สืบเนื่องจากเหตุสังหารทูตสหรัฐประจำลิเบียในเบงกาซี หลายฝ่ายออกมายอมรับว่า คลิปวิดีโอ Innocence of Muslims ทั้งหนังตัวอย่างและฉบับเต็ม 14 นาทีจากเว็บไซต์ยูทูบที่เผยแพร่ตั้งแต่ 11 กันยายน 2555 ทำให้โลกมุสลิมรู้สึกถูกคุกคามจริง แต่ไม่น่าจะก่อให้เกิดคลื่นความโกรธแค้นทั่วโลกมุสลิมที่ขยายวงกว้างถึงขนาดนี้
ริชาร์ด พี. มิตเชลล์ อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมิชิแกน วิเคราะห์ถึงผลจากเหตุรุนแรงในครั้งนี้ เขาตั้งข้อสังเกตว่า ใครบางคนไม่อยากให้เรื่องนี้จบลงง่ายๆ
1. การท่องเที่ยวคือรายได้หลักในอียิปต์และตูนิเซีย จากเหตุการณ์ประท้วงนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มดิ่งลงแน่นอน ทั้งที่คาดว่านักท่องเที่ยวจะกลับเข้ามา 7 ล้านคนต่อปี เหมือนในปี 2010 ขณะที่นักท่องเที่ยวอียิปต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ในปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ลดลงเฉลี่ยเดือนละ 300,000 คนตั้งแต่ฤดูร้อนปี 2010
2. การลงทุนจากต่างชาติกำลังมีปัญหา การลุกฮือประท้วงหน้าสถานทูต อาจทำให้นักธุรกิจสหรัฐนับร้อยรายในไคโรที่มองหาโอกาสในการลงทุนต้องเก็บกระเป๋ากลับประเทศ
3. การถดถอยทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและความน่าเชื่อถือของนักลงทุน จะส่งผลให้การเลิกจ้างงานเพิ่มขึ้น ทั้งที่ประเทศก็มีอัตราการว่างงานสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
4. ในอียิปต์และตูนิเซีย รัฐบาลฝ่ายสนับสนุนมุสลิมจะอาศัยเหตุนี้ในการอธิบายต่อสาธารณะ และเมื่อมีการสำรวจความคิดเห็นประชาชน การรักษาความปลอดภัยจากเหตุร้ายจะกลายเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการจากรัฐเป็นอันดับหนึ่ง รองจากการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
5. น่าสนใจที่โลกมุสลิมถูกกระตุ้นด้วยคลิปวิดีโอทั้งตัวอย่างและหนังสั้น 14 นาทีจากเว็บไซต์ยูทูบ แต่ไม่สนใจว่าทุกๆ วัน มีชาวซีเรียกี่คนถูกจับ ถูกฆ่าและทารุณกรรม ในสงครามกลางเมืองที่ไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด
6. การโจมตีสถานทูตสหรัฐในกรุงซานา เยเมน โดยผู้ประท้วง 4,000 คนที่กำลังโกรธจัด ยิ่งทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศมากขึ้น การที่สหรัฐใช้ ‘โดรน’ (เครื่องบินรบไร้พลขับ) ปฏิบัติการกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงอย่างอัลกออิดะฮ์ในเยเมนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ทั้งๆ ที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่แทบไม่รู้จักประเทศเยเมน ไม่ทราบข่าวสถานทูตถูกทำลาย หรือแม้แต่นโยบายการใช้โดรนในประเทศเหล่านั้น
7. หากไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นที่เบงกาซี สถานะของประธานาธิบดีโอบามาจะถูกเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ขณะที่ มิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน จะออกมาโจมตีทั้งหนังหมิ่นศาสนาอิสลามและปฏิกิริยาที่สหรัฐตอบโต้ทางการลิเบีย
ที่มา : alternet.org