ตารางกำหนดรับปริญญาของหลายมหาวิทยาลัยเริ่มออกแล้ว เด็กปี 4 (หรือปี 5) ได้ทั้งเกรดและได้ทั้งใบประกาศนียบัตรเรียบร้อย พร้อมเดินหน้าเข้าสู่ตลาดแรงงาน แต่อีกหลายมหาวิทยาลัยเกรดก็ยังออกไม่ครบ ทำให้บางคนต้องสูญเสียโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย
เอาน่า ไม่ต้องเสียใจไป
งานสมัยนี้หายาก (เพิ่มกอไก่เข้าไปอีกเท่าไหร่ก็ได้ตามใจชอบ) การแข่งขันในตลาดแรงงานแสนเข้มข้น จนแทบจะเรียกว่า ‘เหนียวหนืด’ จากเพื่อนกลายเป็นศัตรูได้เพียงพริบตา (หากสมัครงานที่เดียวกัน แถมเขายังรับแค่คนเดียวเสียด้วย) แม้จะมีใบประกาศนียบัตรพร้อมเกรดสวยๆ ใบรับรองผ่านการฝึกงานจากบริษัทชั้นนำ คะแนนภาษาอังกฤษแสนสวยหรู เรียงรายอย่างเป็นระเบียบในแฟ้มที่ถืออยู่ในมือ แต่ทั้งหมดทั้งมวล ก็ไม่ได้รับประกันหรอกนะ ว่าจะช่วยให้คุณสัมภาษณ์งานผ่าน
เพราะรู้ว่าไม่ง่าย WAY จึงหยิบข้อแนะนำจาก ‘Forbes Human Resources Council’ มาให้พวกเธอได้รู้ว่า HR จากบริษัทชั้นนำระดับโลกเขาคิดกันอย่างไร
โชว์ให้เห็นว่าคุณ ‘หิว/กระหาย’ ความรู้ขนาดไหน
คุณเพิ่งเรียนจบ คุณมาสัมภาษณ์งานครั้งแรก HR เขารู้หมดแหละ ว่านี่คือ ‘ครั้งแรก’ ของคุณ เขาไม่คาดหวังให้คุณต้องมาแก้ไขปัญหาในองค์กรและเป็นผู้นำในเมกะโปรเจ็คท์หรอก คุณไม่มีประสบการณ์เลยสักนิด ดังนั้น สิ่งที่คุณทำได้คือ แสดงตัวไปเลยว่า คุณพร้อมที่จะเรียนรู้ในการแก้ไขปัญหาพวกนั้น คุณพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา มีความตั้งใจจะช่วยเหลือทีม งานเล็กงานน้อยก็ไม่บ่น ถ้ามันช่วยให้คุณได้เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้น แสดงพลังด้านบวกใส่ไปเยอะๆ – เอริกา ไซอินอลฟี (Enrica Sighinolfi) จาก Opportunity Network
ทำให้พวกเขาตกตะลึงไปกับประสบการณ์ที่แสนน่าทึ่งในรั้วมหาวิทยาลัยของคุณ
เมื่อเรียนก็ต้องโฟกัสที่การเรียน ถือว่าถูกต้องแล้ว แต่อย่าลืมไปว่า ถ้าอยากมี resume ที่แตกต่างจากคนอื่น ก็อย่าลืมทำกิจกรรมด้วย แนะนำให้ดีที่สุด กิจกรรมนั้นต้องแสดงให้เห็นทักษะทั้งทางวิชาการ และพัฒนาทักษะอื่นๆ นอกเหนือจากนั้น เช่น การทำงานเป็นทีมเวิร์ค ความสามารถในการเป็นผู้นำ เป็นต้น อ้อ อย่าลืมตอบอีเมลว่า “ขอบคุณ” ทุกครั้งที่ได้อีเมลติดต่อกลับมาด้วยล่ะ จะช่วยให้คุณเป็นที่น่าจดจำขึ้นอีกหนึ่งสเต็ป – แนนซี อลองโซ (Nancy Alonso) จาก Medulla LLC
อย่าปิดงำ มีดีอะไรก็จัดไป
ทำความรู้จักและทำความเข้าใจกับบริษัทที่คุณสมัครงาน ด้วยการหาข้อมูลสักนิดก่อนไปสัมภาษณ์งาน เพราะบางทีคุณอาจเจอคำถามประมาณว่า CEO บริษัทชื่ออะไร ตอบไม่ได้เสียคะแนนเลยนะคุณ ที่สำคัญ หากงานที่คุณเคยฝึกงานหรือมีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัคร ก็บอกเขาไปเลยว่า คุณเคยทำอะไรมาบ้าง เรียนรู้อะไรมาบ้าง หรือพบเจออุปสรรคอะไรมาบ้าง อย่าปิดงำเรื่องดีๆ แบบนี้ เล่าเลย – บริดเจ็ตต์ ไวล์เดอร์ (Bridgette Wilder) จาก Media Fusion
มั่นใจได้ แต่อย่าเกินไป
การมั่นใจในตัวเองไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่หากคุณเพิ่งจบใหม่มาแบบสดๆ ร้อนๆ อย่าโชว์ความมั่นใจที่คุณมีมากจนเกินไป ลดระดับลงมานิดหนึ่ง หากคุณอยากโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง ความมั่นใจและความอ่อนน้อมถ่อมตนต้องมีเท่าๆ กัน ให้มันพอดิบพอดี ขณะสัมภาษณ์งาน – โดนัลด์ ลาร์เซน (Donald Larsen) จาก LGFCU
สกิลบูรณาการต้องมี
เนื้อหาใน resume ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่ HR อยากเห็นมากที่สุดคือ คุณจะนำสิ่งที่คุณเขียนใน resume ความรู้ที่คุณมีทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยมาปรับใช้อย่างไรมากกว่า ถ้าสายงานตรงกับคณะที่คุณเรียนก็โชคดีไป แต่ถ้าไม่ละก็ การมีเกรดเฉลี่ย 4.0 เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม (ปรบมือ) แต่คุณจะนำเกรดแสนสวยเหล่านั้นมาทำงานกับองค์กรที่คุณสมัครงานได้อย่างไร คุณอาจลองยกตัวอย่างด้วยการเสนอให้เขาเห็นว่า ผลงานที่คุณเขียนใน resume มันเกี่ยวข้องกับงานที่คุณสมัครอย่างไร มันจะช่วยบริษัทในอนาคตได้อย่างไร นี่ล่ะ คือสิ่งที่ทุกบริษัทอยากเห็น ดึงศักยภาพที่คุณมีให้เขาเห็นและนำไปบูรณาการกับทุกองค์ความรู้ที่คุณมี – ทิฟฟานี เซอร์เวเทียส (Tiffany Servatius) จาก Scott’s Marketplace
อ้างอิงข้อมูลจาก: forbes.com