เรื่องตลกสีดำของ เทรเวอร์ โนอาห์

Yes. Yes. Africa won the World Cup! Africa won the World Cup!

– แอฟริกาชนะเลิศฟุตบอลโลก

คือประโยคติดตลกของ เทรเวอร์ โนอาห์ (Trevor Noah) พิธีกรทอล์คโชว์อเมริกัน ที่รู้สึกว่ามีคนจำนวนมากรู้สึกว่ามันไม่น่าขำเลยสักนิด

ผมรู้ละ ผมรู้ละ พวกเขาต้องบอกว่านี่คือทีมชาติฝรั่งเศส แต่ดูพวกเขาสิ คุณคงไม่ได้ผิวสีแทนแบบนั้นเพราะไปเที่ยวตอนใต้ของฝรั่งเศสมาแน่ๆ

ยังไม่เลิก ดูสิ พอล ป็อกบา กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป ที่ยิงประตูในนัดชิงก็ลูกหลานแอฟริกันทั้งนั้น

แน่นอนว่าเมื่อประโยคนี้หลุดออกมาในยุคที่โลกฟุตบอลพยายามกำจัดการเหยียดผิวและความต่างออกไปจากสนามหญ้าที่มีผู้คนหลากเชื้อชาติวิ่งปะปนกัน เช่น แคมเปญ Kick It Out ที่เริ่มขึ้นเมื่อสองทศวรรษก่อน ผู้ชมคลิปสั้นๆ หรืออ่านข่าวของโนอาห์ – ซึ่งเป็นคนผิวดำ คงรู้สึกปรี๊ดแตกว่าทำไมบุคคลสาธารณะในชุดสูทถึงกล่าวถ้อยคำลักษณะนี้ออกมา

ทูตฝรั่งเศสประจำสหรัฐ เฌราร์ด อาโรด์ (Gérard Araud) คือคนแรกๆ ที่นำก้อนอิฐมามอบให้ผ่านจดหมายที่โนอาห์นำมาอ่านในสตูดิโอระหว่างพักโฆษณาในรายการ เนื้อความส่วนหนึ่งกล่าวว่า “แบ็คกราวด์ที่มากมายและไม่เหมือนกันของผู้เล่นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายของฝรั่งเศส”

“ฝรั่งเศสไม่ได้อ้างอิงถึงประชากรของตัวเองจากเชื้อชาติ ศาสนา หรือถิ่นกำเนิด”

ซึ่งโนอาห์คอมเมนต์ตอบว่า ดูเหมือนนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสจะปฏิเสธ ‘ความเป็นฝรั่งเศส’ ของตัวเองนะ

“คนดำทั่วโลกสนับสนุนความเป็นแอฟริกัน” ของฝรั่งเศสในฟุตบอลโลก

“เมื่อผมพูดว่าพวกเขาเป็นแอฟริกัน ผมไม่ได้พูดเพื่อกีดกันพวกเขาออกจากความเป็นฝรั่งเศส แต่ผมชอบมากกว่าที่จะใช้มันเพื่อรวมพวกเขาเข้ากับความเป็นแอฟริกันของผม”

“ผมกำลังพูดว่าผมเห็นคุณ พี่น้องเชื้อสายแอฟริกันของผม” และโต้แย้งทูตว่า “การที่คุณจะเป็นฝรั่งเศส คุณต้องเอาสิ่งที่ทำให้คุณเป็นแอฟริกันออกไป”

อาโรด์จบการโต้ตอบในวันถัดมาว่า โนอาห์พูดถึงแต่ความเป็นแอฟริกัน ไม่ได้พูดถึง double identity “โนอาห์พูดว่าพวกเขา (นักฟุตบอล) เป็นแอฟริกัน พวกเขาไม่ได้มีสิวสีแทนจากการไปเที่ยวตอนใต้ของฝรั่งเศส มันไม่ใช่ว่าเขาไม่สามารถเป็นชาวฝรั่งเศสได้เพราะพวกเขาผิวดำ นี่เป็นข้อโต้แย้งของพวกคนขาวสุดโต่ง

ทูตฝรั่งเศสยังย้ำอีกว่า

ยกเว้นสองคน ผู้เล่นทีมชาติฝรั่งเศส 23 คน ที่เหลือเกิดในฝรั่งเศส เรียนหนังสือในฝรั่งเศส เริ่มเล่นฟุตบอลในฝรั่งเศส พวกเขาเป็นพลเมืองของฝรั่งเศส

