ปัญหาเชื้อราในต้นกาแฟที่กำลังระบาดในหมู่ประเทศแถบอเมริกากลางทั้งกัวเตมาลา เอล ซาลวาดอร์ ฮอนดูรัส ปานามา คอสตาริกา มาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้น นายโอโต เปเรซ โมลีนา ประธานาธิบดีแห่งกัวเตมาลา ต้องออกมาประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องกาแฟ เพื่อพยุงสถานการณ์ไว้
กาแฟ จัดเป็นหนึ่งในผลผลิตหลักทางการเกษตรที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้แก่ประเทศกัวเตมาลามายาวนาน จนกระทั่งเกิดปัญหาเชื้อราในใบต้นกาแฟ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อทั้งปริมาณและคุณภาพของเมล็ดกาแฟ จนประธานาธิบดีต้องออกนโยบายเพื่อเยียวยาเกษตรกรกว่า 60,000 ราย ใช้เงินกว่า 14 ล้านเหรียญ เพื่อให้เกษตรกรมีทุนไว้ซื้อสารกำจัดศัตรูพืช และสั่งการไปยังหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ลงพื้นที่ไปให้ความรู้วิธีป้องกันและยับยั้งการแพร่กระจายเชื้อราแก่เกษตรกร
นิล เลโพโรวสกี้ ประธานสมาคมกาแฟแห่งกัวเตมาลา เผยว่า “เราปลูกกาแฟทั้งหมด 667,000 เอเคอร์ แต่ตอนนี้เชื้อราระบาดกินพื้นที่ไปแล้วกว่า 477,000 เอเคอร์ เท่ากับ 70 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด”
ธุรกิจกาแฟสร้างงานให้เกษตรกรกัวเตมาลากว่า 500,000 ตำแหน่ง และอีก 700,000 ตำแหน่งในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากเกิดโรคระบาด ทำให้คนตกงานทันทีกว่า 100,000 ราย และผู้ได้รับผลกระทบอีกนับล้าน
อาการของเชื้อราที่กำลังระบาดอยู่นี้ หากสังเกตจะมีจุดสีเหลืองขึ้นที่ใบของต้นกาแฟ ต่อมาจะกลายเป็นสีส้มทั่วทั้งใบ กระทั่งใบของต้นตาย เมื่อต้นกาแฟไม่มีใบที่ใช้หายใจหรือดูดซับอาหาร ในที่สุดก็ยืนต้นตาย ส่วนสาเหตุที่แพร่ระบาดรวดเร็วนั้น ส่วนหนึ่งมาจากอุณหภูมิของแถบอเมริกากลางซึ่งเพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส ทำให้เหมาะแก่การเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ของเชื้อรา
ทั้งนี้ ฮอนดูรัสและคอสตาริกา ก็เพิ่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเรื่องกาแฟไปเมื่อเดือนที่แล้ว ส่วนในปานามา 6 ผู้ผลิตรายใหญ่ของประเทศ เผยว่า ปีนี้ต้นกาแฟราว 60 เปอร์เซ็นต์ เผชิญการระบาดของเชื้อราแล้ว
คาลอล ฟูเอนเตส โฆษกของสมาคมผู้ผลิตกาแฟแห่งจังหวัด ชิริกิ ประเทศปานามา ที่อยู่ติดกับประเทศคอสตาริกา เผยว่าผลผลิตกาแฟต่อพื้นที่ 1 เอเคอร์ลดลง 45 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งชิริกิ เป็นจังหวัดที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในปานามา ทั้งนี้ ฟูเอนเตสก็อยากให้ปานามา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเรื่องกาแฟด้วย
ในเอล ซาลวาดอร์ สภาผู้ผลิตกาแฟแห่งเอล ซาลวาดอร์ แถลงว่า ผลผลิตกาแฟปีนี้ตกต่ำที่สุดในรอบ 30 ปี นอกจากนี้ยังคาดการด้วยว่า ตอนนี้ต้นกาแฟในประเทศติดเชื้อราแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์
ฮอนดูรัส ที่ประกาศภาวะฉุกเฉิกเรื่องกาแฟ ในเดือนมกราคม เพื่อเตรียมแก้ปัญหาเชื้อราและรักษาผลผลิต เพราะกาแฟคือสินค้าส่งออกหลักของฮอนดูรัส ที่ทำยอดขายในปี 2012 ได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์
“จนถึงตอนนี้ เราคาดการณ์กันว่า ผลผลิตราว 10 เปอร์เซ็นต์ติดเชื้อรา” วิคเตอร์ ฮูเกอร์ โมลินา ผู้อำนวยการสถาบันกาแฟแห่งฮอนดูรัส ให้ัข้อมูล
ด้าน เม็กซิโก เพื่อนบ้านกัวเตมาลา เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรรายหนึ่ง เผยว่า พบเชื้อราแล้วแต่ยังไม่สร้างความเสียหายให้ผลผลิต
ทั้งนี้ผู้ผลิตกาแฟในกัวเตมาลา เอล ซาลวาดอร์ ฮอนดูรัสและคอสตาริกา เตรียมหารือเรื่องนี้ โดยจะจัดประชุมวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ ที่ เมืองซาน เปโดร ซูลา ประเทศฮอนดูรัส
…………………………………………..
(ที่มา : สำนักข่าวเอพี)