ภาพประกอบ: Shhhh
หนึ่งในภาพจำของเหตุการณ์ 9/11 คือหญิงผู้รอดชีวิตคนหนึ่งที่เดินออกมาจากอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ด้วยร่างขาวที่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นจนขาวโพลน ชาวอเมริกันรู้จักว่าเธอคือ ‘Dusty Lady’
วันที่ 11 กันยายน 2001 มาร์ซี บอร์เดอร์ส (Marcy Borders) เพิ่งเริ่มงานเดือนแรกที่ Bank of America บนชั้น 81 ของอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ฝั่งเหนือ เมื่อเครื่องบินพุ่งชน อาคารเริ่มเขย่า เธอตกใจกลัว พยายามหาทางหนี และไม่ฟังคำสั่งของเจ้านายที่บอกให้ทุกคนอยู่กับที่ เธอวิ่งผ่านม่านฝุ่นควันลงบันไดมาที่ล็อบบี้ของอีกอาคารหนึ่ง เธอได้ถูกบันทึกภาพไว้โดย สแตน ฮอนดะ ก่อนที่ตำรวจจะสั่งให้ทุกคนหนีออกมา
แม้ภาพของเธอจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของ 9/11 แต่ในฐานะผู้รอดชีวิต เธอต้องรับมือกับอาการซึมเศร้ารุนแรง ไม่มีงานทำ ติดเหล้า ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกสองคนได้ และยังรู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งที่เห็นเครื่องบิน
หลังบำบัดจนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ในปี 2011 เมื่อพฤศจิกายน 2014 บอร์เดอร์สเปิดเผยว่าเป็นมะเร็ง โดยเธอเชื่อว่ามีสาเหตุมาจากฝุ่นควันในเหตุการณ์ปี 2001 เพราะผู้รอดชีวิตจาก Ground Zero ในวันนั้นนับพันถูกตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง เธอเสียชีวิตในวัย 42 ปี วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2016 ด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
30 มิถุนายน 2016 ศูนย์มะเร็งจากเหตุการณ์ที่ World Trade Center ของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ 9/11 ถูกตรวจพบเป็นมะเร็งมากกว่า 5,441 คน เพิ่มขึ้นสามเท่าจากปี 2014
ตั้งแต่มกราคม 2013 ถึงมกราคม 2016 ผู้ป่วยโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,525 คนต่อปี และจำนวน 5,441 คนนี้นับเฉพาะส่วนที่มาเข้าโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยจากเหตุการณ์ 9/11 ของรัฐบาลเท่านั้น
จากจำนวนนั้น 4,692 คือเจ้าหน้าที่ฉุกเฉิน พนักงานเคลียร์พื้นที่ และอาสาสมัครที่เข้าไปช่วยงานหลังเกิดเหตุ ทั้งที่ World Trade Center ตึก Pentagon และพื้นที่ใกล้ๆ กับ แชงส์วิลล์ เพนซิลเวเนีย ที่ United Airlines Flight 93 ตก กับเหยื่อที่รอดชีวิตอีก 749 คน และผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมดอยู่ในช่วงอายุ 55-64 ปี คาดกันว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลของการสัมผัสสารก่อมะเร็งต่างๆ และมลพิษที่ถูกปล่อยออกมาหลังการก่อวินาศกรรม
ข้อมูลปี 2017 ของสำนักงานดับเพลงนิวยอร์คเปิดเผยว่า มีพนักงานดับเพลิงเสียชีวิตขณะตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ถล่มลงมา 343 ราย และ 16 ปีผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจากอาการป่วย 159 ราย เฉพาะปีที่แล้ว 32 ราย
หมายเหตุ: เผยแพร่ครั้งแรกในนิตยสาร WAY ฉบับที่ 89
Author