เชื้อชาติหลากหลายในทีมฝรั่งเศส

เฉพาะในทีมชาติฝรั่งเศส มีการแจกแจงออกมาว่า นักฟุตบอล 12 คนมาจากประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และถ้าดูจากพื้นเพเดิมของนักเตะแต่ละคน อะไรที่ทำให้ เทรเวอร์ โนอาห์ บอกว่านี่ไม่ใช่ “แชมป์โลกของฝรั่งเศส”

18 กรกฎาคม SPORF สื่อกีฬาฝรั่งเศสได้ลิสต์รายชื่อนักฟุตบอลพร้อมแปะธงชาติตามเชื้อชาติของแต่ละคน

พอล ป็อกบา / กีนี

โกร็องแต็ง โตลิสโซ / โตโก

เบนจามิน เมนดี / ไอวอรีโคสต์

ซามูเอล อุมตีตี / แคเมรูน

อาดิล รามี / โมร็อคโค

นาบิล เฟคีร์ / อัลจีเรีย

เพรสแนล คิมเพมเบ / คองโก

สตีเวน เอ็นซองซี / คองโก

สตีฟ ม็องด็องดา / คองโก

ฌิบริล ซิดิเบ / มาลี

เอ็นโกโล ก็องเต / มาลี

ฮูโก โยริส / สเปน

ลูคัส แอร์นานเดซ / สเปน

มุสซา เดมเบเล / เซเนกัล

คีเลียน เอ็มบัปเป / อัลจีเรีย

อ็องตวน กรีซมัน / เยอรมนี

โอลิวิเยร์ ชิรูด์ / อิตาลี

โธมัส เลอมา / ไนจีเรีย

“ทุกคนรวมกันเป็นหนึ่งเพื่อฝรั่งเศส”

ไม่นานจากนั้น เบนจามิน เมนดี ได้ออกมาทวีตสวนเพื่อ ‘แก้’ ข้อความของ SPORF ด้วยการลิสต์รายชื่อเดียวกัน แต่แปะธงชาติฝรั่งเศส และทิ้งท้ายด้วยอีโมจิขยิบตา “Fixed” – แก้ไขแล้ว

เราคือแอฟริกัน

มีข้อสังเกตว่า หลังตัวแทนทั้งห้าของทวีปแอฟริกาต้องโบกมือลาฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ทีมที่ชาวแอฟริกันส่วนใหญ่เลือกเทใจให้คือ ‘ฝรั่งเศส’ เพราะมีผู้เล่นหลายคนมีเชื้อสายแอฟริกัน ไกลสุดโต่งกว่านั้นคือรองประธานาธิบดีเคนยา วิลเลียม รูโต (William Ruto) ถึงกับทวีตข้อความก่อนนัดชิงชนะเลิศกับโครเอเชียว่า ฝรั่งเศสคือ “ทีมแอฟริกันทีมเดียวในฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ”

และหลังจากฝรั่งเศสคว้าแชมป์ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายจากสหรัฐ คาเล็ด บีย์ดูน (Khaled Beydoun) พยายามย้ำความจริงกับฝรั่งเศสว่า ประชากรส่วนใหญ่ของพวกเขาคือผู้อพยพและมุสลิม

“80 เปอร์เซ็นต์ของทีมพวกคุณคือแอฟริกัน ตัดเรื่องเหยียดผิวออกไป 50 เปอร์เซ็นต์ของทีมเป็นมุสลิม ตัดเรื่องเกลียดกลัวมุสลิมออกไป ฝรั่งเศสและมุสลิมทำให้พวกคุณชนะเลิศฟุตบอลโลกสมัยที่สอง ตอนนี้คืนความยุติธรรมให้พวกเขาได้แล้ว” ซึ่งแน่นอนว่าข้อความนี้เป็นไวรัล ได้ทั้งก้อนหินและดอกไม้ไปพอสมควร

เช่นเดียวกับ เทรเวอร์ โนอาห์ ที่ยังไม่จบง่ายๆ ว่า

“นี่คือความเพี้ยนที่ผมพบในสิ่งที่เรากำลังโต้แย้งกัน คือ คนเหล่านี้ พวกเขาเป็นแอฟริกัน พวกเขาเป็นฝรั่งเศส ทำไมพวกเขาเป็นทั้งสองอย่างไม่ได้ล่ะ”

คุณเป็นฝรั่งเศสและแอฟริกันในเวลาเดียวกันไม่ได้?

