ภาพประกอบ: Shhhh
เพราะบรรดานักเรียนหญิงปฏิเสธการสวมกระโปรงมาโรงเรียน พร้อมส่งเสียงบ่นว่า “ทำไมพวกหนูต้องใส่กระโปรง” โรงเรียนประถมในนิวซีแลนด์ จึงเริ่มใช้นโยบายยกเลิกชุดนักเรียนแบ่งแยกชายหญิง
Dunedin North Intermediate ในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ มีเด็กนักเรียนในวัย 10-13 ปี กว่า 200 คน ในปี 2015 นักเรียนหญิงส่วนหนึ่งไม่ยอมทำตามข้อบังคับของโรงเรียนที่ว่า เด็กผู้หญิงต้องสวมกระโปรงลายสก็อต (kilt) เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ และบอกว่า ระเบียบที่เด็กต้องใส่ชุดนักเรียนแบบเดิมเป็นสัญลักษณ์การแบ่งแยกเพศที่ล้าสมัยไปแล้ว
โรงเรียนรัฐในอังกฤษเริ่มใช้นโยบายความเท่าเทียมทางเพศในชุดนักเรียนตั้งแต่ปี 2016 ทาง Dunedin North Intermediate จึงไม่เห็นว่าการข้ามพ้นกฎระเบียบเดิมเป็นเรื่องหนักหนา พวกเขาจึงอนุญาตให้เด็กผู้หญิงใส่กางเกงได้
ตอนนี้ชุดนักเรียนประถมถูกแบ่งเป็นห้าออพชั่น สามารถสวมใส่ได้ทั้งเด็กชายและเด็กหญิง ทั้งกางเกงขาสั้น กางเกงยาวถึงเข่า กางเกงขายาว กระโปรงลายสก็อต และกางเกงกระโปรง (culottes)
อย่างไรก็ตาม ทางเลือกนี้ค่อนข้างซับซ้อน เพราะเด็กหญิงที่ใส่กางเกงขายาวมาเรียนถูกล้อว่าแต่งตัวเหมือนผู้ชาย และพ่อแม่จำนวนไม่น้อยก็ยังสับสนกับแนวคิดใหม่นี้อยู่ แต่โรงเรียนยืนยันว่า แนวคิดนี้จะช่วยสอนให้เด็กๆ ยอมรับความหลากหลายของชุดความคิดในสังคมที่ต้องเจอในอนาคต ทั้งการกลั่นแกล้ง การหมิ่นหยาม เหยียดเพศ และต่อต้าน LGBTQ
“ฉันพยายามค้านเวลาใครๆ บอกให้สวมกระโปรงมาทำงานทุกวัน เพราะฉันเป็นผู้หญิง นี่คือเสียงสะท้อนจากเด็กๆ ที่บอกว่า เรายังยึดติดอยู่กับการแบ่งแยกอัตลักษณ์ทางเพศอยู่ และตอนนี้สังคมเป็นยังไงกันบ้างแล้ว” ไฮดี เฮย์เวิร์ด (Heidi Hayward) อาจารย์ใหญ่ Dunedin North Intermediate School กล่าว
เฮย์เวิร์ดยังบอกว่า เธอไม่ได้หวังว่าเด็กผู้ชายจะเปลี่ยนมาสวมกระโปรงกันในเร็วๆ นี้ “แต่มันส่งสารไปยังเด็กว่า มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยหากคุณจะเลือกอะไรที่ใส่แล้วรู้สึกสบาย” แต่ถึงจะก้าวหน้าเรื่องเครื่องแบบ เฮย์เวิร์ดบอกว่าโรงเรียนยังแยกห้องน้ำชายหญิง แต่ด้วยแนวคิดริเริ่มแบบนี้ ในอนาคตเธออาจจะกลับมาทบทวนเรื่องห้องน้ำอีกครั้งก็ได้