นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า น้ำผึ้งมานูกากลายเป็นอาวุธชนิดใหม่ที่สามารถป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลได้
นักวิจัยในมหาวิทยาลัยเซาธ์แธมป์ตัน (Southampton University) ค้นพบว่า การทำความสะอาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาลโดยการใช้น้ำยาที่สกัดจากน้ำผึ้งจากประเทศนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์
การค้นพบดังกล่าว ช่วยลดจำนวนกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากแบคทีเรีย เช่น ผู้ป่วยกว่า 1 ใน 4 ของโรงพยาบาลที่ใช้สายสวนหรือท่อต่างๆ โดยการสอดเข้าไปในร่างกายเพื่อนำของเหลวออกมา และผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะรวมถึงโรคติดเชื้ออื่นๆ หลายพันคนในแต่ละปี
อันตรายจากการใช้สายสวนปัสสาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแก่สำนักงานหลักประกันสุขภาพ (National Health Service) แห่งสหราชอาณาจักรสูงถึง 1 – 2.5 ล้านยูโร (ประมาณ 37.27 – 93.18 ล้านบาท) และมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวถึงปีละ 2,100 คน
น้ำผึ้งได้ถูกนำมาใช้เพื่อเยียวยารักษาผู้ป่วยมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษแล้ว และจากผลวิจัยล่าสุดชี้ให้เห็นว่า น้ำผึ้งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบได้ดี
จากผลการศึกษาดังกล่าว ทีมนักวิจัยได้ทดลองศักยภาพของน้้าผึ้งชนิดที่มาจากเกสรดอกไม้ชนิดเดียว (mono-floral honey) ซึ่งถูกผลิตออกมาจากเกสรดอกไม้ของต้นมานูกา โดยนักวิจัยได้นำน้ำผึ้งไปละลายกับน้ำกลั่นที่ปราศจากอากาศเพื่อหาค่าความเข้มข้น และนำไปใช้ต้านเชื้อแบคทีเรีย ผลปรากฏว่ามีค่าความเข้มข้น 3.3 – 16.7 เปอร์เซ็นต์
ผลสรุปดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นว่า น้ำผึ้งมานูกามีความสามารถในการยับยั้ง ‘การเกาะติด’ ของเชื้อแบคทีเรีย จึงนำไปสู่การคิดค้นและพัฒนาไบโอฟิล์ม (biofilm) สำหรับเคลือบหรือติดอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรีย
บาชีร์ ลวาลีด (Bashir Lwaleed) รองศาสตราจารย์คณะสหเวชศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเซาธ์แฮมป์ตัน กล่าวว่า
“อัตราการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเป็นสาเหตุใหญ่ที่ก่อให้เกิดโรคติดเชื้อต่างๆ ในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นพื้นที่ภาคปฏิบัติทางการแพทย์ โดยเราเชื่อว่าผู้ป่วยจะได้รับผลประโยชน์จากน้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติยับยั้งการติดเชื้อ ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงมากในกลุ่มน้ำผึ้งที่มีสีเข้มอย่างน้ำผึ้งมานูกา ไม่น่าเชื่อว่าประสิทธิภาพดังกล่าวจะมาจากน้ำผึ้ง”