หน้าที่ของเชื้อชาติในฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องทีมฟุตบอลจะทำให้ฝรั่งเศสหลายเชื้อชาติรวมกันเป็นหนึ่งภายใต้ธงเดียวกัน ความพยายามทำลายความแตกต่าง เช่น การแทนที่ทำว่า ‘เชื้อชาติ’ ด้วยคำว่า ‘เพศ’ รัฐธรรมนูญให้ความเสมอภาค โดยไม่มีการเก็บข้อมูลสำมะโนประชากรและสถิติด้านเชื้อชาติ ชาติพันธ์ุ และศาสนาของพลเมือง แต่ในทางปฏิบัติอาจไม่ได้เป็นไปตามนั้นทั้งหมด เพราะการเหยียดผิวและเลือกปฏิบัติยังมีอยู่จริงในฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำร้ายร่างกายคนดำไม่ต่างจากในสหรัฐ และเรื่องนี้ก็เป็นข่าวพาดหัวให้เห็นอยู่บ่อยครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

มีการวิพากษ์แนวคิด ‘ความเป็นหนึ่งเดียว’ ว่ากำลังจะเป็นเรื่องล้าสมัย เพราะโมเดลดังกล่าวออกแบบเพื่อรวมชาติ ชาวเบรอตง (Bretons) คอร์ซิกัน (Corsicans) และอื่นๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ทุกคนมีสำนึกถึง ‘ความเป็นฝรั่งเศส มีรากเหง้าวัฒนธรรมฝรั่งเศส ภาษาฝรั่งเศส และมีอัตลักษณ์ความเป็นฝรั่งเศส แต่แนวคิดนี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความหลากหลายร่วมสมัยของเชื้อชาติในฝรั่งเศส เมื่อเป็นเช่นนี้ บรรดาชนกลุ่มน้อย กลุ่มคนที่ไม่ใช่คนขาว คนผิวดำ ผู้อพยพทั้งหลาย รวมทั้งผู้สืบเชื้อสายรุ่นที่ 3 รุ่นที่ 4 จากหลายชาติจึงเริ่มเผชิญกับ ‘ความเป็นอื่น’ ในฝรั่งเศส

หลังเหตุก่อการร้ายในปารีสเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2015 ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากเริ่มมีความหวาดกลัวชนกลุ่มน้อยและคนเชื้อชาติอื่นมากขึ้น หวาดกลัวชาวอาหรับ โดยเฉพาะชาวมุสลิม

เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ของฝรั่งเศสทำหน้าที่อย่างไรในโลกยุคใหม่ ประชาชนควรมีสิทธิแสดงอัตลักษณ์และมีสำนึกตามเชื้อชาติของตนเองได้อย่างเสมอภาค หรือเราจะอยู่ภายใต้ความเสมอภาคโดยการไม่ต้องให้ใครแสดงความแตกต่างออกมา

ตัวอย่างที่เห็นในยุคใหม่ ยังมี hate speech หรือประโยคค่อนแคะประมาณว่า “ถ้าคุณไม่ได้แชมป์โลก คุณก็เป็นคนดำลูกหลานผู้อพยพธรรมดาๆ” มีการแบ่งแยกหาดทรายสำหรับคนขาวและชาวมุสลิม กระทั่งแยกสระว่ายน้ำไม่ใช้ร่วมกัน

จึงมีคนจำนวนหนึ่งตั้งคำถามว่า หากพิจารณาประโยคตั้งต้นของ เทเวอร์ โนอาห์ เราพบข้อเท็จจริงอะไรบ้าง

ฝรั่งเศสยอมรับทุกคนเป็น ‘ฝรั่งเศส’ จริงหรือไม่


อ้างอิงข้อมูลจาก:
  • timeslive.co.za
  • abc.net.au
  • edition.cnn.com
  • theconversation.com
  • qz.com

Author

กองบรรณาธิการ
ทีมงานหลากวัยหลายรุ่น แต่ร่วมโต๊ะความคิด แลกเปลี่ยนบทสนทนา แชร์ความคิด นวดให้แน่น คนให้เข้ม เขย่าให้ตกผลึก ผลิตเนื้อหาออกมาในนามกองบรรณาธิการ WAY

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า