งานศึกษาถึงผลกระทบของการได้รับอาหารที่มีน้ำตาลซูโครสหรือน้ำตาลทราย ‘A Sucrose-Enriched Diet Promotes Tumorigenesis in Mammary Gland in Part through the 12-Lipoxygenase Pathway’ โดยทีมศึกษาศูนย์มะเร็ง M. D. Anderson Cancer Center แห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส (University of Texas) ตีพิมพ์ในวารสาร Cancer Research เมื่อเดือนมกราคม 2559 พบว่า น้ำตาลมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดการเจริญและแพร่กระจายเนื้องอกที่จะพัฒนาไปเป็นมะเร็งเต้านมในหนูทดลอง
ตามปกติ น้ำตาลส่วนใหญ่ที่เรารับประทานจะประกอบด้วยน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวอย่างฟรุคโตสและกลูโคสอย่างละครึ่ง จากผลการทดสอบ นักวิจัยชี้ให้เห็นว่าครึ่งที่มีปัญหาของน้ำตาล คือส่วนที่เป็นฟรุคโตส โดยจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้
ถือว่าสอดคล้องกับผลทดสอบในห้องทดลองเมื่อปี 2010 โดยทีมศึกษาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส (University of California – Los Angeles: UCLA) ที่ยืนยันว่า เมื่อเทียบกันระหว่างการเลี้ยงเซลล์มะเร็งตับอ่อนด้วยฟรุคโตสกับกลูโคส เซลล์มะเร็งตับอ่อนที่ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยฟรุคโตสจะเจริญได้ดีกว่า
การค้นพบดังกล่าว ทำให้เกิดสมมุติฐาน ‘fructose hypothesis’ หรือฟรุคโตสอาจเป็นน้ำตาลที่ก่อผลร้ายต่อร่างกายมากกว่าน้ำตาลตัวอื่นๆ โดยผลที่อาจเกิดจากฟรุคโตสมีตั้งแต่ อาการอักเสบ มีผื่นคัน น้ำหนักเกิน ภาวะไขมันพอกตับ เบาหวาน มีผลต่อระดับไขมันในเลือด ไปจนถึงอาการอัลไซเมอร์
กรณีของกลูโคส ซึ่งเป็นน้ำตาลสำคัญที่ร่างกายต้องใช้ตลอดเวลา เราได้กลูโคสจากการรับประทานอาหารประเภทแป้ง หรือแม้แต่ฟรุคโตส ร่างกายก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นกลูโคสได้ อย่างไรก็ตาม เวลาเรารับประทานน้ำตาล เราจะได้รับฟรุคโตสมาด้วยเสมอ ไม่สามารถรับเฉพาะกลูโคสอย่างเดียวได้
ยกตัวอย่างน้ำตาลทราย ปกติจะมีฟรุคโตสและกลูโคสอย่างละ 50:50 ส่วนน้ำเชื่อมข้าวโพด (High-fructose corn syrup: HFCS) ที่มักพบในอาหารผ่านกระบวนการทั้งหลาย จะมีสัดส่วนระหว่างฟรุคโตสและกลูโคสแตกต่างกันไป โดยจะมีตั้งแต่ขนาดใกล้เคียงกันที่ 55:45 ไปจนถึงฟรุคโตสสูงๆ ที่ 90:10
ขณะที่กระบวนการแปลงกลูโคสเป็นพลังงานสามารถเกิดได้ทั่วร่างกาย แต่สำหรับกรณีฟรุคโตส จะเกิดขึ้นผ่านตับเท่านั้น การได้รับฟรุคโตสมากไป จึงส่งผลให้ตับทำงานหนัก และก่อให้เกิดผลเสียตามมา อย่างอาการต่อต้านอินซูลิน ซึ่งอาจพัฒนาไปเป็นเบาหวาน หรืออาการไขมันพอกตับ ซึ่งจะนำไปสู่ตับอักเสบและมะเร็งตับ
ในงานแถลงข่าวผลวิจัย ดร.ลอเรนโซ โคเอน หนึ่งในผู้เขียนรายงานร่วม กล่าวว่า “จากผลการทดสอบ เราพบว่า น้ำตาลฟรุคโตส ทั้งที่อยู่ในน้ำตาลทรายและน้ำเชื่อมข้าวโพด ซึ่งแพร่หลายอยู่ในระบบอาหารของเรา เป็นสาเหตุของมะเร็งปอด (ที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น) และการก่อเนื้องอกบริเวณเต้านม (จากกรด 12-Hydroxyeicosatetraenoic acid หรือ 12-HETE)”
หากร่างกายได้ทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายสม่ำเสมอ อาจยังไม่ถึงเวลากังวลเรื่องผลของฟรุคโตสเท่าไรนัก แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้หาเวลาออกกำลังกาย การพิจารณาลดปริมาณน้ำตาลในแต่ละมื้ออาหาร ทั้งที่เติมเองและไม่ได้เติมเอง อาจจำเป็นต่อสุขภาพในระยะยาว