…ฉันจะเขียนถึงสิ่งไม่มีชื่อเรียก
โดยจะคัดสรรถ้อยคำจากแห่งหนไหนฉันจึงเขียนถึงสิ่งต่างต่าง
ระหว่างกลางของสิ่งที่ไม่มีความหมายเต้นรำรอบรอบสรรพสิ่ง
ซึ่งไม่อาจบรรยายออกมาได้ความรู้สึกซึ่งคล้ายคลึง
กับบางสิ่งที่ระอุอยู่ภายในเราจะพบกัน
ในความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องการความเข้าใจ…
– หน้า 13
ถึง…คุณ
ผมเพิ่งอ่านหนังสือเล่มหนึ่งจบลงไป เป็นหนังสือเล่มบางๆ ที่ชื่อ เงาของเมฆ เขียนโดย มหาสมุทร เลิศฯ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นนามปากกา ผมพอจะรู้ว่านามปากกานั้นเป็นอีกรูปเงาหนึ่งของนักเขียนที่มีอาชีพเป็นเภสัชกรอยู่บนเกาะโอบรอบด้วยมหาสมุทร คงเพราะเหตุนั้น จึงกลายเป็นนามปากกาของเขา
ผมชอบความคิดของคำว่า ‘รูปเงา’ นะ คำคำนี้ประกอบขึ้นจากคำสองคำที่มีความหมายในตัวมันเอง ต่างดำรงอยู่อย่างเอกเทศ ต่างต้องมีซึ่งกันและกัน
เมื่อมีรูปก็ต้องปรากฏซึ่งร่องรอยของเงา
เงาจะไม่ปรากฏ หากปราศจากการขึ้นรูป
เราสองคนก็เหมือนกัน
ความรักก็เหมือนกัน
และนั่นเป็นสิ่งที่ปรากฏใน เงาของเมฆ มหาสมุทร เลิศฯ จัดลักษณะงานเล่มนี้ของเขาไว้ด้วยนิยาม ‘Fiction And Poetry’
‘นิยายและบทกวี’
ทว่าเมื่อหนังสือไปถึงมือคุณ และคุณได้อ่าน คุณจะเห็นว่าการขึ้นรูปของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ประกอบด้วยรูปแบบนิยายอย่างที่คุ้นเคย แต่เป็นการขึ้นรูปรอยด้วยจดหมายของผู้ชายคนหนึ่ง ผู้หญิงอีกคน ที่ถูกคั่นกลางด้วยบทกวี ซึ่งเราอาจจำเป็นต้องอ่านมากกว่าหนึ่งครั้งเพื่อจำแนกเสียงที่แตกต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิง
เราอาจมองเรื่องนี้เป็นได้ทั้งความพลั้งเผลอของคนเขียนและเป็นความจงใจที่ไม่ต้องการให้เสียงที่ปรากฏในบทกวีระบุเพศ
ทำไม? ผมไม่กล้าเดาใจ มหาสมุทร เลิศฯ แต่ผมเชื่อว่าเป็นประการหลัง หากคุณอ่านไปจนถึงช่วงท้ายๆ คุณจะเข้าใจ
ความรักเป็นสิ่งที่เปลี่ยนรูป เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวการณ์ และฤดูกาลที่ผันแปร
ผมยังจำประโยคที่คุณเคยกล่าวไว้ได้ “ฉันรักแค่ในตอนนี้ พรุ่งนี้เป็นเรื่องของพรุ่งนี้ และฉันอาจไม่ได้รักคุณ”
ผมชอบที่ มหาสมุทร เลิศฯ เขียนไว้ในหนังสือว่า
ไม่มีใครอยากแสดงความอ่อนแอต่อหน้าคนรักของตัวเอง แต่เราทุกคนก็อ่อนแอกันทั้งนั้น…
– หน้า 96
ผมแสดงความอ่อนแอให้คุณเห็นบ่อยๆ ซึ่งมันเป็นเรื่องไม่ดี แต่การให้คำสัญญาว่าความอ่อนแอนั้นจะไม่ปรากฏขึ้นอีก ผมก็ไม่กล้าเดาปรากฏการณ์ของเมฆนัก
แดดฤดูร้อนยามสาย พอใกล้ผ่านครึ่งวันก็จะร้อนแทบแผดเผา บางทีตอนเย็นฝนอาจจะตก เพราะเมฆนั้นกักเก็บความเศร้าตลอดทั้งวันมามากพอแล้ว
…คุณชอบฤดูฝน แต่ฉันหลงรักฤดูร้อน เย็นนี้เราจะไม่เห็นเงาของเมฆ และฉันจะมองไม่เห็นคุณ…
– หน้า 124
‘เราจะมองไม่เห็นกัน’