ภูมิใจไทย-ชาติพัฒนากล้า-รวมไทยสร้างชาติ พร้อมหนุนเพื่อไทย แต่รับไม่ได้ ม.112 และต้องไม่มี ‘ก้าวไกล’ ในสมการ

วันนี้ (22 กรกฎาคม 2566) ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค จัดแถลงผลการหารือเรื่องแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคชาติพัฒนากล้า

เมื่อเวลา 14.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ก่อนร่วมแถลงต่อสื่อมวลชนว่า พรรคภูมิใจไทยอยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ตรงกับพรรคเพื่อไทย โดยบางช่วงบางตอนนายอนุทินได้กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยรับทราบถึงเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย และได้พูดคุยเกี่ยวกับข้อกังวลและข้อจำกัดต่างๆ ในการทำงานกัน เนื่องจากพรรคของตนไม่ได้อยู่ใน MOU ของ 8 พรรค

“เรามีความจำเป็นต้องเรียนให้ทราบว่า ถ้าเราจะเข้ามามีส่วนร่วมใดๆ คงไม่สามารถที่จะทำงานได้ หากยังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้งใดๆ แต่เป็นเรื่องของแนวทางการทำงาน เป็นเรื่องของความคิด วิธีการทำงาน” อนุทินกล่าว

ต่อมาสื่อมวลชนได้ถามถึงเงื่อนไขของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคก้าวไกล โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข้อตกลงของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่าจะมีการพูดคุยเพื่อหาเสียงสนับสนุนเพิ่ม จากนั้นเมื่อได้คำตอบหรือข้อเสนอใดๆ อาทิ พรรคภูมิใจไทยตอบชัดเจนว่าไม่สามารถร่วมทำงานกับพรรคก้าวไกลได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีสิทธิที่จะนำคำตอบที่ได้จากแต่ละพรรคการเมือง เข้าหารือกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหาข้อสรุปต่อไป

ส่วนนายอนุทินได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนเรื่องเงื่อนไขการทำงานร่วมกัน หากพรรคก้าวไกลยอมลดเพดานกฎหมายมาตรา 112 จะสามารถร่วมงานได้หรือไม่ โดยนายอนุทินกล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ที่วิธีการทำงานภายในรัฐสภาที่ต่างกัน ซึ่งย้ำมาตลอดว่าพรรคภูมิใจไทยมีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง

นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังตอบคำถามกรณีการเชิญพรรคภูมิใจไทยเข้ามาสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ถือเป็นการบอกเลิกพรรคก้าวไกลทางอ้อมหรือไม่ โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดแบบนั้น การหารือดังกล่าวเป็นแนวทางของ 8 พรรคร่วม ซึ่งจากนี้ตั้งใจว่าจะเชิญเกือบทุกพรรคการเมืองเข้ามาพูดคุย ยกเว้นบางพรรคที่ไม่อยู่ในเงื่อนไข

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค และนายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย และเข้าประชุมหารือแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ก่อนแถลงต่อสื่อมวลชน โดยบางช่วงบางตอนนายสุวัจน์กล่าวว่า ก่อนเข้ามาพูดคุยหารือกับพรรคเพื่อไทย ทางพรรคชาติพัฒนากล้าได้มีการจัดประชุมเพื่อกำหนดแนวทางในการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนากล้า (ชุดรักษาการ) ได้มีมติจากที่ประชุมในเรื่องจุดยืนการเข้าร่วมรัฐบาล ว่ามีความต้องการให้จัดตั้งรัฐบาลได้ลุล่วงโดยเร็ว และพรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบายและจุดยืนทางการเมืองที่เคยสัญญากับประชาชนไว้ 4 เรื่อง ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาล

1) พรรคชาติพัฒนากล้าสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเมือง

2) พรรคชาติพัฒนากล้ามีแนวทางชัดเจนในการสนับสนุนพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าพรรคอันดับที่ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จะเป็นหน้าที่ของพรรคอันดับที่ 2 หรือพรรคที่ได้คะแนนในลำดับรองลงมา

3) เร่งรัดแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องสินค้าราคาแพง

4) พรรคชาติพัฒนากล้ามีจุดยืนที่จะไม่แก้ไขและคงไว้ซึ่งประมวลกฎหมายมาตรา 112

นพ.ชลน่าน ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนอีกว่า พรรคชาติพัฒนากล้าติดเงื่อนไขเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 เช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยต้องนำคำตอบนี้เข้าสู่ที่ประชุมกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

ต่อมาในเวลา 17.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมคณะ เดินทางมาถึงที่ทำการพรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมหารือแนวทางการจัดตั้งรัฐบาล ก่อนจะร่วมแถลงต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ได้เข้ามาพูดคุยกับพรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับแนวทางการทำงานและจุดยืนของพรรคที่ไม่สามารถทำงานร่วมกับบางพรรคการเมืองได้ พร้อมย้ำว่าพูดคุยกันแค่เพียงเรื่องจุดยืนและแนวการทำงานเท่านั้น ไม่ได้คุยเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด

ด้าน นพ.ชลน่าน ยังคงกล่าวย้ำต่อสื่อมวลชนว่า การเชิญพรรครวมไทยสร้างชาติเข้ามาพูดคุยเป็นเพียงการหารือและรับฟังจุดยืน เงื่อนไข เพื่อนำไปประชุมกับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลดังที่กล่าวไปข้างต้น

ต่อมานายพีระพันธุ์กล่าวเสริมว่า วันนี้ไม่มีการพูดคุยเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาล เป็นเพียงการพูดคุยหารือและแสดงจุดยืนเท่านั้น นอกเหนือจากประเด็นการแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถรับได้ ยังมีเรื่องของแนวทางการทำงานด้วย และย้ำว่าหากมีพรรคการเมืองที่พรรครวมไทยสร้างชาติรับไม่ได้ ก็ไม่สามารถเห็นด้วย

Author

กนกวรรณ เชียงตันติ์
ผู้ถูกเลือกให้ปวดหลัง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า