ภาพประกอบ: Shhhh
26 มิถุนายน 2016 กลุ่มนักกิจกรรมราว 300 คนรวมตัวกันชุมนุมที่ซาคราเมนโต แคลิฟอร์เนีย เพื่อต่อต้านกลุ่ม Traditionalist Worker Party กลุ่มชาตินิยมคนขาวซึ่งเป็นแกนนำของนีโอนาซี
การชุมนุมอย่างสงบเริ่มรุนแรงเมื่อนีโอนาซีหนุ่มคนหนึ่งควงกระบองไม้บุกเดี่ยวเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 300 คน อีเวตต์ เฟลาร์ซา (Yvette Felarca) ปรี่ออกไปตะโกน “ไสหัวออกไปจากถนนของพวกเราซะ” (get the fuck off our streets) ก่อนจะสาวหมัดใส่ฝ่ายตรงข้ามซึ่งตัวสูงใหญ่กว่าแบบไม่ยั้ง เขาพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่เมื่อหนึ่งในผู้ชุมนุมพยายามแย่งกระบองไม้จากมือ การจลาจลก็เริ่มขึ้น ชายนีโอนาซีถูกลากไปหมายรุมประชาทัณฑ์ ก่อนตำรวจปราบจลาจลจะเข้ามาระงับเหตุ
เหตุปะทะกันรุนแรงครั้งนั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกฟันแทง 14 คน สองคนมีบาดแผลถูกแทงสาหัส
เฟลาร์ซา วัย 47 ปี ครูโรงเรียนมัธยมในเบิร์คลีย์ แคลิฟอร์เนีย ถูกจับเมื่อเดือนก่อน เธอคือหนึ่งในสมาชิก กลุ่ม By Any Means Necessary (BAMN) เป็นแกนนำระดับไฮโพรไฟล์ และเป็น ‘ขาประจำ’ ยืนแนวหน้าในการประท้วงครั้งใหญ่ๆ หลายครั้ง ทั้ง Black Lives Matters และการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในแคลิฟอร์เนีย
หลังเหตุการณ์ปี 2016 เฟลาร์ซาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “เพราะพวกนั้นจัดตั้งองค์กรเพื่อทำร้ายและฆ่าเรา” และ “ดังนั้นเรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัว นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องพยายามหยุดพวกนั้นให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม” รวมถึงบอกจุดประสงค์ของการชุมนุมว่า เพื่อหยุดพวก “Nazi scum”
หลังการสืบสวนแปดเดือน หลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ใช้คือคลิปวิดีโอที่แสดงภาพเฟลาซาร์ทำร้ายชายคนดังกล่าว ทนายของเธอบอกว่า ทุกคนมีสิทธิ์ป้องกันตัวเอง และคลิปวิดีโอเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และ “ตำรวจยังอนุญาตให้พวกนาซีและกลุ่มสนับสนุนทรัมป์ไล่ตีไล่แทงคนที่ไม่มีอาวุธจนต้องเข้าโรงพยาบาล”
จากการขึ้นศาลครั้งแรกเมื่อต้นเดือนสิงหาคม เฟลาร์ซาถูกแจ้งข้อหามีความผิดอาญาจากการทำร้ายร่างกาย บวกกับข้อหาเล็กๆ อย่างปลุกระดมและมีส่วนในการก่อจลาจล เธอบอกศาลว่า ข้อหาเหล่านี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง และเธอจะไม่หยุดที่จะต่อสู้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ต่อไป “การหยัดยืนต่อต้านฟาสซิสม์และการเติบโตของนีโอนาซีและฟาสซิสม์ในประเทศนี้ไม่ใช่อาชญากรรม” เธอว่า “เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตัวเอง”
คดีครูมัธยมนักประท้วงทำร้ายร่างกายนีโอนาซีนี้จะถูกนำขึ้นพิจารณาในชั้นศาลอีกครั้งวันที่ 4 ตุลาคมนี้
อ้างอิงข้อมูลจาก: huffingtonpost.com
independent.co.uk
theguardian.com
Author
