disorder) ยิ่งไปกว่านั้นเด็กบางคนยังต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัวอยู่ตลอดเวลา

อีกทั้งนักเรียนจำนวนมากล้วนเคยเข้าสถานพินิจมาก่อน บ้างก็ถูกไล่ออกจากบ้านหรือผู้ปกครองถูกต้องโทษจำคุกอยู่ เท่ากับว่า พวกเขาถูกปฎิเสธให้เข้าเรียนในโรงเรียนแบบปกติ และถูกปฏิเสธการจ้างงาน

เพราะการศึกษาเป็นสิทธิที่ทุกคนพึงจะได้รับอย่างเท่าเทียม โรงเรียนแห่งนี้ยังยินยอมให้นักเรียนลงวิชาเรียนได้ 3 วิชาต่อปี (โรงเรียนปกติต้องลงเรียน 6 วิชา) เพื่อคงสถานะนักเรียนให้พวกเขาและลดอัตราเด็กออกกลางคันระหว่างเรียน

นอกจากนั้น ยังอนุญาตให้พวกเขาสามารถลุกออกไปเดินเล่นได้ระหว่างเรียน หากพวกเขารู้สึกทนไม่ไหวที่จะนั่งอยู่ในห้องเรียน เพื่อเยียวยาอารมณ์ตนเอง รวมถึงยังออกกฎว่า ‘ห้ามคุณครูแตะตัวเด็ก’ ซึ่งเป็นกฎที่มีการบังคับใช้อย่างเข้มข้นมากที่สุด ยกเว้น ‘กอด’ เพราะการกอด ถือเป็นสัมผัสที่ส่งต่อความรักและความปรารถนาดี

เทย์เลอร์ เกรแฮม (Taylor Graham) เป็นหนึ่งในตัวอย่างของนักเรียนโรงเรียนวอร์ราเคอร์รีที่ติดบุหรี่อย่างหนักหน่วง จนกลายเป็นสาเหตุที่เขาต้องออกจากโรงเรียนเก่ากลางคัน แม้จะเป็นเพียงนักเรียนเกรด 9 ก็ตาม เนื่องจากโรงเรียนดังกล่าวไม่อนุญาตให้นักเรียนสูบบุหรี่ เธอจึงตัดสินใจไม่ไปโรงเรียนและทำให้เวลาเข้าเรียนเฉลี่ยต่ำกว่า 2 เปอร์เซ็นต์

แน่นอนว่า การสูบบุหรี่นั้นไม่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลเสียต่อร่างกายและอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ความยินยอมให้นักเรียนปฏิบัติเช่นนั้นเป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของความพยายามช่วยเหลือและลดอัตราเด็กหายไประหว่างเรียน

เพราะเช่นนั้น ที่นี่จึงไม่ต้องการทิ้งให้พวกเขาเดินอย่างไร้หนทางและไร้เป้าหมาย และหากมองมุมกลับ โรงเรียนดังกล่าวเพียงไม่อยากให้เด็กๆ ต้องล่องลอยอยู่เต็มท้องถนน ไม่มีที่จะไป และวกกลับไปสู่สถานกักกันเยาวชน

“มันดีกว่าการที่เราปล่อยให้พวกเขาใช้ชีวิตอยู่กลางท้องถนน ล่องลอยอย่างไร้เป้าหมาย สิ่งที่เราทำจึงเป็นการช่วยเหลือพวกเขาและลดอัตราเด็กออกกลางคันระหว่างเรียน” แบลนเดน เน้นย้ำเป้าประสงค์ของโรงเรียน


ข้อมูลอ้างอิงจาก: dailytelegraph.com.au

 

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า