ตรวจแถว ผบ.เหล่าทัพ เช็กลิสต์ ‘คลังแสง’ เรือดำนํ้าต้องมา F-35 ก็อาจจะมี

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายทหารรับราชการสนองพระเดชพระคุณ โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (รักษาการ) เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ โดยมีตำแหน่งสำคัญดังต่อไปนี้คือ

  • พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)
  • พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ รองผู้บัญชาการทหารบก เป็น ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
  • พลเรือเอกอะดุง พันธ์ุเอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เป็น ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)
  • พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็น ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.)

โผทหารในตำแหน่งระดับสูงนี้เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ นิ่งเงียบ ไม่พลิกโผ โดยเฉพาะโผในส่วนของกองทัพบกที่ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนนี้ เสนอเอาไว้ และจากการแต่งตั้งทั้งหมดเป็นการดันนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 และ 24 ขึ้นหน้ากระดานทั้งสิ้น รวมไปถึง ‘ทหารคอแดง’ ยังคงนั่งในตำแหน่งสำคัญอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในส่วนของ ทบ. และกองบัญชาการกองทัพไทย 

การแต่งตั้งนี้เหมือนเป็นการตั้งแถวรอต้อนรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ นั่นคือ นายสุทิน คลังแสง สส. พรรคเพื่อไทย หากไม่พลิกโผ นายสุทินจะเป็น รมว.กลาโหม ที่มาจากพลเรือนเป็นคนที่ 5 ในรอบ 9 ปี ต่อจากพลเรือนคนสุดท้ายที่นั่งหัวโต๊ะสภากลาโหม นั่นคือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งท้ายที่สุดถูกกองทัพยึดอำนาจในปี 2557

เช็กชื่อ ผบ.สส. และ ผบ.เหล่าทัพ ใครเป็นใคร?

  • พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

    พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ดำรงตำแหน่งรอง ผบ.สส. ก่อนขยับขึ้นมาเป็น ผบ.สส. แม้ พลเอกเฉลิมชัย ศรีสวัสดิ์ ผบ.สส. ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการและเป็น ‘ทหารม้าคอแดง’ ชั่งใจอยากบาลานซ์ให้ ‘คอเขียว’ มารับช่วงต่อในกองบัญชาการกองทัพไทย แต่สุดท้ายเคาะ ‘ทรงวิทย์’

    พล.อ.ทรงวิทย์ ชื่อเล่น ‘อ๊อบ’ เป็นลูกชายของ พลเอกอิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. และเลขาธิการคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) เพื่อนรักร่วมรุ่นโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่นที่ 5 และพี่ภรรยาของ พลเอกสุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ ‘เสียสัตย์เพื่อชาติ’ โดย พล.อ.ทรงวิทย์ เข้าโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 24 ศึกษาต่อยังสถาบันการทหารเวอร์จิเนียร์ (Virginia Military Institute: VMI) ไม่ได้จบการศึกษาจาก จปร. จึงติด ‘ม่านประเพณี’ คนจบโรงเรียนทหารจากต่างประเทศ จะขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญอย่าง ผบ.ทบ. ไม่ได้ จนต้องข้ามห้วยจาก ทบ. มาเป็นรอง ผบ.สส. ก่อนขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.สส. 

    พล.อ.ทรงวิทย์ เติบโตจากกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์แห่งทุ่งบางเขน ก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็นทหารคอแดงในหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (ฉก.ทม.รอ. 904) ต่อด้วยตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1 รองเสนาธิการทหารบก และ เสธ.ประจำ ผบ.ทบ. ก่อนติดม่านประเพณีต้องข้ามห้วยไป บก.กองทัพไทย ในที่สุด

    พล.อ.ทรงวิทย์ เป็นที่รู้จักในช่วงการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เพราะได้นำกำลังเข้ารักษาความสงบเรียบร้อย คลี่คลายความตึงเครียดบริเวณมหาวิทยาลัยรามคำแหงและสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ที่คนเสื้อแดงและกลุ่มนักศึกษารามคำแหงเกิดการปะทะกัน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย นักศึกษารามคำแหงกลุ่มดังกล่าวจึงเรียกร้องไปยังทหารให้เข้าแก้ไขสถานการณ์ในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 รวมไปถึงการเข้าเคลียร์แยกหลักสี่ ที่เกิดการปะทะกันระหว่าง กปปส. กับคนเสื้อแดง หรือที่ทราบกันดีคือ เหตุการณ์ ‘มือปืนป็อปคอร์น’ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ทำให้ ลุงอาแกว แซ่ลิ้ว พ่อค้ารถเข็น บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จนดาราสลิ่ม กปปส. นำเหตุการณ์มือปืนป็อปคอร์นไปชื่นชมหยอกล้อกันบนเวที
พันเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ร. 11 รอ. (ยศในขณะนั้น) ได้เข้าควบคุมสถานการณ์บริเวณ ม.รามคำแหง หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มนักศึกษารามฯ และคนเสื้อแดงที่ปักหลักชุมนุมในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ช่วงปี 2556
  • พลเอกเจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก

    พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ รอง ผบ.ทบ. ได้ขยับขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. ตามการวางตัวของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ที่กำลังเกษียณอายุราชการ พล.อ.เจริญชัย เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 จปร. 34 เติบโตจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ ‘ทหารเสือราชินี’ และกองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ หรือ ‘บูรพาพยัคฆ์’ จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในน้องรักของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก่อนเติบโตในสาย ‘คอแดง’ ที่กรุงเทพฯ จนได้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 รวมทั้งเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ. 904 ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และรอง ผบ.ทบ. ในเวลาต่อมา

    อย่างไรก็ตาม เรื่องการแต่งตั้ง พล.อ.เจริญชัย ไม่ใช่เรื่องการชิงตำแหน่งระหว่างสาย ‘วงศ์เทวัญ’ และ ‘บูรพาพยัคฆ์’ อีกต่อไป เพราะมีเส้นทางการเติบโตเฉกเช่น พล.อ.ประยุทธ์ แต่ในปัจจุบันเส้นพรมแดนระหว่างทั้งสองสายถูกละลายออกไปเสียหมดแล้ว เหลือเพียงทหารคอแดงเท่านั้น และในความจริงอีกทางหนึ่ง นี่คือการกลับมาของทหารสายบูรพาพยัคฆ์ครั้งแรกในรอบ 9 ปี นับตั้งแต่พลเอกอุดมเดช สีตบุตร ได้รับการโปรดเกล้าในปี 2557 อีกทั้ง พล.อ.เจริญชัย ยังเป็นนายทหารคอแดงคนที่ 3 ที่ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.
พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. ในเครื่องแบบเต็มยศรักษาพระองค์ของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือราชินี)
  • พลเรือเอกอะดุง พันธ์ุเอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ

    พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กองเรือยุทธการ ได้รับการโปรดเกล้าให้เป็น ผบ.ทร. เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในฐานะผู้บังคับการเรือ ทูตทหารเรือ และในระหว่างดำรงตำแหน่ง ผบ.กองเรือยุทธการ เป็นผู้รับผิดชอบเหตุการณ์ รล.สุโขทัย อับปางโดยตรง ทั้งยังเป็นประธานกรรมการกู้เรือหลวงสุโขทัย ได้เสนองบประมาณในการกู้เรือหลวงสุโขทัย 200 ล้านบาท โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ลงนามเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา พล.ร.อ.อะดุง ถูกหมายมั่นปั้นมือให้มาสานต่อโครงการใหญ่ของกองทัพเรือ 2 โครงการคือ ‘กู้ซาก รล.สุโขทัย’ กับ ‘เรือดำนํ้าจีน’ ที่ยังคงมีปัญหาคาราคาซังกับ ‘เครื่องยนต์จีน’ แทน ‘เครื่องยนต์เยอรมัน’ ที่ยังรอการอนุมัติจากทาง ทร.

    เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (1 กันยายน) ได้มีการแชร์ภาพเรือดำนํ้าจีนที่ปรากฏกลางทะเลแถวแสมสาร คาดว่าส่งมาฝึกร่วม Blue Strike ซึ่งเป็นเรือดำนํ้าชั้นซ่ง (Song) เคยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่จีนเคยเสนอให้ไทย แต่เก่ากว่าชั้นหยวน (Yuan) ที่ไทยสั่งต่อ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ข่าวเรือดำนํ้าจีนเทียบท่าสัตหีบ อาจมาพร้อมกับการอนุมัติเครื่องยนต์จีนแทนเครื่องเยอรมันก็เป็นได้
พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นประธานในพิธีลอยอังคารกำลังพลที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง
  • พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ

    พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ได้รับการโปรดเกล้าให้เป็น ผบ.ทอ. เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 นักเรียนนายเรืออากาศรุ่นที่ 31 เติบโตในสายนักบินขับไล่มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่แบบ 18 (F-5) แบบ 19 (F-16) และแบบ 20 (JAS-39) ทั้งยังเป็นอดีตผู้บังคับการกองบิน 7 สุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นหน่วยที่บรรจุเครื่องบินแบบ บข.20 และขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาในสายยุทธการมาโดยตลอด เช่น รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เสนาธิการทหารอากาศ และผู้ช่วย ผบ.ทอ. มีส่วนสำคัญในการประสานโครงการจัดหาเครื่องขับไล่ F-35 ซึ่งต่อมาเป็นโครงการเป็นหมัน เพราะสหรัฐฯ ไม่ได้ขายให้

    แต่ในปีงบประมาณ 2567 กองทัพอากาศได้ตั้งงบประมาณสำหรับการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบ บข.19 ซึ่งได้ไปปัดฝุ่นสเป็คเดิมเป็นเครื่องบินในยุค 4.5 โดยอาจมีตัวเลือกเป็นเครื่องบิน บข.19 (F-16 Block 70) หรือ บข.20 (JAS-39 E) อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกที่กล่าวมา ล้วนเป็นตัวเลือกที่ใช้งบประมาณถูกกว่าเครื่อง F-35 ทั้งยังได้รับการปรับปรุงให้มีความทันสมัยจนเป็นที่ต้องการของยูเครนและชาติในยุโรป เช่น F-16 Block 70/72 เป็นต้น
พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ขณะดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารอากาศ พร้อมด้วยภริยา เป็นประธานกิจกรรม Road To Top Gun ‘ทัพฟ้า พาฝัน ปั้นนักบินรบ’ ด้วยการนำเยาวชนโรงเรียนในพื้นที่รอบกองทัพอากาศ 80 คน ชมภาพยนตร์เรื่อง Top Gun: Maverick สร้างแรงบันดาลใจเติมฝัน F-35 เพื่อความมั่นคง

เช็กลิสต์ ‘คลังแสง’ วัดใจนโยบายกองทัพเพื่อไทย และสภากลาโหมยิ่งลักษณ์ 2

โผ ครม. รัฐบาลเศรษฐา 1 น่าจะมีความนิ่งแทบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยเลขาธิการ ครม. จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อ ครม. แล้วเสร็จในวันนี้ และสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ทันที ซึ่งหมายความว่าตำแหน่ง รมว.กลาโหม จะตกเป็นของ นายสุทิน คลังแสง สส. พรรคเพื่อไทยหลายสมัยและอดีตแกนนำเสื้อแดงมหาสารคาม ซึ่งจะเป็น รมว.กลาโหม จากพลเรือนคนที่ 5 ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งนี้ หลังจากคนสุดท้ายคือ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยดำรงตำแหน่งนี้มาแล้ว ซึ่งเคยถูกวิจารณ์ว่าประนีประนอมไม่เด็ดขาดต่อกองทัพ ก็ไม่วายถูกรัฐประหาร 

สำหรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม จะต้องนั่งในตำแหน่ง ปธ.สภากลาโหม หรือ ‘สนามไชย 1’ ดูแลภาพใหญ่ของกองทัพทั้งหมด ซึ่งนายสุทินยังใหม่และอาจจะไม่ถนัดงานกองทัพนัก จำเป็นต้องพึ่งพาทีมงานที่เคยอยู่ในกองทัพมาก่อน จากรายชื่ออดีตทหารเกษียณที่อาจมาเป็นทีมที่ปรึกษา รมว.กลาโหม เช่น พลเอกนิพัทธ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และ พลเอกสุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อทำการต่อด้ายแดง ผลักดันนโยบายกองทัพของพรรคเพื่อไทยต่อไป 

ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยได้นำเสนอนโยบายเกี่ยวกับกองทัพในช่วงการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในหลายเรื่อง เช่น ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ปฏิรูปกองทัพ สร้างทหารอาชีพ ป้องกันการแทรกแซงทางการเมืองจากกองทัพ ลดขนาดกองทัพ เป็นต้น จนหลายฝ่ายจับตา ‘คลังแสง’ พร้อมเตรียม ‘เช็กลิสต์’ รมว.กลาโหม จากพรรคเพื่อไทยว่า จะสามารถดำเนินนโยบายกองทัพได้มากน้อยขนาดไหน แน่นอนว่าจะต้องมีการประนีประนอมกับกองทัพเหมือนในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ 

อย่างไรก็ตาม การจัดโผทหารในปัจจุบันแทบปราศจากการเมืองโดยสิ้นเชิง รมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภากลาโหมคงได้แต่ ‘เคาะ’ โผที่ ผบ.เหล่าทัพส่งมาเท่านั้น การล้วงลูกจากฝั่งการเมืองในโผทหารแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลยในปัจจุบัน

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กห (ในขณะนั้น) พร้อมด้วยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. (ในขณะนั้น) บนยานเกราะล้อยางแบบ BTR-3E1

ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ส่งเสียงไปถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ฝาก รมว.กลาโหม คนใหม่เรื่องการปฏิรูปกองทัพว่า ขออย่าเรียก ‘การปฏิรูปกองทัพ’ แต่เป็น ‘การพัฒนาร่วมกัน’ เป็นการแสดงออกถึงความประนีประนอมกับกองทัพ และการส่งนายสุทิน ซึ่งเป็นอดีตแกนนำคนเสื้อแดง สส.อาวุโส ที่มีจังหวะจะโคนสุภาพนุ่มนวล อาจเป็นเพียง ‘ตัวกลาง’ เชื่อมระหว่างกองทัพรัฐบาลเพื่อไทยและทักษิณ มากกว่าจะมาดำเนินนโยบายกองทัพตามที่ได้ให้คำมั่นตอนรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งกับประชาชนก็เป็นได้

Author

ณัฏฐชัย ตันติราพันธ์
อดีตผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อดีต น.ศ. ป.โท ในประเทศอีเกียที่เรียนไม่จบ

Illustrator

พัชราภรณ์ สุจริต
กราฟิกดีไซน์ ที่รักการทำงานคราฟต์ มีสิ่งที่ชอบและอยากทำมากมาย
แต่ที่ชอบมากๆ คงจะเป็นการอ่านหนังสือ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า